หนังไทยคืนชีพ โบรกคาด major Q4/66 กำไรเพิ่ม 192%
#MAJOR #ทันหุ้น - MAJ0R มีกำหนดรายงานงบการเงินปี 2566 ในวันที่ 22 ก.พ. บล.กสิกร คาดว่าบริษัทฯ จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/2566 ที่ 228 ลบ. หากไม่รวมรายการพิเศษกำไรปกติน่าจะอยู่ที่ 228 ลบ. เพิ่มขึ้น 192% YoY และ 885% Q0Q
บล.กสิกร คาดว่ารายได้ MAJOR ไตรมาส 4/2566 จะอยู่ที่ 2.65 พันลบ. เพิ่มขึ้น 39.3% YOY และ 52.2% Q0Q คิดเป็น 99.3% ของรายได้ไตรมาส 4/2562 และคาดว่า MAJOR จะสร้างรายได้จากการเข้าชมภาพยนตร์ไตรมาส 4/2566 ที่ 1.5 พันลบ. เพิ่มขึ้น 62.1% YoYและ 84.2 Q00 คิดเป็น 102.7% ของรายได้ไตรมาส 4/2562 จากความนิยมของภาพยนตร์ในประเทศอย่าง สัปเหร่อ (509 ลบ.) ธี่หยด ( 341 ลบ.) และ 4 คิงส์ 2 (167 ลบ.)
ด้านการจัดการเงินทุน บล.กสิกรคาดว่า MAJ0R จะประกาศเงินปันผลต่อหุ้น (DPS) สุดท้ายที่ 0.43 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 89% และอัตราตอบแทนเงินปันผลต่อปีที่ 6.2% คาดว่า MAJ0R จะใช้งบซื้อหุ้นคืนจนหมด ซึ่งโครงการจะสิ้นสุดในวันที่ 15 ม.ค. โดย ณปัจจุบัน MAJOR ใช้เงิน 976 ลบ. หรือ 97.6% ของงบประมาณทั้งหมดเพื่อซื้อหุ้นคืนจำนวน64.15 ล้านหุ้น หรือ 7.2% ของหุ้นที่จำหน่ายไปแล้ว ซึ่งแสดงถึงราคาซื้อคืนที่แท้จริงที่15.22 บาทต่อหุ้น ขณะที่เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2566 MAJOR ประกาศ DPS ระหว่างกาลที่ 0.5บาท คิดเป็น 48% ของรายได้สุทธิจากการขาย MPIC
ขณะเดียวกัน รายได้จากสัมปทาน (อาหารและเครื่องดื่ม) น่าจะอยู่ที่ 748 ลบ. เพิ่มขึ้น44.4% YOY และ 66.7% Q00 คิดเป็น 141.9% ของรายได้ไตรมาส 4/2562 จากช่องทางการจัดจำหน่ายที่กว้างขึ้นไปยังร้าน 7-11 แนวโน้ม ในแง่บวก ประมาณการกำไรปกติปี 2567 ของเรา คำนวณจาก 1) กิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น 2) การส่งเสริมรูปแบบธุรกิจเพื่อร่วมกันพัฒนาภาพยนตร์ในประเทศกับผู้ให้บริการเนื้อหาในประเทศอย่าง BEC BBTV และ WORK เป็นต้นและ 3) ความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่จะขยายช่องทางการจำหน่ายป๊อปคอร์นนอกโรงภาพยนตร์
แนะนำ "ซื้อ" บล.กสิกรคงประมาณการกำไรปกติปี 2566-68 และคำแนะนำ "ซื้อ" MAJ0R พร้อมราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ใหม่อิงด้วยวิธี SOTP ที่ 19.39 บาท ปัจจัยเพิ่มตัวคูณมูลค่าหุ้นได้แก่ 1) ผลประกอบการไตรมาส 4/2566 ที่น่าจะแข็งแกร่ง และ 2) แนวทางการดำเนินงานของผู้บริหารปี 2567 ที่มีแนวโน้มค่อนข้างดีราคาเป้าหมาย ปรับราคาเป้าหมายของ MAJOR ขึ้น 1.5% จาก 19.10 บาท เป็น 19.39 บาท เนื่องจากเราใช้ราคาเป้าหมายของ TKN ของ KS เป็นส่วนหนึ่งในการประเมินมูลค่าหุ้น MAJOR ด้วยวิธี SOTP ซึ่งราคาหุ้น MAJ0R ดูเหมือนจะไม่แพง เนื่องจาก 1) ซื้อขายด้วย PER ปี 2567 ที่ 15.52 เท่า หรือเท่ากับ 1.5SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี และ 2)ประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ของเรา คิดเป็น 84% ของกำไรสุทธิ์ปี 2562 เทียบกับมูลค่าตลาดปัจจุบัน ซึ่งคิดเป็นเพียง 54.8 ของมูลค่าตลาดปี 2562