รีเซต

บึงกาฬ คลัสเตอร์ปริวาสกรรม เพิ่มอีก สะสม117 ราย พบเป็นสายพันธุ์เดลต้า

บึงกาฬ คลัสเตอร์ปริวาสกรรม เพิ่มอีก สะสม117 ราย พบเป็นสายพันธุ์เดลต้า
มติชน
27 ธันวาคม 2564 ( 18:32 )
99
บึงกาฬ คลัสเตอร์ปริวาสกรรม เพิ่มอีก สะสม117 ราย พบเป็นสายพันธุ์เดลต้า

ข่าววันนี้ 27 ธ.ค. เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศที่วัดถ้ำโขง ม.10 บ.โนนสำราญ ต.โสกก่าม อ.เซกา จ.บึงกาฬ เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลเซกา ร่วมกับ รพ.สต.โสกก่าม และ รพ.สต.บ้านต้อง ลงพื้นที่บริเวณวัด เพื่อเข้าเก็บตัวอย่างกับกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่กักตัวอยู่ภายในวัด ที่มีทั้งพระ และฆราวาส ส่งตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR โดยผลตรวจวันนี้พบเชื้อเพิ่มจำนวน 10 ราย เป็นพระสงฆ์จำนวน 9 รูป ฆราวาส 1 ราย รวมยอดสะสมวันนี้ จำนวน 117 ราย ผลสุ่มตรวจหาสายพันธุ์เชื้อโควิด-19 จากคลัสเตอร์ปาริวาสกรรมวัดถ้ำโขง จำนวน 21 ตัวอย่าง พบเป็นสายพันธุ์เดลต้า

 

นพ.ภมร ดรุณ นพ.สสจ.บึงกาฬ กล่าวว่า การสอบสวนโรคโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อน กรณีปริวาสกรรมวัดถ้ำโขง อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ ตลอดจนเฝ้าระวังและเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาการเฝ้าระวังโรคใน 28 วัน การค้นหาผู้ป่วยและผู้สัมผัสที่ดำเนินการไปแล้ว วันที่ 21 ธ.ค.

 

 

 

วันที่ 22 ธ.ค. ผลตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ผลพบเชื้อจำนวนเพิ่ม 19 ราย เป็นพระสงฆ์จำนวน 19 รูป
วันที่ 23 ธ.ค. ผลตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ผลพบเชื้อจำนวนเพิ่ม 7 ราย เป็นพระสงฆ์จำนวน 6 รูป
วันที่ 24 ธ.ค. ผลตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ผลพบเชื้อจำนวนเพิ่ม 5 ราย เป็นพระสงฆ์จำนวน 4 รูป ฆราวาส 1 ราย
วันที่ 25 ธ.ค. ผลตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ผลพบเชื้อจำนวนเพิ่ม 1 ราย เป็นฆราวาส
วันที่ 26 ธ.ค. ผลตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ผลพบเชื้อจำนวนเพิ่ม 2 ราย เป็นพระสงฆ์จำนวน 2 รูป
วันที่ 24 ธ.ค. ผลตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ผลพบเชื้อจำนวนเพิ่ม 10 ราย เป็นพระสงฆ์จำนวน 9 รูป ฆราวาส 1 ราย

 

 

ผลการสอบสวนโรคผู้ป่วย มีอายุน้อยที่สุด 12 ปี อายุมากที่สุด 79 ปี ผู้เข้าร่วมปริวาสกรรมวัดถ้ำโขง ระหว่างวันที่ วันที่ 10-20 ธ.ค. ทั้งหมด 241 ราย โดยมีภูมิลำเนาในพื้นที่ต่างๆ ดังนี้ กรุงเทพฯ 1 คน กาฬสินธุ์ 5 คน กำแพงเพชร 1 คน ขอนแก่น 2 คน ฉะเชิงเทรา 1 คน ชัยนาท 1 คน ชุมพร 1 คน เชียงราย1 คน เชียงใหม่ 1 คน ตาก 1 คน นครนายก 1 คน นครปฐม 1 คน นครพนม 12 คน นครราชสีมา 2 คน นนทบุรี 2 คน น่าน 1 คน บึงกาฬ 133 คน บุรีรัมย์ 2 คน ปราจีนบุรี 3 คน พะเยา 1 คน เพชรบูรณ์ 2 คน มหาสารคาม 2 คน แม่ฮ่องสอน 2 คน ยะลา 1 คน ร้อยเอ็ด 2 คน ลพบุรี 1 คน ศรีษะเกษ 1 คน สกลนคร 18 คน สงขลา 1 คน สมุทรปราการ 1 คน สมุทรสาคร 1 คน สระแก้ว 2 คน สระบุรี 3 คน สุพรรณบุรี 1 คน สุราษฎร์ธานี 21 คน หนองคาย 4 คน หนองบัวลำภู 1 คน อำนาจเจริญ 1 คน อุดรธานี 2 คน อุบลราชธานี 1 คน

 

ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการระบาดในครั้งนี้ ได้แก่ การไม่เคร่งครัดมาตรการป้องกันควบคุมโรค โดยระหว่างการปฏิบัติศาสนกิจในงานปริวาสกรรมขาดการป้องกันที่เพียงพอ กล่าวคือ การจัดงานที่มีลักษณะคนจำนวนมากไม่ได้แจ้งขออนุญาตต่อผู้มีหน้าที่อนุญาต การคัดกรองผู้เข้ามาร่วมงานไม่มีทะเบียน ไม่มีมาตรการตัววัดอุณหภูมิ และเช็คประวัติวัคซีน ก่อนเข้าร่วมงาน รวมถึงไม่มีการจัดระยะห่างของการบริโภคอาหาร ไม่มีฉากกั้น จุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ไม่เพียงพอ การไม่สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา การรวมกลุ่ม การอยู่ในพื้นที่แออัดและมีคนจำนวนมาก ประกอบกับมีผู้เดินทางมาจากต่างอำเภอ และต่างจังหวัด เป็นจำนวนมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง