สหรัฐสั่งแบนบ.ผลิตถุงมือยางมาเลเซียอีกราย เหตุบังคับใช้แรงงาน
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา สำนักงานศุลกากรและป้องกันพรมแดน(ซีบีพี)ของสหรัฐอเมริกา ประกาศห้ามการนำเข้าสินค้าจากบริษัท ซุปเปอร์แม็กซ์ ผู้ผลิตถุงมือยางในมาเลเซีย หลังจากสอบสวนพบสิ่งบ่งชี้ว่ามีการบังคับใช้แรงงานภายในกระบวนการผลิตของบริษัทนี้
“ซีบีพีมีหลักฐานเพียงพอที่จะสรุปได้ว่าซุปเปอร์แม็กซ์และสาขาย่อยที่ผลิตถุงมือยาง ได้ละเมิดกฎหมายการค้าของสหรัฐ” นางแอนน์มารี อาร์.ไฮห์สมิธ เจ้าหน้าที่ซีบีพีกล่าว และว่า “จนกว่าซุปเปอร์แม็กซ์และสาขาย่อยจะสามารถพิสูจน์ได้ว่ากระบวนการผลิตของพวกเขาปลอดจากแรงงานบังคับ สินค้าของพวกเขาก็จะไม่เป็นที่ยอมรับที่นี่”
นับเป็นบริษัทสัญชาติมาเลเซียรายล่าสุดที่เผชิญคำสั่งแบนจากทางการสหรัฐ โดยมาเลเซีย เป็นชาติที่ใช้แรงงานอพยพในอุตสาหกรรมการผลิตและการเกษตรจำนวนหลายล้านคน แต่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าแรงงานอพยพเหล่านั้นมักได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดีนัก
ซีบีพีไม่ได้ระบุชี้ชัดว่าบริษัท ซุปเปอร์แม็กซ์ ที่ส่งออกถุงมือยางไปในกว่า 160 ประเทศ และสามารถผลิตถุงมือยางได้ตกปีละ 24,000 ล้านคู่ต่อปี กระทำการใดที่เป็นการละเมิดผู้ใช้แรงงาน แต่นายแอนดี้ ฮอลล์ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนที่ทำการสอบสวนซุปเปอร์แม็กซ์ กล่าวอ้างว่า คำร้องเรียนของแรงงานในบริษัทนี้มีตั้งแต่ไม่สามารถออกจากโรงงานได้ ไปจนถึงสภาพความเป็นอยู่ที่แออัด และมีการหักเงินเดือนโดยผิดกฎหมาย
ก่อนหน้านี้สหรัฐได้ใช้มาตรการเดียวกันนี้กับ บริษัท ท็อปโกลฟ ผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่สุดโลกของมาเลเซียไปแล้วเมื่อต้นปีนี้ จากการถูกกล่าวหาว่าบังคับใช้แรงงาน แต่ต่อมาคำสั่งแบนดังกล่าวถูกยกเลิกไปในเดือนกันยายนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังมีบริษัท Sime Darby Plantation และบริษัท FGV Holdings ผู้ผลิตน้ำมันปาล์ม 2 รายในมาเลเซีย ที่ถูกทางการสหรัฐสั่งแบนนำสินค้าเข้าประเทศในปี 2020 จากข้อห่วงกังวลในลักษณะเดียวกัน