อดีตทูตโสมแดงเชื่อ "คิม จองอึน" ไม่มีวันทิ้งอาวุธนิวเคลียร์

วันนี้( 6 ก.พ.64) ริว เฮียน-วู อดีตรักษาการเอกอัครราชทูตของเกหลีเหนือประจำคูเวต เชื่อว่า คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ จะไม่ล้มเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ แต่อาจต้องการเจรจาลดอาวุธ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติ ที่สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจเกาหลีเหนืออย่างหนักอยู่ในขณะนี้ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ล้มเลิกทั้งหมด มาตรการคว่ำบาตรอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการบีบให้เกาหลีเหนือยอมนั่งโต๊ะเจรจาในปี 2561 ซึ่งคิม จอง อึน และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ จัดประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ในสิงคโปร์ 

ในการให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นครั้งแรกของเขาตั้งแต่แปรพักตร์ไปอยู่ในเกาหลีใต้ นายริว กล่าวว่า อาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันโดยตรงกับเสถียรภาพของรัฐบาล และดูเหมือนว่า นายคิม จอง อึนเอง ก็เชื่อว่า อาวุธนิวเคลียร์เป็นสิ่งสำคัญในการอยู่รอดปลอดภัยของเขาด้วย

นายเรียว กล่าวด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐชุดก่อนเคยเรียกร้องให้ปลดนิวเคลียร์ในการเจรจากับรัฐบาลเผด็จการ ซึ่งสหรัฐก็ไม่สามารถทำให้เกาหลีเหนือลดอาวุธนิวเคลียร์ได้ และคิม จอง อึน ก็ไม่ยอมปลดนิวเคลียร์

อดีตเอกอัครราชทูต ซึ่งใช้ชื่อว่า “ริว” ในการแปรพักตร์ไปอยู่เกาหลีใต้ ถือเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของเกาหลีเหนือหลายคนที่แปรพักตร์ในช่วงหลายปีมานี้ ก่อนหน้านี้เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำอิตาลี หลบหนีเข้าเกาหลีใต้ในปี 2552 และนายแท ยัง-โฮ อดีตรองเอกอัครราชทูตประจำสหราชอาณาจักร แปรพักตร์ในปี 2559 และนายแทยังได้รับเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกสมัชชาแห่งชาติของเกาหลีใต้ด้วย

นายริวและครอบครัว แปรพักตร์เข้าเกาหลีใต้ในเดือนกันยายน 2552 แต่เรื่องราวของพวกเขาปรากฏสู่สาธารณชนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายริว ซึ่งต้องการให้ลูกสาววัยรุ่นมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น กล่าวว่า เขาและภรรยาวางแผนหลบหนีประมาณ 1 เดือนขณะอาศัยอยู่ในคูเวต แต่หากพวกเขาถูกจับกุมตัวได้ สายลับเกาหลีเหนือจะควบคุมตัวพวกเขากลับไปยังกรุงเปียงยาง เพื่อลงโทษอย่างแน่นอนเพราะการแปรพักตร์ถูกมองว่าเป็นการสร้างความน่าอับอายอย่างยิ่งต่อรัฐบาลคิม

เกาะติดข่าวที่นี่