บทความนี้จะพาคุณผู้อ่านมาลองก้าวข้ามขีดความสามารถแบบไร้ขีดจำกัด ในการสร้างสรรค์งานศิลปะ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไร วาดรูปเป็นหรือไม่ เมื่อเราได้รับทักษะนี้ความคิดของคุณผู้อ่านจะเปลี่ยนไปแน่นอน ปากกาเพียงด้ามเดียวจะทำให้ชีวิตดีขึ้นได้ยังไง แล้วทุกทักษะเราจะสามารถฝึกฝนได้จริงไหม เป็นไปไม่ได้แน่นอน..! ที่เราจะสามารถทำได้ทุกทักษะ และนั่นคือสิ่งที่ผู้เขียนเคยคิดว่าเราจะสามารถฝึกฝนและทำทุกทักษะได้จริงๆ หรือไม่ เพราะผู้เขียนเคยมีความคิดว่าเราทำอะไรก็ไม่สำเร็จสักอย่าง เมื่อผู้เขียนได้เจอกับเทคนิคและวิธีคิดจากเจ้าของเพจ คลินิก Artist ศิลปะแห่งจิตใจ ความคิดที่ว่าเราจะสามารถฝึกฝนได้ทุกทักษะนั่นเป็นไปได้ แล้วการวาดรูปจะทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างไร แถมยังเป็นการวาดรูปโดยไม่ต้องยกปากกาอีก วาดแล้วชีวิตจะเปลี่ยนแปลงได้จริงๆหรือเปล่า เป็นคำถามที่ผู้เขียนถามกับตัวเอง ซึ่งในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผู้เขียนกำลังเหนื่อยล้า ท้อแท้ และหมดไฟทั้งในชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานอยากออกจากกรอบเดิมๆของชีวิตเพราะผู้เขียนก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เคยเจอกับสภาพชีวิตส่วนตัว และชีวิตการทำงานแล้วไม่มีความสุข วนลูปกับชีวิตเดิมๆซ้ำๆไม่มีที่สิ้นสุด และเมื่อผู้เขียนได้มาเจอกับวิธีคิดและเทคนิคการวาดรูปที่ช่วยก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองและใช้การวาดรูปและศิลปะจากการเล่าเรื่องเป็นการเยียวยาจิตใจ รวมทั้งได้พัฒนาทักษะที่ซ่อนอยู่ในตัว เพราะไม่เคยคิดเลยว่าเราจะสามารถฝึกฝนทุกทักษะและสามารถวาดรูปให้ออกมาดูเป็นรูปเป็นร่างได้ด้วยปากกาเพียงด้ามเดียว แถมยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองจนได้เจอกับงานในฝัน คลินิกArtist ศิลปะแห่งจิตใจ ชื่อฟังเหมือนเรากำลังจะไปหาหมอเลย ผู้เขียนคิดในใจ แต่นี้ไม่ใช่คลินิกที่รักษาสุขภาพทางกายนะ แต่เป็นคลินิกที่จะช่วยเยียวยารักษาสุขภาพทางจิตใจ ที่บอบบางและกำลังอ่อนล้า ปรับสมดุลของความคิดผ่านการวาดรูป ผ่านวิธีคิดที่เรียบง่าย การกลับมาอยู่กับตัวตนของเราเอง ทำให้เราได้มองเห็นถึงความสุขรอบตัวโดยไม่ต้องคาดหวัง ผ่านปากกาเพียงหนึ่งด้าม (ONE PEN) เป็นชื่อที่ฟังดูเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยพลังงานด้านบวกและนี้คือจุดเริ่มต้นของคำว่า ชีวิตดีขึ้นได้จากการวาด เมื่อผู้เขียนได้ลองเข้าไปเรียนวาดรูปกับทางเพจคลินิกArtist ศิลปะแห่งจิตใจ นั้นทำให้ผู้เขียนได้รู้จักกับ นายเนติธร คนคม เจ้าของเพจคลินิกArtist ศิลปะแห่งจิตใจ หรือที่ลูกศิษย์พูดถึงกันบ่อยๆ คือ (ครูบอลคลินิกArtist) ซึ่งภาพและผลงานที่ครูบอลวาดและสอนทุกภาพจะให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นธรรมชาติผ่านลายเส้นและการลงสีน้ำในแบบละมุน ซึ่งเป็นการวาดรูปในแบบที่ไม่ต้องยึดติดและเป็นอิสระ ทำให้ได้กลับมาค้นหาความหมายของชีวิต และยังทำให้จิตใจสงบไม่ไหลไปตามกระแสและความคิดด้านลบของตัวเอง จากการที่เข้ามาเรียนในคลาสการกุศลครั้งที่ 8 เมื่อปี 2566 และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเข้ามาเรียนวาดรูปของผู้เขียน ในคลาสเรียนครั้งนี้ มีทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ ส่วนมากล้วนเป็นคนที่อยู่ในวัยทำงาน เพื่อนๆในคลาสบางคนเข้ามาเรียนเพื่อจะได้ผ่อนคลายจากการทำงานที่เหนื่อยล้าหรือเพิ่มทักษะในการวาดรูปและลงสีน้ำเพื่อพัฒนาต่อยอดการสร้างรายได้ ในคลาสเรียนจะมีเพื่อนๆที่มีอาชีพหลากหลาย ไม่ว่าจะ นักเรียน นักศึกษา ครู แม่ค้า แม่บ้าน อาชีพอิสระ แพทย์ พยาบาล รวมถึงคนไทยที่อาศัยในต่างประเทศก็เข้ามาเรียน บางคนมาเรียนเป็นเพื่อนลูก ซึ่งอยู่ในวัยรุ่นเหมือนได้เพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกด้วย มีหลายสาขาอาชีพเลยก็ว่าได้ และผู้เขียนได้มีโอกาสสัมภาษณ์ครูบอลผ่านทางโทรศัพท์ เพราะอยู่คนละพื้นที่และไม่สะดวกไปสัมภาษณ์โดยตรง ซึ่งครูบอล เจ้าของเพจคลินิกArtist ศิลปะแห่งจิตใจ ซึ่งมีประสบการณ์การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะด้วยวัยเพียง 30 ปี และได้เปิดเพจสอนวาดรูปในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร และทำให้การวาดรูปจากภาพที่ว่ายากให้วาดได้ง่ายขึ้นโดยที่เราอาจจะไม่มีทักษะในเรื่องการวาดรูปมาก่อนก็ตาม และนั่นเป็นเหมือนเข็มทิศเล็กๆที่ทำให้ชีวิตของหลายๆคนที่เข้ามาเรียนหน้าเพจกับครูบอล ได้รับแรงบันดาลใจและพลังงานด้านบวกรวมทั้งทัศนคติที่ดีกลับไปด้วยทุกครั้ง พร้อมคำแนะนำเพื่อให้เราสามารถทำงานและฝึกฝนทักษะต่างๆได้เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นที่มาของคำว่า ทุกทักษะเราฝึกฝนได้และชีวิตดีขึ้นได้จากการวาดรูป จริงๆ และนี้เป็นบทสัมภาษณ์ที่ผู้เขียนได้มีโอกาสสัมภาษณ์ครูบอลผ่านทางโทรศัพท์ เพราะผู้เขียนอยู่ต่างพื้นที่คนละจังหวัด และไม่สะดวกเดินทางไปสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง เรามารับพลังงานที่ดีผ่านแรงบรรดาลใจจาก ครูบอล คลินิกArtist ศิลปะแห่งจิตใจ กันค่ะ อะไรคือแรงบันดาลใจเริ่มแรกของความชอบในวิชาศิลปะและกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้ครูบอลชอบการวาดรูปและเปิดเพจที่ชื่อว่า คลินิกArtist ศิลปะแห่งจิตใจ? ครูบอลเล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นความชอบวาดรูปในตอนแรกนั่นยังไม่มีเลยคับ จนเมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นตอนป.2 ในช่วงแรกๆ ผมยังไม่มีแรงบันดาลใจในการวาดรูปมากนัก แค่เพียงเพราะว่าผมจะต้องวาดรูปส่งคุณครู เลยหยิบภาพสิงโตที่อยู่บนกล่องดินสอสีไม้ขึ้นมาวาด เมื่อนำภาพนี้ไปส่งคุณครูที่โรงเรียน และสิ่งที่ครูบอกกับเด็กชายตัวเล็กๆคนหนึ่งว่า ภาพที่วาดส่งให้คุณครูนั่นเป็นภาพที่สวยมาก และภาพนี้ได้กลายมาเป็นแรงผลักดันเล็กๆให้เด็กชายคนหนึ่งชอบการวาดรูปเพิ่มมากขึ้นและได้ก้าวเข้ามาในโลกของงานศิลปะ ได้เข้ามาเรียนรู้เทคนิคและทักษะการวาดรูปจากรุ่นพี่ที่หอศิลป์และได้ส่งผลงานวาดรูปไปประกวดในหลายๆครั้ง นั่นคือจุดเริ่มต้นจากแรงบันดาลใจเล็กๆแต่ยิ่งใหญ่ ที่ทำให้กลายมาเป็น ครูบอล คลินิกArtist ศิลปะแห่งจิตใจ ครูบอลเล่าให้ฟังต่อว่า ผมมีความฝันที่ตั้งใจไว้คืออยากเป็นหมอ เพื่อช่วยรักษาผู้คน เนื่องจากได้เห็นคนรอบข้างเจ็บป่วยทางกายมีเพิ่มมากขึ้น ทั้งคนในครอบครัวและผู้คนรอบข้างที่ครูบอลรู้จัก เพื่อรักษาสุขภาพของคนที่รักและผู้คนที่ได้รับความทุกข์จากการเจ็บป่วย แต่ด้วยความฝันที่อยากจะเป็นหมออาจจะต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของชีวิตและการได้เลือกเส้นทางชีวิตเส้นทางใหม่ที่ไม่ใช่การรักษาผู้คนที่เกิดจากการเจ็บป่วยทางกาย และด้วยความที่ครูบอลมีแรงบันดาลใจที่อยากจะช่วยชีวิตคน และการรักษาทางใจก็เป็นสิ่งที่ทำให้จิตใจของคนที่กำลังเจอกับปัญหาทั้งจากการเรียน การงาน ค่าครองชีพที่สูงขึ้น การแข่งขันที่มีแนวโน้วสูงมากขึ้น ยิ่งเป็นเมืองใหญ่การต้องทำทุกอย่างด้วยความเร่งรีบ จนทำให้ในหลายๆคนเกิดภาวะซึมเศร้า หรือหมดไฟจากการทำงาน การได้นำงานศิลปะมาเชื่อมโยงกับการวาดรูปเพื่อเยียวยาจิตใจที่เหนื่อยล้าให้กลับมาเข้มแข็งด้วยการวาดรูปผ่านปากกาเพียง 1 ด้าม และนั่นเป็นอีกจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงและทำให้ได้กลับมาค้นหาความหมายของชีวิตว่าเราทำงานไปเพื่ออะไร และทำไปเพื่อใครบ้าง จุดเริ่มต้นของเพจ คลินิก Artist ศิลปะแห่งจิตใจ แรงบันดาลใจคือผมอยากช่วยชีวิตคนและการได้ช่วยเยียวยารักษาทางจิตใจก็เป็นสิ่งที่ทำให้จิตใจของผู้คนกลับมาเข้มแข็งได้อีกทาง เพียงแต่การรักษาเป็นการเยียวยาอาจไม่ใช่ที่ร่างกาย แต่เป็นการเยียวยาจากภายในจิตใจ การได้สร้างเพจที่มีชื่อว่า คลินิก Artist ศิลปะแห่งจิตใจ เป็นการนำศิลปะมาเป็นสื่อเชื่อมโยงไปยังคนที่อยากจะออกจากความสับสนวุ่นวายจากโลกภายนอก ให้มาค้นหาความสงบจากภายในด้วยการวาดรูป และศิลปะจากการวาดรูปยังช่วยดึงศักยภาพในตัวของเราให้ก้าวข้ามขีดจำกัด ไม่ใช่เพียงเพราะอยากมาวาดรูปเพื่อผ่อนคลายเพียงอย่างเดียว แต่นั่นยังกลายเป็นแรงผลักดันให้คนที่วาดรูปไม่เก่งหรือเคยมีปมจากวัยเด็ก ที่ไม่ว่าจะวาดรูปอะไรก็ไม่สวยให้มีความเชื่อมั่นว่า ทุกทักษะฝึกฝนได้ขอให้เราได้ลองทำ เพราะในการเยียวยาจิตใจ ผมอยากใช้ความสามารถในงานด้านศิลปะช่วยเหลือผู้คนเป็นสื่อกลางผ่านจิตใจเพราะเรามีความทุกข์ตั้งแต่เด็ก เราจะปรับตัวให้เข้ากับผู้คนมากมายได้อย่างไร ผมเลยเริ่มศึกษาจิตวิทยา ศึกษาหลักปฏิบัติธรรมมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันเริ่มชัดในตัวตนและเป็นสิ่งที่เป็นตัวตนของเรา ครูบอลได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปินท่านใดบ้างค่ะ ผมชื่นชอบศิลปินต่างประเทศหลายท่านคับ อย่างเช่น อาจารย์ฮายาโอะ มิยาซากิ , อาจารย์ จิบิสตูดิโอ , อาจารย์คิมจูงกิ ,ยังมีศิลปินในเมืองไทยที่ผมได้เห็นผลงานและได้รับแรงบันดาลใจก็มี พี่มุนิน , มะม่วงจัง , พี่ตั๊ม.วิสุทธ์ พรนิมิต ผมจะใช้วิธีการศึกษาการทำงานจากศิลปินในดวงใจและผลงานที่ศิลปินแต่ละท่านสร้างสรรค์ออกมาและนำมาถอดรหัสเพื่อให้ได้แนวความคิดในการสร้างสรรค์ผลงานของศิลปินแต่ละท่าน เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะของเราต่อไป ยกตัวอย่างเช่น อาจารย์จิบิสตูดิโอ ซึ่งมีการทำงานที่แตกต่างไม่จำกัดความคิดในการสร้างสรรค์ผลงาน โดยในภาพแต่ละภาพที่จิบิสตูดิโอวาดออกมาจะไม่ใช่ภาพต้นเรื่อง หรือกลางเรื่อง หรือแม้แต่ตอนจบของเรื่อง แต่ภาพทุกภาพที่วาดเป็นต้นแบบจะถูกนำมาจัดเรียงภาพใหม่จนกลายเป็นหนังเรื่องหนึ่ง อาจารย์คิมจูงกิ ใช้เทคนิคการวาดแบบไม่ร่าง เป็นการวาดด้วยปากกา 1 ด้าม เหมือนมีภาพในสมองหรือในหัว โดยวาดภาพต่อเนื่องออกมาได้โดยไม่ต้องมีภาพต้นแบบ ภาพที่เกิดจากจิตนาการที่อาจารย์นึกขึ้นมาได้ในคลังสมอง คือสามารถวาดไปได้เรื่อยๆ แล้วถ้าวาดไปเกิดต่อภาพตรงจุดไหนไม่ได้ อาจารย์ก็จะไปวาดที่จุดอื่นๆแทนแล้วค่อยกลับมาวาดเติมภาพในจุดที่เหลือต่ออีกครั้งจนเสร็จ ผู้เขียนอยากทราบว่า ครูบอลใช้เทคนิคการสอนแบบไหนในการสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับลูกศิษย์ที่มาขอคำปรึกษา เมื่อเจอกับสภาพของจิตใจที่เหนื่อยล้าเหมือนหลงทางกับชีวิต หรือหมดไฟในการทำงานบ้างค่ะ ครูใช้การสอนแบบ Art Therapy เป็นการนำงานศิลปะมาช่วยในการปรับสภาวะอารมณ์ของนักเรียน ทำให้สามารถจัดการกับความเครียด ความเศร้า หรือทำให้เข้าใจถึงสภาวะอารมณ์ที่กำลังเป็นอยู่ ช่วยปรับสมดุลทางด้านความคิดที่เกิดจากภาวะเครียดให้ผ่อนคลายด้วยการสร้างสรรค์งานศิลปะผ่านการวาดรูป การปรับทัศนคติพลังงานด้านบวกให้กับนักเรียนที่เข้ามาเรียนในเพจครูบอล รวมถึงการเล่าเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของครูเองจากประสบการณ์ที่มีปัญหาใกล้เคียงกันกับที่นักเรียนหลายคนเคยเจอประสบการณ์ที่คล้ายๆกันเป็นการใช้ศิลปะในการปรับเปลี่ยนสภาพจิตใจจากภายในสู่ภายนอกคับ จากบทสัมภาษณ์ครูบอล.เจ้าของเพจคลินิกArtist. ศิลปะแห่งจิตใจ ทำให้ผู้เขียนได้ตกผลึกทางความคิดหลายอย่างว่า สังคมในยุคปัจจุบันนั่น บางครั้งก็ทำให้ผู้คนมากมาย ต้องดิ้นรนกับชีวิตจนทำให้เกิดความวุ่นวายทางจิตใจ ยิ่งเทคโนโลยีที่ใช้เสพสื่อต่างๆนั่นมีหลากลายรูปแบบ จนไม่รู้ว่าสิ่งไหนดีหรือไม่ดี ขาดการยั้งคิด วิเคราะห์ บางครั้งยังขาดสติ จนไม่สามารควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้จนเกิดข้อโต้แย้งจนทำร้ายร่างกายกันเลยก็มี และการวาดรูปเปรียบเสมีอนเกราะป้องกันที่จะช่วยเยียวยาจิตใจที่อ่อนล้าและสิ้นหวังให้กลับมาเข้มแข็ง ช่วยเปลี่ยนทัศนคติในด้านลบให้ค่อยๆปรับความคิดให้สมดุล ทั้งยังเป็นการพัฒนาสมองซีกขวาที่ช่วยในการควบคุมอารมณ์ ควบคุมสติ ฝึกสมาธิเปรียบเสมือนการนั่งสมาธิเลยก็ว่าได้ เพราะการได้ลงมือวาดรูปทำให้จิตใจเราจดจ่ออยู่ที่ตัวตนของเรา ณ ปัจจุบันในเวลาขณะที่ได้วาดรูป ทำให้จิตที่คิดฟุ้งซ่านนั้นค่อยๆสงบลงและผ่อนคลาย และที่สำคัญยังช่วยเพิ่มความสุขจากการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะทำให้เราเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น แถมการวาดภาพแบบคอนทัวร์ไลน์โดยไม่ต้องยกปากการทำให้เราได้รู้ขีดความสามารถว่าเราสามารถพัฒนาเพื่อค้นหาความสามารถที่มีอยู่ในตัวเราได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งผู้เขียนได้ลองฝึกวาดคอนทัวร์ไลน์ จากการเข้าไปเรียนในคราส ONE PEN วาดคนมากมายด้วยปากกาแท่งเดียว ทำให้ผู้เขียนได้พัฒนาทักษะการวาดได้เร็วขึ้น และยังได้ฝึกสมาธิไปในตัวอีกด้วย ขอขอบคุณเพจคลินิก Artist ศิลปะแห่งจิตใจ ที่มาช่วยเติมเต็มพลังบวก พัฒนาจิตใจให้ก้าวผ่านจิตใจที่ท้อแท้และสิ้นหวังจากชีวิต พร้อมทั้งยังทำให้หลายๆคนได้เจอกับงานในฝัน และบอกเล่าถึงอีกแง่มุมหนึ่งของการได้ทำตามความฝัน อีกทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจในการนำศิลปะมาเป็นจุดเชื่อมโยงจิตใจผ่านการวาดรูป ทำให้ผู้เขียนและทุกคนที่ได้มาเรียนรู้ถึงวิธีคิดและผลงานของครูบอลผ่านการวาดรูปรวมถึงการสร้างสรรค์งานศิลปะในมุมมองใหม่ๆ เพื่อให้ได้ก้าวผ่านข้ามขีดจำกัดความสามารถด้วยคำว่า ชีวิตดีขึ้นได้จากการวาด และทุกทักษะฝึกฝนได้ขอแค่ให้เราได้เรียนรู้ เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คุณผู้อ่านมีความคิดเห็นอย่างไร และใช้วิธีใดในการก้าวออกมาจากปัญหาที่กำลังเจอ หรือปรับเปลี่ยนวิธีคิดให้เป็นพลังานด้านบวกได้อย่างไร กับชีวิตที่แสนวุ่นวายในโลกปัจจุบันนี้ พิมพ์ใต้คอมเมนต์มาบอกเล่าประสบการณ์ที่เคยเจอมาหรือแนะนำเพิ่มเติมได้นะคะ และผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย เพื่อเป็นเสมือนแสงเทียนเล็ก ๆที่ช่วยส่องแสงหรือนำพาความโชคดีมาให้กับทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านบทความนี้ ขอบคุณค่ะ ขอขอบคุณ ภาพประกอบปกบทความจาก เพจคลินิกArtistศิลปะแห่งจิตใจ ออกแบบภาพประกอบบทความโดย นามปากกา PLAArttaichi ภาพที่ 1,2,3,4,5,6,7,8,9,10,11,12,13,14,15,16 ,17 ลิงค์ภาพประกอบบทความภาพที่ 1 , 3.1 , 3.2 , 4 , 5 , 7 , 8 , 9 , 10 , 11.1 , 11.2 , 12 , 14 จากเฟสบุ๊ค เพจคลินิกArtistศิลปะแห่งจิตใจ 7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์