ขั้นตอนขัดเครื่องครัวสะอาด ด้วยเบกกิ้งโซดา ขจัดคราบรอยไหม้ดำ กดอ่านเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล การปรุงประกอบอาหารเพื่อรับประทานในแต่ละวัน นอกจากเราจะต้องเรียนรูเรื่องการเลือกซื้ออาหาร การจัดเก็บและการปรุงแล้ว การทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องครัวของเราก็มีความสำคัญค่ะ โดยหลายคนมักเจอปัญหาคล้ายๆ กัน นั่นคือ การที่ภาชนะและเครื่องครัวของเรามีคราบด่างหมองเกาะติดแน่น ทั้งที่เกิดจากการไหม้ในระหว่างทำอาหารหรืออื่นๆ ในระหว่างที่เราใช้ภาชนะชิ้นนั้นไป และหนึ่งอย่างที่เราทุกคนต่างก็อยากจะให้เกิดขึ้นภายในครัวก็คือ อยากให้เครื่องครัวของเราดูใหม่เอี่ยม และดูสะอาดสะอ้านไปได้นานจนกว่าจะเลิกใช้ จริงไหมคะ? ดังนั้นเพื่อให้ความต้องการนั้นมองเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น ในบทความนี้ผู้เขียนจะมาบอกต่อหนึ่งทริคสำคัญ สำหรับขจัดคราบด่างหมองที่ภาชนะของเรากันค่ะ โดยทริคนั้นก็คือการขัดคราบดำด้วยการใช้เบกกิ้งโซดาค่ะ เมื่ออ่านจบแล้วคุณผู้อ่านจะเข้าใจว่า การขัดคราบดำด่างด้วยเบกกิ้งโซดาต้องทำยังไงบ้าง ได้ผลดีหรือแค่เป็นเรื่องเล่าเฉยๆ คำตอบและหลักฐานยืนยันอยู่ในบทความนี้ค่ะ และถ้าอยากรู้แล้วว่าต้องทำยังไงบ้าง ถึงจะทำให้ภาชนะของเราสะอาดขึ้นกว่าเดิม งั้นเรามารู้กันเลยดีกว่าค่ะ กับข้อมูลที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ ทำไมเบกกิ้งโซดาถึงขจัดคราบดำด่างและรอยไหม้ได้? การทำความสะอาดคราบดำด่างด้วยเบกกิ้งโซดา ทำได้ก็เพราะว่าเบกกิ้งโซดามีคุณสมบัติเป็นด่างอ่อนๆ ค่ะ พอเป็นแบบนั้นเมื่อผงชนิดนี้ไปเจอกับคราบด่าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรดอ่อนๆ หรือคราบสกปรกที่มีลักษณะเป็นคราบไขมัน เบกกิ้งโซดาจะเข้าไปทำปฏิกิริยา และทำให้คราบเหล่านั้นอ่อนตัวลงและหลุดออกมาได้ง่ายขึ้น แถมด้วยความที่เป็นผงเล็กเม็ดเล็กๆ คล้ายเม็ดทราย ก็เลยมีคุณสมบัติในการช่วยขัดถูคราบสกปรกที่ฝังแน่นให้หลุดออกได้ โดยไม่ทำให้พื้นผิวเสียหายหรือเป็นรอยเหมือนผงขัดที่หยาบกว่านะคะ อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมี 1. เบกกิ้งโซดา เบกกิ้งโซดามีลักษณะเป็นผงสีขาวละเอียด ที่บางคนอาจเคยเห็นในครัวเรือน โดยส่วนใหญ่จะใช้ทำขนมให้ฟูหรือดับกลิ่นในตู้เย็นค่ะ แต่รู้ไหมคะว่า ผงเบกกิ้งโซดานี้ยังสามารถนำมาใช้ขัดทำความสะอาดคราบด่างต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นคราบน้ำบนสุขภัณฑ์ คราบกาแฟในแก้ว หรือแม้แต่คราบไหม้ก้นกระทะได้ เพราะเบกกิ้งโซดามีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆ และมีลักษณะเป็นผงเม็ดเล็กๆ ที่ช่วยขัดถูคราบสกปรกออกได้โดยไม่ทิ้งรอยขีดข่วนให้พื้นผิวเสียหาย เวลาใช้ก็ง่าย ซึ่งเราสามารถหาซื้อเบกกิ้งโซดาได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ในแผนกเบเกอรี่ หรือแผนกทำความสะอาด ก็มีให้เลือกซื้อหลายยี่ห้อเลยค่ะ ในร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอยก็มีขายนะคะ 2. น้ำเปล่า ใช้สำหรับผสมกับเบกกิ้งโซดาให้เป็นเนื้อครีม และใช้ในตอนสุดท้ายสำหรับล้างทำความสะอาดภาชนะของเราค่ะ 3. ฟองน้ำหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ ให้เลือกแบบที่ไม่ก่อให้เกิดรอยขีดข่วนบนพื้นผิวเครื่องครัวของเรา โดยจะช่วยให้ขัดคราบได้อย่างอ่อนโยนค่ะ 3. ถุงมือยาง (ถ้าต้องการ) ถ้าเราเป็นคนที่มีผิวแพ้ง่าย หรือต้องขัดคราบฝังแน่นเป็นเวลานาน การสวมถุงมือจะช่วยปกป้องมือของเราได้ค่ะ ขั้นตอนในการขัดเครื่องครัว 1. นำอุปกรณ์ทั้งหมดที่เตรียมไว้และภาชนะที่ต้องการขัดไปในจุดที่เราต้องการ ซึ่งอาจเป็นบริเวณอ่างล้างจาน หรือถ้าขัดจำนวนมากอาจเป็นพื้นที่ด้านหลังครัว ด้านข้างบ้านหรือพื้นที่บริเวณส่วนซักล้าง หรือจุดไหนก็ได้ที่สะดวก เพราะบางคนอาจต้องการนั่งขัด 2. ล้างคราบสกปรกเบื้องต้น ให้เราล้างเครื่องครัวที่เตรียมมาขัดเพื่อขจัดคราบ ด้วยน้ำเปล่าและน้ำยาล้างจานทั่วไปก่อนตามปกติที่เราเคยล้างจานค่ะ เพื่อขจัดเศษอาหารหรือคราบสกปรกที่ไม่ฝังแน่นออกไปก่อน 3. ผสมเบกกิ้งโซดา สำหรับคราบทั่วไปให้ผสมเบกกิ้งโซดาประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะกับน้ำเล็กน้อย คนให้เข้ากันจนได้เป็นเนื้อครีมข้นๆ คล้ายยาสีฟัน ถ้าคราบฝังแน่นมาก อาจจะใช้เบกกิ้งโซดาผงโรยลงไปได้เลยนะคะ 4. ทาเบกกิ้งโซดาที่ผสมน้ำลงบนคราบ อาจใช้ฟองน้ำหรือผ้าแตะส่วนผสมเบกกิ้งโซดาที่เตรียมไว้ หรือใช้ช้อนตักก็ได้ค่ะ แล้วทาให้ทั่วบริเวณที่มีคราบด่างหรือคราบหมองบนเครื่องครัวของเรา 5. ทิ้งไว้สักครู่ ต้องปล่อยให้เบกกิ้งโซดาทำปฏิกิริยากับคราบประมาณ 10-15 นาที ก่อนนะคะ และสำหรับคราบที่ฝังแน่นมากๆ อาจจะทิ้งไว้นานขึ้นถึง 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง 6. ขัดเบาๆ ให้ใช้ฟองน้ำหรือผ้าค่อยๆ ขัดถูบริเวณที่ทาเบกกิ้งโซดาเอาไว้ โดยให้เน้นบริเวณที่มีคราบดำด่าง ถ้าเป็นเครื่องครัวที่เกิดรอยง่าย ให้ขัดเบาๆ วนเป็นวงกลม หากคราบยังไม่หลุดหมด ให้โรยเบกกิ้งโซดาเพิ่มเล็กน้อยแล้วขัดต่อ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนคราบดำด่างหลุดหมดและเราพึงพอใจค่ะ 7. ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ให้ล้างเครื่องครัวด้วยน้ำเปล่าให้สะอาดหมดจด จนแน่ใจว่าไม่มีคราบเบกกิ้งโซดาหลงเหลืออยู่ค่ะ 8. เช็ดหรือคว่ำให้แห้ง อาจใช้ผ้าสะอาดเช็ดเครื่องครัวให้แห้งสนิท หรือคว่ำให้แห้งก็ได้ ตามที่เราสะดวก เพียงเท่านี้ขั้นตอนการขัดคราบดำด่างบนภาชนะก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ข้อแนะนำเพิ่มเติม ทดสอบก่อน: สำหรับเครื่องครัวบางประเภทที่อาจจะบอบบาง แนะนำให้ลองทดสอบเบกกิ้งโซดาในพื้นที่เล็กๆ ที่ไม่เด่นชัดก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดความเสียหายนะคะ ใช้กับเครื่องครัวประเภทไหนได้บ้าง: เบกกิ้งโซดาสามารถใช้ได้ดีกับเครื่องครัวสเตนเลสสตีล เซรามิก แก้ว และทองแดงค่ะ ความปลอดภัย: เบกกิ้งโซดาปลอดภัยต่อการใช้งาน แต่หากผิวแพ้ง่าย อาจจะต้องสวมถุงมือเพื่อป้องกันการระคายเคืองนะคะ ไม่ควรใช้กับเครื่องครัวบางประเภท: ไม่แนะนำให้ใช้เบกกิ้งโซดากับเครื่องครัวอะลูมิเนียม เพราะอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาและทำให้พื้นผิวหมองได้ค่ะ จะรู้ได้อย่างไรว่าขัดเครื่องครัวพอแล้ว? การตัดสินใจว่าเมื่อไหร่ควรหยุดขัดเครื่องครัวนั้นง่ายกว่าที่คิดค่ะ หลักๆ แล้วให้สังเกตจากสภาพของคราบและพื้นผิวของเครื่องครัวเป็นสำคัญ หากคราบสกปรกจางหายไปจนมองไม่เห็น หรือแทบไม่เหลืออยู่เลย นั่นเป็นสัญญาณที่ดีว่าเราขัดได้เพียงพอแล้ว ที่มีส่วนไปทำให้พื้นผิวเครื่องครัวกลับมาเงางามได้เหมือนเดิม หากเครื่องครัวที่เราขัดเป็นสเตนเลสสตีล หรือวัสดุที่ควรจะมีความเงางาม เมื่อเราขัดจนพื้นผิวกลับมาเปล่งประกายคล้ายใหม่ หรือมีความเงาที่น่าพอใจ ก็แสดงว่าการขัดนั้นได้ผลแล้วนะคะ สิ่งต่อมาคือหากพบว่าสัมผัสแล้วเรียบลื่นเท่ากันทุกพื้นที่ ก็แสดงว่าคราบที่ฝังแน่นได้ถูกขจัดออกไปแล้ว เพราะปกติคราบที่เกาะเป็นชั้นหรือคราบไหม้ มักทำให้ผิวของภาชนะไม่เรียบค่ะ และอีกอย่างที่สำคัญ คือ จะต้องไม่มีคราบ เบกกิ้ง โซดาหลงเหลืออยู่โดยหลังจากล้างน้ำสะอาดแล้ว ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีคราบผงสีขาวของ เบกกิ้ง โซดาเหลือตกค้างอยู่บนเครื่องครัวเลย เพราะถ้าเหลืออยู่ นั่นแปลว่ายังล้างไม่สะอาดพอและอาจทำให้เครื่องครัวดูหมองได้ค่ะ อย่างไรก็ตามให้หลีกเลี่ยงการขัดมากเกินไป สิ่งสำคัญคือต้องหยุดเมื่อคราบหายไป ไม่จำเป็นต้องขัดซ้ำๆ จนรู้สึกว่าเปลืองแรงหรือใช้เวลานานเกินไป เพราะการขัดมากเกินความจำเป็นอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนเล็กๆ บนพื้นผิวของเครื่องครัวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราใช้ฟองน้ำใยขัดที่หยาบ หรือขัดด้วยแรงที่มากเกินไปค่ะ และนั้นคือขั้นตอนในการขัดเพื่อขจัดคราบดำด่างด้วยเบกกิ้งโซดาค่ะ ที่เป็นเป้าหมายของใครหลายคน เพราะอยากจะทำให้คราบหายไปและเครื่องครัวกลับมาสะอาดน่าใช้ โดยไม่ทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติมค่ะ เป็นยังไงบ้างค่ะ เห็นกันแล้วหรือว่าผลลัพธ์เป็นยังไง สะอาดขึ้นมากเลยใช่ไหมคะ? และไม่ได้ยากจนเกินไปที่จะนำไปปรับใช้ใช้ไหม? หากมีเครื่องครัวจำนวน ผู้เขียนแนะนำว่าให้แบ่งออกมาขัดบางส่วนก่อน หรือหาผู้ช่วยมาช่วยขัดนะคะ เพราะถ้าเจอคราบหนักเราอาจจะเมื่อยมือได้ ถ้าต้องขัดทุกชิ้นภายในครัวของเรา เพราะผู้เขียนก็ซอยเป้าหมายใหญ่ออกมาเป็นจุดเล็กๆ ที่ทำสำเร็จได้ง่ายๆ ก่อนเหมือนกันค่ะ จากนั้นทำต่อไปเรื่อยๆ ตอนว่างตอนสะดวก สุดท้ายภาชนะทุกชิ้นก็สะอาดได้ด้วยฝีมือของเราจากการใช้เบกกิ้งโซดาค่ะ ถ้าจะให้ดีมีแผนการขัดคราบดำด่างเป็นระยะด้วย แบบนี้ยิ่งทำให้เครื่องครัวของเราสะอาดอยู่ตลอดเวลาค่ะ อย่างไรก็ตามหากพบว่าเครื่องครัวสภาพไม่ค่อยดีจากที่อาจจะใช้งานมานานมาก และถึงแม้ว่าจะขัดด้วยเบกกิ้งโวดาแล้วก็ตาม และสนใจอยากมีเครื่องครัวใหม่ไว้ใช้ในบ้าน ปัจจุบันสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้หลากหลายอย่างแล้วนะคะ และมีโค้ดส่วนลดสำหรับเครื่องครัวให้ด้วยนะคะ ที่ https://ttid.co/UAnK/unpr6f01 ยังไงนั้นคุณผู้อ่านก็อย่าลืมนำวิธีการในนี้ไปปรับใช้กันค่ะ ขอให้สนุกกับการขจัดความสกปรก เพื่อคงความสะอาดบนภาชนะในครัวเรือนของเรานะคะ ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไป และถ้าต้องการอ่านบทความทั้งหมดโดยผู้เขียน ให้กดที่รูปโปรไฟล์ใต้ชื่อบทความนี้ได้เลยค่ะ เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกและออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 9 วิธีเลือกฟองน้ำล้างจาน ดูแบบไหนดี มีคุณภาพ น่าซื้อมาใช้ 7 ตัวอย่างการใช้ประโยชน์จากเบกกิ้งโซดา (Baking Soda) ในบ้านง่ายๆ วิธีการเลือกจานใส่อาหาร แบบไหนเหมาะสม น่าซื้อมาใช้ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !