รีเซต

ด่วน! ศบค.ประกาศ ยกระดับ พื้นที่ควบคุมสูงสุด รวม 28 จังหวัด มีผล 4 ม.ค.

ด่วน! ศบค.ประกาศ ยกระดับ พื้นที่ควบคุมสูงสุด รวม 28 จังหวัด มีผล 4 ม.ค.
มติชน
2 มกราคม 2564 ( 12:26 )
129
ด่วน! ศบค.ประกาศ ยกระดับ พื้นที่ควบคุมสูงสุด รวม 28 จังหวัด มีผล 4 ม.ค.

ศบค.จ่อประกาศ ยกระดับ พื้นที่ควบคุมสูงสุด รวม 28 จังหวัด เป็นพื้นที่สีแดง ส่งให้นายกฯเซ็น คาดมีผล  4 มกราคม

 

เมื่อวันที่ 2 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ว่าในวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 216 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 214 ราย ติดเชื้อในกลุ่มแรงงานต่างด้าวจากการคัดกรองเชิงรุก 32 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค (Quarantine) 2 ราย มาจากอินเดียและสหรัฐอเมริกา รวมผู้ป่วยสะสม 7,379 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 5,356 ราย กลุ่มแรงงานต่างด้าว 1,440 ราย รักษาหายแล้ว 4,299 ราย ยังอยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) 3,016 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย สะสมที่ 64 ราย

 

 

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า รายที่เสียชีวิต เป็นหญิงไทย อายุ 47 ปี อาชีพรับจ้าง ภูมิลำเนาที่ จ.ชลบุรี โรคประจำตัวคือเบาหวาน มีประวัติเสี่ยงคือเล่นการพนันใน อ.บางละมุง เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 ตรวจพบเชื้อโควิด-19 โดยไม่มีอาการ เข้ารักษาที่ฮอสปิเทล (Hospital) สถานที่ที่นำผู้ป่วยอาการไม่มากมาพักรักษารวมกันในโรงแรมแห่งหนึ่งในพัทยา ต่อมาเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม เวลา 16.00 น. มีอาการเหนื่อยหอบ ทีมสอบสวนโรคจึงแนะนำให้ไปรักษาที่โรงพยาบาล (รพ.) บางละมุง โดยผู้ป่วยบอกว่าอาการยังไม่มาก จึงไม่ไป รพ. ขอนอนพักที่ฮอสปิเทลต่อ ซึ่งต่อมาในวันที่ 1 มกราคม เวลา 03.00 น. พบว่าผู้ป่วยเสียชีวิตในห้องพัก

 

 

“ตอนนี้ความรุนแรงของโรคนี้จากเดิม 100 รายจะเสียชีวิตร้อยละ 2 ครั้งนี้อยู่ที่ร้อยละ 0.9 ซึ่งไม่มาก คือ 100 รายเกือบ 1 รายที่เสียชีวิต แต่ขณะนี้ติดเชื้อพุ่งหลักพัน หากเพิ่ม 200 รายก็คือ 1 รายที่เสียชีวิต ซึ่งหากติดวันหนึ่ง 2-3 ร้อยรายอัตราก็จะเพิ่มขึ้น เราก็จะได้ยินรายงานต่อเนื่องต่อไปอย่างนี้ เรื่องต่างๆ เหล่านี้เบาใจไม่ได้ แม้วันนี้ตัวเลขลงมาน้อยกว่าเมื่อวาน แต่แนวโน้มของทิศทางยังเพิ่มขึ้นอยู่ ทุกคนต้องทราบถึงอันตรายที่ใกล้ตัวมาก” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า แผนที่ประเทศไทยยังคงที่ 53 จังหวัด ไม่มีเพิ่มเติมขึ้นมา แต่อยากให้เห็นภาพว่าครึ่งเดือนหลังในธันวาคม เราเพิ่มจาก 6 จังหวัดมาเป็น 53 จังหวัด เพิ่มขึ้นมากกว่า 4 เท่า ดังนั้นภาพเหล่านี้ไม่ควรมีการติดเชื้อไปมากกว่านี้แล้ว แต่ไม่ขึ้นอยู่กับใครคนหนึ่ง แต่ต้องร่วมมือกัน

 

 

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า กลุ่มผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังและบริการ 182 ราย แบ่งเป็น มีความเชื่อมโยงกับสมุทรสาคร 3 ราย ส่วนใหญ่ในวัยแรงงาน พบใน กรุงเทพมหานคร(กทม.) ชัยนาทและราชบุรี เชื่อมโยงกับระยอง 1 ราย เป็นผู้สูงอายุใน กทม. เชื่อมโยงพัทยา ชลบุรี 1 ราย พบในพระนครศรีอยุธยา ส่วนผู้ไปสถานที่หรือทำอาชีพเสี่ยงหรือสัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า 23 ราย พบใน กทม. 16 ราย ปทุมธานี 2 ราย นครปฐม 2 ราย สุพรรณบุรี 1 ราย อ่างทอง 2 ราย ซึ่งอยู่ในกลุ่มนี้มีทั้งอายุน้อยในวัยทำงาน มีอายุลดลงเป็นเด็ก เช่น เด็กหญิง 8 ปี รวมถึงผู้สูงอายุ บ่งบอกว่าเป็นการกระจายเชื้อในครอบครัวแล้ว และกลุ่มอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 154 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มก้อนใหญ่มาก รอการสอบสวนโรคอยู่ ยังไม่มีไทม์ไลน์ ไม่ทราบว่ามีใครเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำหรือสูง เรากักตัวผู้ติดเชื้อออกมา แต่ต้องรายงานเพื่อส่งข่าวผู้ที่สัมผัสให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อและแยกตัวเองออก พบใน นนทบุรี 25 ราย สมุทรสาคร 37 ราย ระยอง 27 ราย ชลบุรี 32 ราย จันทบุรี 10 ราย และสมุทรปราการ 23 ราย ดังนั้นหากผู้ถึงไทม์ไลน์ว่าผู้ป่วย 1 รายจะต้องสอบสวนโรคผู้สัมผัสในจำนวน 2 ถึง 3 หลัก โดยขีดวงไว้ว่าในกลุ่มผู้สัมผัสน่าจะอีกหลายร้อย

 

“หากใครรับทราบว่าเพื่อนฝูงอยู่ใน 154 ราย ท่านต้องกักตัวเองไม่ไปพบปะคนอื่น สวมหน้ากากอนามัย 100% ไม่มีการมั่วสุมอีกแล้ว เพราะกลุ่มดังกล่าวอยู่ในกลุ่มติดเชื้อแล้วและมีโอกาสแพร่เชื้อสูงมาก ภาครัฐทำงานอย่างเต็มที่ แต่จำนวนตัวเลขติดเชื้อก็สูงมาก การสอบสวนรายงานที่เคยชิน ถ้าหลักหน่วยเราทำทัน แต่ 3 หลักเราพยายามทำอย่างเต็มที่ และยังมีของเก่าที่สะสมเป็นร้อย” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

 

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว ว่าการประชุม ศบค. เช้านี้ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข พบว่าสถานการณ์ยังคงระบาด และมีผู้เสียชีวิตโดยไม่สามารถเชื่อมโยงหาศูนย์กลางได้ คาดว่าจะมีการแพร่กระจายโรคอีกมาก รูปแบบการแพร่ระบาดที่ต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น จำเป็นต้องมีมาคตรการเข้มข้น รวดเร็ว ผู้ติดเชื้อหลายคน ทราบดีว่า ตนเองเดินทางเข้าพื้นที่เสี่ยงแต่ไม่ยอมกักตนเอง และยังมีกิจกรรมลักลอบมั่วสุม โดยเฉพาะ กิจกรรมการพนัน ที่เป็นต้นตอการระบาด จำนวนผู้ติดเชื้อมีจำนวนมากขึ้น จนขีดความสามารถทางการแพทย์ลดลงจำนวนมาก มีความจำเป็นต้องทบทวนมาตรการป้องกันโควิด-19 ในภาพรวม ทั้งนี้มีการกำหนดพื้นที่ที่ประกาศใช้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ ดังนี้

 

เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด พื้นที่ควบคุม 11 จังหวัด และพื้นที่เฝ้าระวังสูง 38 จังหวัด เน้นเพิ่มความเข้มข้นในการควบคุมการเดินทางของประชาชน จากพื้นที่สีแดง

 

“จากเหลืองเป็นสีส้ม จากส้มเป็นแดง จากแดงต้องเข้มข้นขึ้น ขออภัยประชาชนที่อยู่ในแต่ละจังหวัด ที่ประชุมเมื่อเช้าขอให้ยกเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด”

 

พื้นที่สีแดง 28 จว. ตาก นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง นครนายก กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี ประจวบ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว สมุทรปราการ จันทรบุรี ชลบุรี ตราด ระยอง ชุมพร ระนอง กรุงเทพ

 

พื้นที่ควบคุม (สีเหลือง) 11 จังหวัด สุโขทัย กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ บุรีรัมย์ นครราชสีมา สุราษฎร์ธานี พังงา

 

ที่ประชุมได้กำหนดมาตรการควบคุมสูงสุดในพื้นที่สีแดง แบ่งออกเป็น 2 ขั้น โดยจะนำเสนอให้นายกรัฐมนตรีอนุมัติ เพื่อประกาศให้มีผลอย่างเป็นทางการต่อไป โดยมาตรการ 2 ขั้นตอน คือ 1 กำหนดเวลาเปิดปิด ควบคุมการเดินทาง 2 จำกัดเวลามากขึ้น ควบคุมการเดินทางข้าม จว. และเคอฟิวราย จว.

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง