ผบ.ตร.สั่งฟันขั้นเด็ดขาด "แก๊งแมวน้ำ" ลักทรัพย์ซ้ำเติมน้ำท่วม
พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้กล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม ว่า ได้กำชับไปยังตำรวจสอบสวนกลาง และตำรวจพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะตำรวจน้ำ ในการบูรณาการร่วมกับสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่น้ำท่วม และตำรวจตระเวนชายแดน ให้เพิ่มความถี่ในการออกตระเวนตรวจตราป้องกันปราบปราม เฝ้าระวังการก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ประสบอุทกภัย ทั้ง จังหวัดเชียงราย นครพนม หนองคาย หรือพื้นที่อื่นๆ ที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนที่คนร้าย หรือ "แก๊งแมวน้ำ" มักจะฉวยโอกาสกระทำความผิดก่อเหตุซ้ำเติมประชาชน หากจับกุมได้ให้มีการสืบสวนขยายผลดำเนินการไปยังตัวการ ผู้ร่วมขบวนการทุกราย ดำเนินการให้เด็ดขาดและถึงที่สุดทุกมิติ
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังย้ำเตือนถึงโทษของการกระทำผิดในช่วงภัยพิบัติ ซึ่งถือเป็นการซ้ำเติมประชาชนที่เดือดร้อน ว่า ผู้กระทำผิด จะต้องรับโทษสูงกว่าการลักทรัพย์โดยปกติ ซึ่งการลักทรัพย์ธรรมดา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท แต่ในช่วงภัยพิบัติ หรือการลักทรัพย์ในสถานการณ์น้ำท่วมซ้ำเติมประชาชน จะมีโทษสูงขึ้น เพราะนับเป็นเหตุฉกรรจ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (2) ที่บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดลักทรัพย์ในที่อุทกภัย หรือภัยพิบัติอื่นทำนองเดียวกัน หรือ อาศัยโอกาสที่ประชาชนกำลังตื่นกลัวภยันตรายใดๆ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี และปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาท ถึง 1 แสนบาท
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังยืนยันด้วยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเดินหน้าร่วมกับจิตอาสา ส่วนราชการ ภาคประชาชน มูลนิธิ กู้ภัยต่างๆ ในการลงพื้นที่ไปช่วยดูแลประชาชนในพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการอพยพ ช่วยเหลือ มอบสิ่งของถุงยังชีพ อาหาร น้ำดื่ม รวมทั้งดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างต่อเนื่อง หากประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถติดต่อหมายเลขสายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง