ซิโนแวค-ซิโนฟาร์ม เท็จจริงอย่างไรที่จีนอ้างว่าผลิตวัคซีนโควิดมากกว่าครึ่งของจำนวนที่มีทั้งโลก
จีนระบุว่าเป็นผู้ผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 กว่าครึ่งของที่ผลิตขึ้นทั้งหมดในโลก
ทีมตรวจสอบความจริงของบีบีซี (BBC Reality Check) ได้ตรวจสอบคำกล่าวอ้างนี้ ว่าเป็นความจริงมากน้อยเพียงใด
จีนอ้างว่าอย่างไร
วิดีโอที่โพสต์ทางบัญชีโซเชียลมีเดียของสันนิบาตเยาวชนพรรคคอมมิวนิสต์จีน อ้างว่า กว่าครึ่งของวัคซีนต้านโควิดที่มีใช้กันทั่วโลกมาจากจีน
วิดีโอนี้ถูกโพสต์ทางเวยป๋อ (Weibo) โซเชียลมีเดียยอดนิยมของจีน เมื่อช่วงปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ในขณะที่การให้วัคซีนต้านโควิดทั่วโลกเพิ่งจะทะลุหลัก 6 พันล้านโดส (ตามข้อมูลของเว็บไซต์ Our World in Data)
แล้วจีนเป็นผู้ผลิตวัคซีนกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้ คือกว่า 3 พันล้านโดสเพื่อการใช้ภายในประเทศและการส่งออกจริงหรือ
เราทราบว่าจีนมีความสามารถในการผลิตวัคซีนต้านโควิดได้จำนวนมาก ทั้งยังอ้างว่าได้ฉีดวัคซีนที่ผลิตขึ้นเองให้แก่ประชาชนภายในประเทศไปแล้ว 2.2 พันล้านโดส (ข้อมูล ณ วันที่ 27 ก.ย.)
อย่างไรก็ตาม บีบีซีไม่สามารถตรวจสอบคำกล่าวอ้างนี้ได้แน่ชัดว่าจีนได้ฉีดวัคซีนให้คนในประเทศไปแล้วกี่โดส
จีนถือเป็นผู้ส่งออกวัคซีนต้านโควิดชั้นนำของโลก ทั้งการส่งออกให้ประเทศคู่ค้า และการบริจาค
วัคซีนที่ส่งออกบางส่วนอยู่ในรูปของส่วนประกอบวัคซีนที่ต้องนำไปผสมสูตรและแบ่งบรรจุที่ประเทศปลายทาง
กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุเมื่อ 23 ก.ย. ว่า "จีนได้ส่งมอบวัคซีน 1.2 พันล้านโดส ทั้งที่เป็นวัคซีนสำเร็จรูปและวัคซีนที่ต้องนำไปผสมสูตรและแบ่งบรรจุเอง ให้กว่า 100 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ
พิสูจน์การส่งออกวัคซีนของจีน
Airfinity บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลได้เฝ้าติดตามการผลิตวัคซีนทั่วโลก และประเมินว่าจีนได้ส่งออกวัคซีนต้านโควิดในเชิงพาณิชย์ไป 1.1 พันล้านโดส (ข้อมูล ณ วันที่ 8 ต.ค.) ให้แก่ 123 ประเทศ (ทั้งวัคซีนสำเร็จรูป และส่วนประกอบวัคซีนที่ต้องนำไปผสมสูตรและแบ่งบรรจุเอง)
ในจำนวนนี้ ราว 110 ล้านโดส ถูกซื้อไปโดยโครงการโคแวกซ์ (Covax) ที่จัดหาวัคซีนให้แก่ประเทศรายได้ต่ำ
นอกจากนี้ ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ยังระบุว่า จีนได้ส่งมอบวัคซีนต้านโควิดเพื่อการบริจาคไปแล้วประมาณ 37 ล้านโดส จากจำนวนที่ให้คำมั่นว่าจะบริจาคทั้งหมดราว 52 ล้านโดส
ดังนั้น คำกล่าวอ้างของจีนว่าส่งออกวัคซีนไปแล้ว 1.2 พันล้านโดส จึงอาจสูงกว่าข้อมูลที่บีบีซีตรวจสอบพบเล็กน้อย
เมื่อนำไปบวกกับจำนวนวัคซีนที่จีนฉีดให้คนในประเทศ 2.2 พันล้านโดส ก็ถือว่ามีจำนวนเกินครึ่งหนึ่งของวัคซีนต้านโควิดที่ฉีดให้คนทั่วโลก อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่าวัคซีนที่มีการส่งออกไปได้ถูกใช้จริงไปเท่าใด
ในข้อตกลงส่งออกวัคซีนที่จีนทำกับบางประเทศนั้น เป็นการร่วมมือทางธุรกิจเพื่อผลิตวัคซีนในต่างแดน
ยกตัวอย่างเช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ลงนามในข้อตกลงเมื่อเดือน มี.ค.ในการผลิตวัคซีนต้านโควิดของจีนภายในประเทศ โดยใช้ส่วนผสมที่จีนจัดส่งให้
ส่วนบริษัท Bio-Manguinhos/Fiocruz ของบราซิล ก็ผลิตวัคซีนกว่า 100 ล้านโดสที่ใช้เทคโนโลยีการแพทย์ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า แต่ใช้ส่วนผสมจากบริษัท Wuxi Biologics ของจีน
จากประกาศของศุลกากรดูเหมือนว่า ตัวเลขการส่งออกของจีนจะรวมถึงส่วนประกอบในการผลิตวัคซีนเหล่านี้ทั้งหมดที่ส่งออกนอกประเทศ นอกเหนือไปจากวัคซีนสำเร็จรูปที่ผลิตขึ้นในจีน
เทียบประเทศอื่น
ในแง่ของการฉีดวัคซีนให้คนในประเทศนั้น ข้อมูลจาก Our World in Data ระบุว่า จีนฉีดให้แก่ประชาชนแล้ว 2.2 พันล้านโดสเมื่อวันที่ 6 ต.ค. ขณะที่อินเดียอยู่ที่กว่า 923.5 ล้านโดส สหภาพยุโรป 571.4 ล้านโดส และสหรัฐฯ ที่ 398.7 ล้านโดส
ข้อมูลเรื่องการส่งออกวัคซีนที่บีบีซีได้รับจาก Airfinity เผยให้เห็นว่า ในเขตเศรษฐกิจยุโรป (สมาชิกอียู รวมทั้ง ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และลิกเตนสไตน์) ได้ส่งออกวัคซีนไปแล้ว 853,015,179 โดส ส่วนสหรัฐฯ อยู่ที่ 178,592,930 โดส
ตัวเลขเหล่านี้รวมถึงการบริจาคจากสหรัฐฯ และอียู แต่เนื่องจากสองภูมิภาคนี้ไม่มีการส่งออกส่วนประกอบในการผลิตวัคซีนออกนอกภูมิภาค ตัวเลขดังกล่าวจึงเป็นยอดส่งออกวัคซีนสำเร็จรูปเท่านั้น
อินเดียมียอดส่งออกวัคซีนที่ผลิตในประเทศประมาณ 66.4 ล้านโดส จนถึงเดือน พ.ค. ซึ่งมีการระงับการส่งออกชั่วคราว
รัสเซียได้ให้คำมั่นจะผลิตวัคซีนส่งออกไปทั่วโลก แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าได้ส่งออกไปจำนวนเท่าใดแล้ว
อัตราการผลิตวัคซีนทั่วโลกกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการที่ผู้ผลิตรายใหญ่ต่างเร่งกำลังการผลิต
งานวิจัยจาก Airfinity คาดการณ์ว่า ภายในเดือน ธ.ค. จะมีการผลิตวัคซีนต้านโควิดได้ทั้งสิ้น 1.22 หมื่นล้านโดสทั่วโลก โดยในจำนวนนี้ 5.7 พันล้านโดสจะเป็นวัคซีนจีน ส่วนที่เหลือเป็นของประเทศอื่น ๆ
แต่ Airfinity ยังชี้ว่า ปัจจุบันประเทศร่ำรวยมีการสะสมวัคซีนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่ยังไม่มีแผนจะนำมาใช้งาน
อีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ตัวเลขของวัคซีนที่ส่งออก ไม่ใช่ตัวเลขเดียวกับวัคซีนที่ถูกนำไปใช้จริง โดยในบางประเทศที่ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม ขาดแคลนเจ้าหน้าที่ และปัญหาอื่น ๆ ส่งผลให้เป็นอุปสรรคในการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน