ANANกู้ชีพแอสตันอโศก แบงก์รีเทนชั่นแล้ว51ห้อง
ทันหุ้น - ANAN แก้ผลกระทบแอสตัน อโศก ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดแล้ว ยันไม่ทิ้งลูกบ้าน ล่าสุดเจรจาแบงก์ช่วยปรับดอกเบี้ยรีเทนชั่นแล้ว 51 ห้อง อยู่ระหว่างดำเนินการ 55 ห้อง ด้านโครงการอื่นเดินหน้าตามแผนยอดโอนกลับมาดี มั่นใจปีนี้โอน 1.6 หมื่นล้านบาท ยอดขายยังฉลุย เล็งเปิดโครงการเพิ่ม Q4 หวังรัฐช่วยอสังหา พร้อมปลดล็อกต่างชาติ การเงินแกร่งเงินสด 3.5 พันล้านบาท
นายเสริมศักดิ์ ขวัญพ่วง ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือANAN เปิดเผยถึงความคืบหน้า โครงการแอสตัน อโศก ที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างว่า บริษัทได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดไปแล้ววันที่ 27 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา จากนั้นก็จะต้องรอการพิจารณาจากศาลปกครองต่อไป
@เจรจาช่วยรีเทนชั่นแล้ว 51 ห้อง
พร้อมกันนี้บริษัทยังได้ดำเนินการช่วยเหลือลูกบ้านอย่างสุดความสามารถ ที่ผ่านมาได้มีการเจรจากับธนาคารพาณิชย์เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษแก่ลูกบ้านของโครงการ ซึ่งในส่วนของการรีเทนชั่น (Retaintion) มีลูกบ้านคอนโดมิเนียมผ่อนชำระครบ 3 ปี สามารถทำ Retaintion ได้ จำนวน 196 ห้องชุด ซึ่งมีผู้ดำเนินการไปแล้ว 51 ห้อง และอยู่ระหว่างดำเนินการจำนวน 55 ห้อง และยังไม่ได้ดำเนินการจำนวน 90 ห้อง
บริษัทต้องการให้มั่นใจว่าบริษัทจะช่วยเหลือลูกบ้านอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนทีมทนายความเพื่อให้ลูกค้าเข้าร่วมอุทธรณ์ร่วมกัน เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวร่วมกันอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทได้รับหนังสือข้อเรียกร้องจากทางลูกบ้านแล้ว และมีการประสานงานต่อเนื่องเพื่อหาทางออกร่วมกัน
“ปัจจุบันได้รับหนังสือจากลูกบ้านแล้ว และมีการติดต่อประสานงานต่อเนื่อง และยืนยันที่จะช่วยเหลือลูกบ้านอย่างสุดความสามารถ ที่ผ่านมาก็มีการเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อช่วยเหลือลูกบ้าน ให้ได้อัตราดอกเบี้ยพิเศษจึงอยากให้มั่นใจว่าบริษัทจะดำเนินการทุกอย่างอย่างสุดความสามารถ เพราะบริษัทเองก็เป็นผู้ได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน” นายเสริมศักดิ์ กล่าว
@ ยอดโอน-ยอดขายกลับมาดี
ส่วนผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลังยังมีโนวโน้มเติบโตโดยในช่วงไตรมาส 3/2564 นี้มียอดโอนกลับมาดีต่อเนื่อง คาดว่าทั้งปีจะสามารถโอนได้ตามเป้าหมายที่ 1.6 หมื่นล้านบาท ส่วนยอดขายยังดีต่อเนื่อง โดยลูกค้าส่วนใหญ่เข้าในสถานการณ์จึงทำให้ไม่กระทบต่อโครงการอื่น ยังมีความเชื่อมั่นต่อโครงการของบริษัท การโอนโครงการอาจจะล่าช้าที่ผ่านมาเป็นผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 มากกว่า ซึ่งขณะนี้สถานการณ์เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ดังนั้นผลประกอบการจะดีขึ้นต่อเนื่อง ส่วนการเปิดโครงการใหม่บริษัทอาจจะมีการพิจารณาในช่วงไตรมาส 4/2564
นอกจากนี้บริษัทยังมีกระแสเงินสดในมือที่ยังรองรับการดำเนินธุรกิจได้ ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 มีเงินสดในมือกว่า 3,500 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนต่อไป อย่างไรก็ดีบริษัทคาดหวังให้ภาครัฐมีมาตรการในการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงปลายปี มีการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวได้ รวมไปถึงการผลักดันให้คนต่างชาติมาซื้อ และ/หรือเช่าระยะยาวอสังหาริมทรัพย์ได้สะดวกขึ้นให้คนต่างชาติมาซื้อ และ/หรือเช่าระยะยาวอสังหาริมทรัพย์ได้สะดวกขึ้น เพราะประเทศไทยยังเป็นเป้าหมายของต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุน เข้ามาอาศัย