รพ.รือเสาะ ต้องกักเจ้าหน้าที่ 30 คน หลังผู้ป่วย โควิด ให้ข้อมูลไม่ครบ
โควิด วันที่ 17 เม.ย. ที่ ร.พ.รือเสาะ จ.นราธิวาส นพ.มาหะมะ เมาะมูลา ผอ.ร.พ.รือเสาะ ได้กล่าวถึงกรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในโรงพยาบาล โดยได้รับรายงานว่า มีผู้ป่วยชายไทย อายุ 72 ปี ซึ่งอยู่ที่ ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโควิด โดยพบว่าในระหว่างกระบวนการรักษา ผู้ป่วยให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ไม่เพียงพอ ต่อการระมัดระวังในการให้บริการรักษาพยาบาล ซึ่งทีมระบาดวิทยาได้สืบสวนโรคพบว่า มีบุคลากรทางการแพทย์ 30 คน เป็นผู้ที่อยู่ในข่ายต้องกักตัวเฝ้าระวังสังเกตอาการ ทางโรงพยาบาลได้เตรียมที่พักในโรงพยาบาลเพื่อดูแลบุคลากรแล้ว
เบื้องต้นยังไม่มีผู้ที่มีอาการทางระบบทางเดินหายใจ ได้ตรวจชันสูตรไปแล้วบางส่วน และที่เหลือจะรอเวลาที่เหมาะสมตรวจเพิ่มเติม ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยก็จะถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเช่นเดียวกัน จากการสอบสวนโรคพบข้อมูลพื้นที่เสี่ยงใน อ.รือเสาะ จำนวน 2 แห่ง คือพื้นที่ ต.โคกสะตอ และ ต.สุวารี สำหรับผู้สัมผัสในกลุ่มผู้ป่วยที่อยู่ในหอผู้ป่วยเดียวกัน ได้มีการกักตัวไว้ก่อนเพื่อสังเกตอาการและตรวจชันสูตรเพิ่มเติม นอกจากนี้ทางทีมงานได้ไปส่งทีมไปเยี่ยมบ้านกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง โดยได้กักตัวสังเกตอาการที่บ้าน และวางแผนตรวจชันสูตรต่อไป
สำหรับตอนนี้โรงพยาบาลรือเสาะ มีความจำเป็นต้องปรับระบบบริการ โดยงดตรวจแผนกผู้ป่วยทั่วไป จึงต้องขออภัยผู้รับบริการทุกท่าน แต่ยังคงไว้ซึ่งแผนกอุบัติเหตุและฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง แผนกสูติกรรมสามารถมารับบริการได้ ส่วนแผนกผู้ป่วยใน จะยุบรวมบุคลากรจาก 2 ทีมเหลือเพียง 1 ทีม เนื่องจากบุคลากรถูกกักตัวสังเกตอาการ ส่วนคลินิกระบบทางเดินหายใจยังคงให้บริการตามปกติ กรณีขอใบรับรองแพทย์ที่ไม่มีความจำเป็นของดก่อนเป็นการชั่วคราว ส่วนผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องรับยาต่อเนื่องสามารถประสานได้โดยตรงที่ห้องยา ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้รับบริการเพื่อไม่ให้ติดขัดและไม่ให้ขาดการรักษา
การจัดการหลังจากพ้นช่วงเวลาวันที่ 25 เม.ย. หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงตามแผน ทางโรงพยาบาลรือเสาะจะเปิดให้บริการตามปกติ ซึ่งตอนนี้ทางทีมเฝ้าระวังการติดเชื้อของโรงพยาบาล ทีมสิ่งแวดล้อม และทีมเครื่องมือ มีการประชุมวางแผนการเบื้องต้นในการกำหนดมาตรการเข้มงวดมากขึ้น ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่ต้องดูแลผู้ป่วยทุกกลุ่ม รวมทั้งเจ้าหน้าที่ในระบบสนับสนุนการปฏิบัติงานอื่นๆ ในขั้นตอนการซักประวัติ ต้องขอความร่วมมือประชาชนผู้มารับบริการหากมีประวัติเสี่ยงในการเดินทาง การเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา หรือมีความเสี่ยงที่จะติดโรคโควิด ควรให้ประวัติกับผู้ให้บริการอย่างตรงไปตรงมาให้มากที่สุด ซึ่งประวัติของท่านมีความจำเป็นในการวางแผนการรักษา ในขณะเดียวกันผู้ติดตามและญาติต้องช่วยกันตรวจสอบข้อมูล ถ้ามีข้อมูลที่ผิดพลาดต้องช่วยกันเพิ่มเติมแก้ไข เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์มากที่สุด ซึ่งจะช่วยเกิดความปลอดภัยในการรักษาผู้ป่วยได้
ทั้งนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาสได้ประกาศหาและเชิญผู้สัมผัสมารายงานตัวเพื่อคัดกรองโควิด โดยขอให้ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายดังกล่าว ที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ และกิจกรรมทางศาสนาในห้วงเวลาเดือนมีนาคม และต้นเดือนเมษายน มารายงานตัวที่ รพ.สต. หรือโรงพยาบาลรือเสาะ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนโรคและคัดกรอง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดต่อไป