สปสช.จ่ายชดเชยผลกระทบวัคซีนกว่า400ราย ส่วนใหญ่ผลข้างเคียงไม่รุนแรง
วันนี้ (18มิ.ย.64) ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวชี้แจงเกี่ยวกับการจ่ายเงินชดเชยเยียวยาให้กับประชาชนที่ได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน โดยข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน (2564) ที่ผ่านมามีประชาชนทำเรื่องขอเบิกมา 600 กว่าราย จ่ายไปแล้ว 400 กว่าราย เป็นวงเงินรวม 13 ล้านบาท ซึ่งหลักเกณฑ์การพิจารณาจ่ายเงินชดเชยเยียวยา สปสช.ไม่พิสูจน์ความถูก ผิด แต่ใช้หลักการณ์ว่าหากหลังการฉีดวัคซีนแล้วเกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์จะได้รับเงินชดเชยเยียวยาเบื้องต้น
โดยแบ่งลักษณะอาการออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
กลุ่มสีเขียว มีอาการข้างเคียงไม่รุนแรง เช่น แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก จ่ายไม่เกิน 1 แสนบาท
กลุ่มสีเหลือง พิการชั่วคราว เช่น อัมพาตครึ่งซีก ชาครึ่งตัว จ่าย 2 แสน 4 หมื่นบาท
กลุ่มสีแดง คือ พิการถาวร หรือ เสียชีวิต จ่ายไม่เกิน 4 แสนบาท
ซึ่งการจ่ายเงินชดเชยเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบแต่ละรายอาจไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับอาการและการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการระดับเขตที่ตั้งขึ้นมา 13 ชุด
ทั้งนี้ จากการพิจารณาในจำนวน 600 ราย ที่ส่งเรื่องขอเบิกเงินเยียวยาเข้ามา พบมี 87% เข้าหลักเกณฑ์ อีก 13% ไม่เข้าหลักเกณฑ์ และส่วนใหญ่ผู้ที่เข้าหลักเกณฑ์จะจัดอยู่ในกลุ่มสีเขียว อาการไม่รุนแรง 95.5% มีกลุ่มสีเหลืองพิการชั่วคราว อัมพาตครึ่งซีก ชาครึ่งตัว 0.5% และสีแดง เสียชีวิต 4% ซึ่งในกลุ่มที่เสียชีวิต ยังไม่มีรายใดได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นผลมาจากวัคซีน แต่ สปสช.ถือว่าเมื่อไปรับการฉีดวัคซีนแล้วได้รับผลกระทบ ก็มีสิทธิ์ที่จะยื่นขอรับเงินเยียวยาเบื้องต้น
ขณะที่งบประมาณในการเบิกจ่ายเงินชดเชยเยียวยา รองเลขาธิการ สปสช.ระบุว่า ได้รับจัดสรรมาจากรัฐบาล 2 รอบ คือ รอบแรกจำนวน 100 ล้านบาท และรอบ 2 จำนวน 30 ล้านบาท พร้อมยืนยันทุกรายหากผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการฯแล้วว่าเห็นควรอนุมัติเงินชดเชยให้เพราะผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน จะได้รับเงินโอนเข้าบัญชีธนาคารภายใน 5 วัน
ส่วนประชาชนรายใดยังไม่ทราบว่าหากตนเองแพ้วัคซีนจะไปยื่นขอเบิกเงินชดเชยที่ใด ให้สามารถไปทำเรื่องได้ที่โรงพยาบาลที่ไปฉีดวัคซีน หรือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด รวมถึงสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งมี 13 แห่งทั่วประเทศ