จับตาThaiESG2ชัดสัปดาห์นี้ วายุภักษ์มองจัวหวะทยอยลง

#ThaiESG2 #ทันหุ้น - ลุ้น ThaiESG2 ชัดเจนสัปดาห์นี้ หวังเข้ามาชะลอเม็ดเงินไหลออกจากหุ้นไทย ด้านตลาดหลักทรัพย์ศึกษามาตรการอื่นๆเสริมแกร่งตลาด ส่วนทางสมาคม บลจ. ชี้หุ้นลงมาจากหลายปัจจัยทั้งภายในและภายนอก แต่เชื่อกำไร บจ.ปีนี้ ยังคงเติบโต โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ ท่องเที่ยว เป็นต้น ขณะที่ บลจ.กรุงไทย ในฐานะหนึ่งในผู้บริหารกองวายุภักษ์มองเป็นจังหวะทยอยลงทุน

นายอัสสเดช  คงสิริ  กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. คาดว่า กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน 2 (ThaiESG2) จะมีความชัดเจนมากขึ้นภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าจะสร้างบรรยากาศการลงทุน (Sentiment) ในระยะสั้นได้บ้าง เนื่องจาก ThaiESG2 จะเข้ามารับการโยกเม็ดเงินจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่มีมูลค่าราว 160,000 ล้านบาท และมีแรงเทขายออกมาตั้งแต่ต้นปี 2568 จนถึงปัจจุบันนี้อยู่ที่ราว 20,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกันยังได้ศึกษาโครงการ TISA (Thailand Individual Savings Account) ซึ่งเป็นโมเดลของญี่ปุ่นในโครงการ NISA (Nippon Individual Savings Account) ในการนำเงินออมของประชาชนมาลงทุนในหุ้น และสามารถนำเงินลงทุนดังกล่าวมาลดหย่อนภาษี อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อเป็นมาตรการในระยะถัดไป

ทางด้าน นางชวินดา  หาญรัตนกูล  นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน หรือ AIMC กล่าวว่า ในรายละเอียด กองทุนThaiESG2 คงต้องให้หน่วยงานรัฐ เป็นฝ่ายสรุป ซึ่งเชื่อว่า ThaiESG2 จะช่วยชะลอการขายของกองทุน LTF ได้ระดับหนึ่ง แต่อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญก็คือความเชื่อมั่นของนักลงทุน และพื้นฐานเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งก็จะเห็นว่าภาครัฐเตรียมออกหลายมาตรการเพื่อขับเคลื่อน GDP แต ะ3%

ในส่วนของกองทุน ThaiESG2 ที่มีกระแสข่าวว่าได้สิทธิลดหย่อนภาษี 500,000 บาทนั้น นางชวินดา กล่าวว่า ในรายละเอียดต้องให้ทางภาครัฐนำโดยกระทรวงการคลัง ตลาดหลักทรัพย์เป็นฝ่ายประกาศเช่นกัน

“กำไร บริษัทจดทะเบียนปีนี้ เชื่อว่าจะออกมาดีกว่าปีก่อน แม้อาจจะไม่ได้โตทุกกลุ่มอุตสาหกรรม แต่ภาพรวมยังถือว่าทำกำไรได้ในระดับที่ดี แต่ที่ตลาดปรับฐานลงส่วนหนึ่งก็เพราะความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมกับปัจจัยภายนอกที่มีความไม่แน่นอน ซึ่งถ้ามองออกไปก็จะเห็นว่าตลาดหุ้นโลกก็มีการปรับตัวลงเช่นกัน”

นางชวินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM ยังกล่าวในฐานะหนึ่งในผู้บริหารกองทุนวายุภักษ์ 1 ว่า กองทุนมีเม็ดเงินหน้าตักราวหมื่นล้านบาท (มูลค่ากองทุนอยู่ที่ 150,000 ล้านบาท) เพื่อทยอยลงทุนในภาวะที่ตลาดหุ้นปรับตัวลง เพราะมั่นใจกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ปีนี้จะดีกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะหุ้นธนาคาร หุ้นท่องเที่ยว หุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภค เป็นต้น ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศก็คาดหวังว่าจะดีขึ้น

“เม็ดเงินวายุภักษ์ที่ 1.5 แสนล้านบาท เรามองว่าก็ช่วยซัพพอร์ตตลาดหุ้นได้บ้าง โดยในจังหวะที่ตลาดหุ้นปรับตัวลงเรามองว่าเป็นโอกาสที่ทยอยเข้าลงทุน แต่ก็จะต้องพิจารณาแบบรอบคอบไม่ผลีผลามในการเข้าลงทุน เพราะเป็นการบริหารเงินของผู้ถือหน่วย”

นอกจากนี้ ในส่วนของตลาดหลักทรัพย์ ยังมีมาตรการกระตุ้นตลาดในระยะสั้นผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการ Jump+ ที่เป็นการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี แก่บริษัทจดทะเบียน (บจ.) เพื่อช่วยกระตุ้นตลาดทุนอีกช่องทางหนึ่ง ล่าสุดมีความคืบหน้าไปมากเช่นกัน หลังจากได้มีการหารือร่วมกับกระทรวงการคลังไปแล้ว คาดว่าภายในเดือนพฤษภาคม 2568 กระทรวงการคลังสามารถเคาะรายละเอียดโครงการ และกรอบระยะเวลาต่างๆ ได้ ก่อนประกาศใช้อย่างเป็นทางการได้