รีเซต

ปิดฉาก! กรุเรื่องท้องทิพย์ เปิดคำรับสารภาพ หาทางลงไม่ได้ สุดท้ายสามีขอแยกทางแล้ว

ปิดฉาก! กรุเรื่องท้องทิพย์ เปิดคำรับสารภาพ หาทางลงไม่ได้ สุดท้ายสามีขอแยกทางแล้ว
มติชน
24 พฤษภาคม 2564 ( 21:39 )
83

 

ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ที่เทศบาลตำบลสวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี สองสามีภรรยา น.ส.กรกนก และนายเกรียงไกร สองสามีภรรยา ได้แถลงสารภาพข้อเท็จจริง กับเรื่องที่เกิดขึ้น กรณีกรุเรื่องท้องทิพย์ และ กล่าวหา รพ. ทำศพลูกหาย

 

 

โดยล่าสุด ด้าน น.ส. กรกนก หรือ เตย อายุ 21 ปี ได้ ขอเล่าความจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่อหน้าสื่อมวลชน กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่าง โดยตนยอมรับว่าตนเองเป็นคนแต่งเรื่องขึ้นมาทั้งหมดและทำเพียงคนเดียวโดยสามีและคนรอบข้างไม่ได้รู้เห็นด้วย แต่ยืนยันว่าตนเองเคย ตรวจพบว่าตนเอง ตั้งครรภ์จริงเมื่อเดือนตุลาคม 2563 เพราะซื้อที่ตรวจมามันขึ้น 2 ขีด แต่ต่อมาช่วงเดือน มค และ กพ. 2564 ตนมีเพศสัมพันธ์กับสามีแล้วเกิดมีเลือดไหลออกมา และ มีก้อนเลือด หลุด ออกมา 2 ก้อน ตอนนั้นที่เห็นยังไม่มีลักษณะของการเป็นเด็กทารก ตนจึงคิดไปเองว่าท้องลูกแฝด​ พอเห็นเลือด ตนก็ตกใจ จึงรีบราดน้ำทิ้ง​ไป ซึ่งหลังจากที่แท้งลูกไป ตนก็ไม่ได้ไปพบแพทย์ เพราะกลัวสามีจะรู้ความจริง เพราะสามีมีความหวังที่จะมีลูก และหากรู้ความจริงก็กลัวว่าจะทิ้งตนไป ตนจึงแต่งเรื่องให้เหมือนว่าตนเอง ยังท้องลูกแฝดอยู่ โดยให้สามีไปส่งที่รพ. เพื่อตรวจท้อง หาภาพ อัลตร้าซาวด์เด็กจากในอินเตอร์เนต ถ่ายคลิปขณะที่ลูกดิ้นลงโซเชียลมีเดีย ซึ่งคลิปที่นำไปลงเป็นคลิปก่อนหน้าที่ตนจะแท้งลูก

 

 

 

 

หลังจากนั้น ประมาณ เดือน พ.ค. ที่ผ่านมาตนเองได้เข้ารักษาตัว อาการปีกมดลูกและอุ้งเชิงกรานอักเสบ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ท้องของตนเองบวม เหมือนคนตั้งครรภ์​ ตนไม่ได้มีการวางแผน คิดแล้วก็ทำเลย เพราะโกหกมาแล้ว จึงสร้างเรื่องต่อว่า มาคลอดลูกแฝด​ และลูกเสียชีวิต ซึ่ง หลังจากที่สร้างเรื่องว่าคลอดลูกแล้วก็กลับมาบีบน้ำนม ใส่ถุง ซ่อนไว้ในบริเวณตู้ห้องนอนเพื่อที่จะเตรียมไว้ใช้โกหกสามีต่อไป
โดยในวันที่มารับศพลูกชายจากรพ.ไปที่วัด

 

 

​ ตนก็ไปวางแผนห่อศพลูก ในร้านกาแฟเพราะเห็นว่าเป็นมุมเงียบ ไม่ค่อยมีคน โดยเป็นผ้าที่ซื้อเตรียมไว้ให้ลูกอยู่แล้ว ก่อนจะอ้างกับสามีและ คนในครอบครัวว่า ไม่สามารถเปิดดูหน้าได้เพราะ รพ.แจ้งว่า ศพติดเชื้อ หลังจากที่มีการเปิดโลงศพและพบว่าไม่มีศพเด็กตอนนั้น ตนเองร้องไห้ด้วยความกลัวว่าเรื่องจะแดงขึ้น เพราะตอนนั้นยังหาทางลงไม่ได้ ว่าจะทำยังไงต่อ

 

 

ส่วนเรื่องที่ไปแจ้งความ ว่าทำศพลูกหาย และไปออกรายการทีวี ก็ทำไป เพราะหาทางลงไม่ได้ กลัวถูกจับได้ แต่ไม่มีเจตนาที่จะเรียกเงิน จากรพ. ไม่ได้วางแผน หนูคิดเอง ทำเองทำเองทั้งหมด หนูหาทางลงไม่ได้ โกหกทางไหนต่อดี เพราะไหนจะกลัวสามีรู้และคนรอบข้าง ใจหนึ่งก็กลัวสามี ว่าถ้ารู้จะทำอย่างไร ขอยอมรับสารภาพว่าที่ทำไปเพราะหาทางลงไม่ได้ สร้างเรื่องโกหกไปเรื่อยๆต้องขอโทษ รพ. ขอโทษคุณหมอ ขอโทษสังคม ขอโทษสื่อ ขอโทษคนรอบข้างทุกๆคน ตนเองขอยอมรับผลที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำของตนเอง โดยทางรพ.จะแจ้งความ ส่วนสามีก็ขอเลิกแยกทางกัน

 

 

ด้าน นายเกรียงไกร หรือ นัท ได้กล่าวว่า ตอนแรกที่รู้ว่าภรรยาท้อง ตนก็ดีใจ และตั้งความหวังมาก
ตอนแรกที่จับท้องของภรรยา ก็รู้สึกว่ามีลูกดิ้นจริง ๆ แต่หลังจากที่ภรรยา มีเลือดออกหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์กับตน ตอนที่ตั้งครรภ์ประมาณ 3-4 เดือน ตนเองก็ไม่กล้ามีอะไรกับภรรยาอีกเลย เพราะกลัวจะแท้งลูก
ที่ผ่านมา ทราบแค่ว่า ภรรยาไปหาหมอ ซึ่งก็บอกว่าลูกปกติดี ตนยืนยันว่า ไม่มีส่วนรู้เห็น กับเรื่องที่เกิดขึ้น เรื่องประวัติฝากท้องตนก็ไม่เคยรู้

 

 

แต่รู้ว่ามีสมุดสีชมพูจึงยืนยันกับสื่อไปตอนแรก ตนก็เชื่อใจ ไม่เคยถามอะไรมาก และไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้ ซึ่งตนก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะไม่คิดว่าจะมีการโกหกถึงขนาดนี้ ขอโทษเถ้าแก่ผมที่คอยซับพอร์ตมาตลอด ทุกคนก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้เหมือนกัน ตนก็ตั้งความหวังการมีลูกมาก ซึ่งหลังจากนี้ ก็เป็นเรื่องของคดีความตามกฎหมายก็พร้อมยอมรับ ส่วนตนก็คงแยกทางกัน กับภรรยา เพราะตนเองและครอบครัวของตน ก็รับไม่ได้ กับสิ่งที่เกิดขึ้น นายเกรียงไกรกล่าวทิ้งท้าย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง