หนุ่มเหยื่อลวงทำงานเว็บพนัน เล่าเส้นทางหนีตาย จากปอยเปตกลับประเทศ ลั่นเข็ดแล้ว
หนุ่มสระแก้ว เหยื่อเฟซบุ๊กลวงทำงานปอยเปต ถูกขายต่อพนมเปญ หนีตายหลังล่ามบอก “เพื่อนโดนจัดการแล้วนะ” ติดต่อ กอ.รมน.ช่วยกลับประเทศสำเร็จ ลั่นไม่ไปอีกแล้ว
ภายหลัง กอ.รมน.ได้เปิดให้มีการแจ้งเบาะแสเพื่อความมั่นคงและขอรับความช่วยหลือเรื่องกระทำผิดด้านสถานบัน ยาเสพติด ค้ามนุษย์ ก่อการร้าย ทรัพยากรธรรมชาติ และ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ผ่านคอลเซ็นเตอร์หมายเลขโทรศัพท์ 1374
โดยพื้นที่ จ.สระแก้ว ได้เปิดรับแจ้งขอความช่วยเหลือได้ทางเพจเฟซบุ๊กของ กอ.รมน.จังหวัด ส.ก. ซึ่งประชาชนได้ร้องเรียนผ่านคอลเซ็นเตอร์ฯ เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 23 ก.ย.ที่ผานมา รับแจ้งเหตุความมั่นคง กอ.รมน.เลขที่เอกสาร 3375 ขอให้ช่วยเหลือบุตรหลานที่ไปทำงานประเทศกัมพูชากลับมายังประเทศไทย เนื่องจากหลังไปทำงานที่ปอยเปต ต่อมาถูกขายต่อไปที่พนมเปญ
ทั้งนี้ ผู้ร้องขอความช่วยเหลือดังกล่าวคือ นายเอ (นามสมมติ) ชาวสระแก้ว แจ้งว่า ขณะนี้ได้หนีออกมาจากตึกแห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งเปิดเป็นธุรกิจพนันออนไลน์ โดย เป็นคนไทยเพียงคนเดียวที่ถูกขายมาจากเมืองปอยเปต ไม่สามารถทำงานได้ จึงหลบหนีออกมาและถูกตามไล่ล่า
ขณะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ หลบหนีมาอยู่บริเวณด้านหน้าสถานทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ จะเข้าไปเพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สถานทูตไทย แต่ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่ยอมให้เข้าไปด้านใน เนื่องจากตนเองไม่มีพาสปอร์ต จึงอยากให้ กอ.รมน.จังหวัดสระแก้ว ดำเนินการช่วยเหลือประสานงาน จนกระทั่งสามารถยืนยันตัวตนได้และได้รับการช่วยเหลือให้เข้าไปพักในสถานทูตไทยฯ
โดย พ.อ.สุชญาณ ศรีตระกูล รอง ผอ.รมน.จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นแอดมินเพจด้วยตนเอง หลังทราบถึงการขอความช่วยเหลือดังกล่าว ได้มอบหมายให้ชุดรวบรวมตรวจสอบ กอ.รมน.จังหวัดสระแก้ว ไปพบแม่ของ นายเอ เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ลูกชายหนีออกมาแล้ว และจะเดินทางกลับในวันนี้ เพื่อให้ทางบ้านสบายใจ เนื่องจากไม่สามารถติดต่อกับนายเอได้เป็นระยะเวลานานแล้ว
3และได้ประสานไปยัง เจ้าหน้าที่กงสุลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อเข้าดำเนินประสานช่วยเหลือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกัมพูชา
กระทั่งสามารถดำเนินการพา นายเอ เข้าไปยังสถานทูตและได้ออกเอกสารแทนหนังสือเดินทาง พร้อมซื้อตั๋วรถทัวร์ให้เดินทางกลับมาที่เมืองปอยเปต เพื่อกลับประเทศไทยทางจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
โดยเจ้าหน้าที่สถานทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ได้นำส่งเหยื่อรายดังกล่าว ขึ้นรถออกจากกรุงพนมเปญ เวลา 19.15 น.ของเมื่อวานนี้ แต่ปรากฏว่า เมื่อ นายเอ ถึงที่หมาย ได้ ลืมเอกสารแทนหนังสือเดินทางที่ออกให้โดยสถานทูตฯ จึงประสานเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จังหวัดสระแก้วว่า จะต้องทำอย่างไร โดย กอ.รมน.จังหวัดสระแก้ว ประสานไปที่ ตม.จว.สระแก้ว ให้สามารถใช้สำเนาเอกสารดังกล่าว แทนเอกสารตัวจริงได้ และได้เตรียมสำเนาไว้ให้เรียบร้อย
ในระหว่างที่รอรถทัวร์ กระทั่งเวลาประมาณ 18.30 น.ได้มีชายฉกรรจ์ 3 คน หนึ่งในนั้นจำได้ว่า เป็นยามเฝ้าที่หน้าประตูตึกที่ตนเองทำงานอยู่ ขับรถวนดูหลายรอบบริเวณท่ารถ จึงรู้ได้ทันทีว่า ต้องมาจับตัวกลับไปแน่ จึงเดินหนีเข้าไปในซอยเปลี่ยว และหนีออกไปจากตรงนั้น เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้ว จึงกลับมาที่ท่ารถอีกครั้ง ปรากฏว่า รถทัวร์ได้ออกเดินทางไปแล้ว
ตนเองไม่รู้จะทำอย่างไร จึงเดินเท้าไปตามถนน โดยประสานขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จังหวัด ตลอดเวลา ซึ่งได้แนะนำให้หาเช่ารถเหมาเดินทางกลับจะดีกว่า และให้ติดต่อทางครอบครัว โดยพี่สาวส่งเงินมาให้ จำนวน 4,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งก็ได้เหมารถแวน เมื่อเวลาประมาณ 24.00 น. โดยว่าจ้างให้มาส่งที่ด่านคลองลึก และถึงหน้าด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ เมื่อเวลา 06.00 น. โดยมีเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จังหวัดสระแก้ว ไปรับที่หน้าด่านฯ และอำนวยความสะดวกตามหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเหยื่อรายดังกล่าวผ่านขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว ได้แจ้งข้อกล่าวหา คนไทยเดินทางเข้าออกราชอาณาจักร โดยไม่ผ่านการตรวจอนุญาต เสียค่าปรับตามกฎหมาย 800 บาท
จากนั้นได้พากลับไปส่งถึงบ้านในพื้นที่ ซึ่งจากการพูดคุยและสอบถามนายเอ ถึงเส้นทางการเดินทางและขั้นตอนการต่าง ๆ ในการเดินทางไปทำงานยังประเทศกัมพูชา เพื่อเป็นข้อมูลและอุทาหรณ์ สำหรับผู้ที่มีความคิดที่จะเดินทางไปทำงานเว็บไซต์พนันออนไลน์ผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน
นายเอ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า “รู้จักเว็บพนันจากกลุ่มหางานออนไลน์ในเฟซบุ๊กหน้าเพจเขียนว่า ” หางานในปอยเปต” เมื่อสมัครไปแล้ว จะมีแอดมินมาตอบและถามว่า พร้อมทำงานเมื่อไหร่ จะโอนเงินค่ารถให้ 200 บาท ให้ขึ้นรถตู้มาลงที่ท่ารถอรัญประเทศ
โดยตนเดินทางจากบ้าน เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 08.00 น. พร้อมเพื่อนอีก 3 คน เมื่อถึงท่ารถอรัญประเทศ เวลา 10.00 น. จากนั้นจะมีรถกระบะมารับพาไปส่งที่บ้านเรือนไทย และพาข้ามเรือไปฝั่งประเทศกัมพูชา เมื่อถึงแล้วจะมีรถตู้มารับไปที่ทำงาน ซึ่งมีคนจีนเป็นเจ้าของ แต่จำสถานที่ไม่ได้ รู้แต่เพียงว่า อยู่ไม่ไกลจากหน้าด่านคลองลึก ให้เงินเดือน 20,000 บาท แค่ทำหน้าที่ฝาก ถอน เติมเงินให้ลูกค้า
ทำอยู่ได้ 1 สัปดาห์ มีคนมาบอกว่า จะเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ ได้เงินเดือน 25,000 บาท โดย ต้องโทรหาลูกค้าให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 คน โดยชักชวนให้ลูกค้าร่วมระดมทุนสมัครที่แอพพ์ประมูลสินค้า ชื่อ M.. SH… ส่วนมากจะเป็นสินค้าจำพวกเพชร ซึ่งไม่ทราบว่า เป็นเพชรจริงหรือปลอม โดยหาผู้ลงทุนร่วมประมูลสินค้าไปขายและแบ่งกำไรกันเอง”
อย่างไรก็ตาม เหยื่อรายนี้ ยังเล่าอีกว่า สาเหตุที่ตัดสินใจหนี เพราะมีเพื่อนร่วมงานที่รู้จักกันที่พนมเปญ ถูกขายไปให้เว็บพนันอื่นที่เป็นคนจีนเหมือนกัน แต่ถูกส่งตัวกลับมา จึงถูกที่นี่ทำร้ายร่างกายโดยการซ้อม แล้วนำไปปล่อยทิ้งไว้ข้างถนน จากนั้นจะมีล่ามที่สามารถพูดไทยได้ จะมาบอกว่า เพื่อนถูกจัดการแล้วนะ จึงเกิดความกลัว และหนีออกมา ในคืนวันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน เวลาประมาณ 22.00 น.-23.00 น. โดยกระโดดลงมาจากชั้น 2 ของตึกที่ทำงาน ได้นำของมาเพียงบัตรประชาชน โทรศัพท์ และเงินกัมพูชา ติดตัวมาด้วยเล็กน้อย
จากนั้น ได้จ้างให้รถสามล้อไปส่งกลางทาง แล้วใช้ซิมโทรศัพท์สมัครเน็ต ค้นหาสถานทูตไทยฯ เมื่อเจอแล้วจึงรีบเดินทางไปที่สถานทูตถึงเวลาประมาณ 01.00 น. เมื่อถึงเวลาสถานทูตเปิดทำการ จึงเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือแต่ รปภ.ไม่ให้เข้า อ้างว่า ไม่มีพาสปอร์ต
จึงกลับมาค้นหาในเฟซบุ๊ก “เพจช่วยเหลือคนไทย” และเลือกกดไปที่เพจ กอ.รมน.จังหวัด ส.ก. เพราะเห็นมีผู้ติดตามเยอะและมีการช่วยเหลือจริงหลายเคส จึงเข้าไปทักและขอความช่วยเหลือ โดยมีแอดมินเข้ามาตอบ ติดตาม และแนะนำ จนสามารถพาเหยื่อเดินทางกลับมาประเทศไทยคืนสู่ครอบครัว ได้อย่างปลอดภัย โดยเมื่อเหยื่อเดินทางมาถึงบ้านได้โผเข้ากราบและกอดผู้เป็นแม่ทันที พร้อมสัญญาว่าจะไม่ไปอีกแล้ว เข็ดแล้ว