ญี่ปุ่น-อียู รอดภาษีนำเข้ายาสูงสุด 100% ของทรัมป์ เพราะมีข้อตกลงอยู่แล้ว

ทำเนียบขาวยืนยันเมื่อวันที่ 26 กันยายนว่า มาตรการเก็บภาษีใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ายา สูงสุด 100% จะ ไม่ครอบคลุมประเทศที่มีข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งมีบทบัญญัติเกี่ยวข้องกับยา โดยรวมถึงสหภาพยุโรปและญี่ปุ่น

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระบุว่า ภาษีนำเข้ายาจากยุโรปจะถูกจำกัดไว้ไม่เกิน 15% ตามกรอบข้อตกลงการค้าระหว่างสองฝ่าย ส่วนญี่ปุ่นก็จะเสียภาษีตามอัตราที่กำหนดไว้ในสนธิสัญญาทวิภาคี โดยในแถลงการณ์ร่วมระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ยังระบุว่า สหรัฐฯ จะไม่เรียกเก็บภาษีจากยาและเซมิคอนดักเตอร์ของญี่ปุ่นสูงไปกว่าที่บังคับใช้กับสหภาพยุโรป

ด้านสหราชอาณาจักร ที่เป็นผู้ส่งออกยารายใหญ่ไปยังสหรัฐฯ จะยังเผชิญอัตราภาษี 100% เนื่องจากแม้สหราชอาณาจักรจะเคยเจรจาข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ที่มีเงื่อนไขเรื่องการยกเว้นในลักษณะเดียวกัน แต่ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถตกลงอัตราภาษีนำเข้ายาได้สำเร็จ

ทรัมป์ประกาศผ่านโซเชียลมีเดียว่า “สหรัฐฯ จะเก็บภาษี 100% สำหรับยาที่มีตราสินค้าหรือสิทธิบัตร เว้นแต่บริษัทผู้ผลิตกำลังก่อสร้างโรงงานผลิตในอเมริกา” โดยหากบริษัทเริ่มก่อสร้างโรงงานจริงแล้ว จะได้รับการยกเว้นจากภาษี ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมในขั้นตอนอนุมัติ

คำสั่งที่ออกมาอย่างกะทันหันครั้งนี้ทำให้หลายประเทศสงสัยว่า ข้อตกลงการค้าที่เจรจาไว้ก่อนหน้านี้ยังคงมีผลบังคับใช้กับมาตรการใหม่หรือไม่

ข้อมูลจากกระทรวงการคลังญี่ปุ่นระบุว่า ในปี 2024 ญี่ปุ่นส่งออกยาไปยังสหรัฐฯ มูลค่า 4.11 แสนล้านเยน หรือราว 8.8 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 1.9% ของการส่งออกทั้งหมดไปยังสหรัฐฯ