ปัจจัยที่ส่งผลต่อการติดผลดกของมัลเบอร์รี่มัลเบอร์รี่เป็นไม้ผลที่ปลูกง่ายและทนทานต่อสภาพอากาศต่างๆ แต่หากต้องการทำให้มัลเบอร์รี่ติดผลตลอดปีและดกนั้น จำเป็นต้องดูแลรักษาอย่างเหมาะสม โดยปัจจัยสำคัญมีดังนี้เลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสม มัลเบอร์รี่มีหลายสายพันธุ์ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์จะมีลักษณะผล รสชาติ และช่วงเวลาติดผลที่แตกต่างกัน การเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและปริมาณตามที่ต้องการปลูกในดินที่เหมาะสม มัลเบอร์รี่ชอบดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดี ไม่ควรปลูกในดินเหนียวหรือดินที่มีน้ำขังให้น้ำอย่างเพียงพอ มัลเบอร์รี่ต้องการน้ำปริมาณมาก โดยเฉพาะในช่วงที่ออกดอกและติดผล ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้งใส่ปุ๋ยอย่างเหมาะสม มัลเบอร์รี่ต้องการปุ๋ยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ในช่วงที่เจริญเติบโตควรใส่ปุ๋ยไนโตรเจน ในช่วงที่ออกดอกควรใส่ปุ๋ยฟอสฟอรัส และในช่วงที่ติดผลควรใส่ปุ๋ยโพแทสเซียมตัดแต่งกิ่งอย่างเหมาะสม การตัดแต่งกิ่งจะช่วยให้มัลเบอร์รี่เจริญเติบโตได้ดี ออกดอกติดผลดก และป้องกันโรคและแมลงสายพันธุ์ที่นิยมปลูกในประเทศไทยที่ให้ผลดกดำออสตรุกี้ มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ผลใหญ่ ดกแม่ช่อ มีรสชาติหวาน ผลดกไวท์คิง มีรสชาติหวานฉ่ำ หอมหวานเหมือนน้ำผึ้งสรุปปัจจัยที่ส่งผลต่อการติดผลดกของมัลเบอร์รี่ ได้แก่ การเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสม การปลูกในดินที่เหมาะสม การให้น้ำอย่างเพียงพอ การให้ปุ๋ยอย่างเหมาะสม และการตัดแต่งกิ่งอย่างเหมาะสมข้อดีของวิธีปลูกมัลเบอร์รี่ในกระถางการปลูกมัลเบอร์รี่ในกระถางมีข้อดีหลายประการ ดังนี้ประหยัดพื้นที่ เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด เช่น ปลูกไว้ที่บ้าน คอนโด หรืออพาร์ตเมนต์เคลื่อนย้ายสะดวก สามารถเคลื่อนย้ายไปปลูกในที่ต่างๆ ได้ตามความเหมาะสม เช่น นำไปวางไว้ใต้ร่มเงา หรือนำไปวางไว้นอกบ้านในช่วงที่มีอากาศเย็นดูแลรักษาง่าย ไม่จำเป็นต้องดูแลรักษามากเหมือนการปลูกลงดิน เพียงรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ ใส่ปุ๋ยบำรุงบ้างตามต้องการ และตัดแต่งกิ่งบ้างตามฤดูกาลสามารถปลูกได้ทุกฤดูกาล ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงฤดูที่เหมาะสม เพียงเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศในพื้นที่นั้นๆไม่ต้องกังวลเรื่องศัตรูพืชและโรค การปลูกมัลเบอร์รี่ในกระถางทำให้ควบคุมศัตรูพืชและโรคได้ง่ายกว่าการปลูกลงดินสะดวกเวลางดน้ำทำผล หากต้องการงดน้ำทำผลให้ดก ให้รดน้ำให้น้อยลงในช่วงฤดูร้อนหรือฤดูหนาว โดยรดน้ำเพียงวันละครั้งหรือสองครั้งต่อสัปดาห์สรุปการปลูกมัลเบอร์รี่ในกระถางเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกมัลเบอร์รี่ แต่มีพื้นที่จำกัด สะดวกในการเคลื่อนย้าย และต้องการการดูแลรักษาที่ง่าย วิธีปลูกมัลเบอร์รี่ในกระถางมัลเบอร์รี่เป็นไม้ผลที่ปลูกง่ายและทนทานต่อสภาพอากาศต่างๆ ปลูกได้ทุกพื้นที่ แม้แต่พื้นที่จำกัดอย่างในกระถาง การปลูกมัลเบอร์รี่ในกระถางสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้วัสดุและอุปกรณ์ต้นมัลเบอร์รี่พันธุ์ดี (สามารถเลือกพันธุ์ที่ชอบได้ตามต้องการ เช่น ดำออสตรุกี้ แม่ช่อ ไวท์คิง)กระถางขนาด 10-15 นิ้ว ขึ้นไปดินร่วนปนทราย (อาจใช้ดินถุงก็ได้)ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักขั้นตอนวิธีปลูกเตรียมกระถางโดยใส่ดินร่วนปนทรายลงไปให้เต็มกระถางขุดหลุมปลูกในกระถางให้มีขนาดเท่ากับขนาดของรากต้นมัลเบอร์รี่นำต้นมัลเบอร์รี่ลงปลูกลงในหลุมปลูกกลบดินให้เต็มหลุมแล้วรดน้ำให้ชุ่มการดูแลรักษารดน้ำให้สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่ออกดอกและติดผลใส่ปุ๋ยบำรุงเดือนละครั้ง โดยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 2-3 กำมือตัดแต่งกิ่งปีละครั้ง ในช่วงฤดูหนาวหากต้องการปลูกมัลเบอร์รี่ให้ออกดอกติดผลดก ควรเลือกพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศในพื้นที่นั้นๆการปลูกมัลเบอร์รี่ในกระถางสามารถเคลื่อนย้ายไปปลูกในที่ต่างๆ ได้ตามความเหมาะสมประโยชน์ของมัลเบอร์รี่มัลเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีสารอาหารมากมาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ ธาตุเหล็ก แคลเซียม และไฟเบอร์ มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่นช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงบำรุงสายตาบำรุงกระดูกและฟันช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็งการปลูกมัลเบอร์รี่ในกระถางเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกมัลเบอร์รี่ แต่มีพื้นที่จำกัด สะดวกในการเคลื่อนย้าย และต้องการการดูแลรักษาที่ง่าย "การปลูกมัลเบอร์รี่ในกระถางเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกมัลเบอร์รี่ แต่มีพื้นที่จำกัด สะดวกในการเคลื่อนย้าย และต้องการการดูแลรักษาที่ง่าย"เครดิต : รูปภาพและบทความจาก kasedindy เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !