วัด ถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน เป็นศูนย์กลางของชุมชน เป็นสถานที่ ที่ใช้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ประเพณี หรือพิธีกรรม รวมถึงเป็นที่พึ่งจิตใจ มาตั้งเเต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้วัดยังถือศูนย์การเรียนรู้เเห่งหนึ่ง เพราะความรู้หลาย ๆ อย่าง ก็ล้วนเกิดมาจากวัด ทั้งความรู้เรื่องศาสนา หรือความรู้เรื่องศิลปะวัตถุต่างๆที่เกิดขึ้นภายในวัด ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้น ส่งเสริมให้คนที่เข้าไปภายในวัดได้รับความรู้ภาพถ่ายโดยผู้เขียนวัดพลับ บางกะจะ ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่มีคุณค่าเเละเป็นเเหล่งเรียนรู้ที่ดี ของจังหวัดจันทบุรี โดยวัดเเห่งนี้ได้รับคัดเลือกให้เป็นอุทยานการศึกษา เเละได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกของชาติเรียบร้อยเเล้วอีกด้วย สาเหตุที่ทำให้วัดเเห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนนั้น เนื่องมาจากวัดเเห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งเเต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ซึ่งภายในวัดยังคงมีร่องรอยของโบราณวัตถุเเละโบราณสถานอยู่หลายอย่างให้เราได้เข้าไปศึกษา ได้เเก่เมรุเผาศพเเบบโบราณ (สำซ่างหรือสำสร้าง) เมรุเผาศพโบราณนี้เป็นของเก่าที่ถูกสร้างขั้นมาตั้งเเต่สมัยรัชกาลที่ 3 โครงสร้างที่ใช้ทำจะเป็นไม้ ออกเเบบให้มีลักษณะผายล่างสอบบน คือ จะประกอบด้วยไม้มุมละ 3 ต้น เเละเสาเเต่ละต้นจะเอนเค้าหากันเล็กน้อย ในส่วนของหลังคาจะมุงด้วยกระเบื้องดินเผาเป็นเหลี่ยม 5 ชั้น ด้านหน้าของเมรุนั้นยังมีศาลาโถง ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาพร้อมกับเมรุอีกด้วยภาพถ่ายโดยผู้เขียนภาพถ่ายโดยผู้เขียนพระปรางค์พระปรางค์เเห่งนี้ตั้งโดดเด่นอยู่ข้าง ๆ พระอุโบสถของวัด. เป็นพระปรางค์ที่เป็นศิลปะของกรุงรัตนโกสินทร์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อต้องการถวายให้เป็นพุทธบูชา โดยหลวงไมตรีประชากร ลักษณะของพระปรางค์จะตั้งอยู่บนฐานประทักษิณ 2 ชั้น เเต่ละด้านจะมีบันไดมุขยื่นออกมา โดยรอบทั้ง 4 ด้าน ยอดของพระปรางค์ มีการออกเเบบให้มีการซ้อนชั้นองค์พระปรางค์เล็ก มีชั้นฐานบาตรรองรับ เเละโดดเด่นด้วยการประดับซุ้มด้วยรูปปั้นเศียรช้างโดยรอบ ทั้ง 4 ทิศ ส่วนยอดบนสุดประดับตกเเต่งด้วยตรีศูลภาพถ่ายโดยผู้เขียนภาพถ่ายโดยผู้เขียนหอไตรกลางน้ำหอไตรเเห่งนี้ถูกออกเเบบให้เป็นหอสำหรับเก็บพระไตรปิฏกทรงไทย ตั้งอยู่กลางน้ำ ถูกสร้างขึ้นตั้งเเต่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีลักษณะเป็นอาคารไม้ทรงจั่ว ประดับเครื่องลำยอง ช่อฟ้าใบระกา หางหงษ์ ฝาไม้ของหอไตรจะเป็นฝาปะกน พบร่องรอยการเขียนลายรดน้ำ มีประตูเข้าเฉพาะด้านหน้าภาพถ่ายโดยผู้เขียนภาพถ่ายโดยผู้เขียนเจดีย์กลางน้ำเจดีย์กลางน้ำนี้ สร้างขึ้นจากรูปเเบบสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนกลาง เป็นเจดีย์ทรงระฆัง ตั้งเด่นอยู่กลางสระน้ำ ส่วนฐานมีการก่ออิฐถือปูนมีซุ้มโค้งยอดเเหลม องค์เจดีย์มีฐานเขียง 8 เหลี่ยมเเละรองรับฐานสิงห์ซ้อนกันอยู่สองชุด ถัดขึ้นไปจะเป็นลูกเเก้วที่ซ้อนกันอยู่เจ็ดชั้น ซึ่งจะรองรับบัวปากระฆังอยู่ ส่วนยอดจะเป็นบัลลังค์รูปสี่เหลี่ยม มีเสาหานรองรับมาลัยเถา ปล้องไฉน ปลียอด เเละเม็ดน้ำค้างภาพถ่ายโดยผู้เขียนวิหารไม้เป็นอาคารไม้เก่าเเก่ สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตตุรัส ยอดของหลังคาเป็นทรงจัตตุรมุข ภายในมีการประดิษฐานพระพุทธรูปปางบำเพ็ญกิริยา เป็นปางที่หาชมได้ค่อนข้างยากภาพถ่ายโดยผู้เขียนบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ในสมัยที่สมเด็จพระเจ้าตากสินทร์มหาราช ทรงมาตั้งทัพที่นี่ก่อนเข้าตีเมืองจันทบุรี ท่านได้ใช้น้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธ์เเห่งนี้ ประพรมเหล่าทหาร เเละในสมัยราชวงศ์จักกรีเเห่งกรุงรัตนโกสินทร์เป็นต้นมา เมื่อมีกษัตรย์ขึ้นครองราชย์ก็จะใช้น้ำจากบ่อเเห่งนี้ ไปทำเป็นน้ำพระพุทธมนต์ในพิธีราชาภิเษกภาพถ่ายโดยผู้เขียนภาพถ่ายโดยผู้เขียนวัดพลับบางกะจะ ถือเป็นสถานที่ ที่เป็นเเหล่งความรู้อย่างดีสำหรับการไปศึกษาประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม หรือศาสนวัตถุต่างๆ นอกจากจะทำให้ให้ได้ความรู้จากการเข้ามาศึกษาเเล้ว ยังได้อิ่มใจจากการมาทำบุญอีกด้วย หากใครสนใจสามารถเดินทางไปได้ที่ บ้านบางกะจะ ตำบลบางกะจะ อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ภาพถ่ายโดยผู้เขียนนามปากกา : ลองเขียนดู