วิโรจน์-พีรพล จี้กกต.ทบทวนคืนสิทธิ์ผู้สมัครส.ก. ฮึ่มฟ้อง หวั่นซ้ำรอยใบส้ม‘สุรพล’
ข่าววันนี้ 22 เม.ย.2565 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ของพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายพีรพล กนกวลัย ผู้สมัครส.ก.เขตพญาไท ที่กกต.ไม่ประกาศรับรองเป็นผู้สมัคร เข้ายื่นหนังสือต่อกกต. ขอให้ทบทวนการไม่ประกาศชื่อนายพรีพลเป็นผู้สมัคร ส.ก.
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนมองเรื่องนี้ว่ากระทบกับสิทธิ์ของนายพีรพล อย่างร้ายแรง กกต.ควรไตร่ตรองให้รอบคอบ เพราะหลักฐานทั้งหมด เป็นหลักฐานที่ยืนยันด้วยเอกสาร ไม่ว่าจะด้วยเรื่องพ.ร.บ.การพิมพ์ 2484 ซึ่งกฎหมายเขียนไว้ชัดเจนว่า การเป็นผู้จัดพิมพ์ เจ้าของสื่อสิ่งพิมพ์ ถ้าเป็นหนังสือพิมพ์แบบรายข่าว ถ้าไม่ได้พิมพ์เกิน 2 ปี ถือว่าความเป็นเจ้าของสิ้นสุดลงไปโดยกฎหมายอยู่แล้ว
สื่อสิ่งพิมพ์ที่นายพีรพล ได้พิมพ์ก็ตั้งแต่ปี 2537 จากนั้นไม่ได้จัดพิมพ์อีกเลย หมายความว่าความเป็นเจ้าของของสื่อสิ่งพิมพ์ของนายพีรพล สิ้นสุดลงตังแต่ปี 2539 ไปแล้ว แม้จะมีพ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ 2550 ที่ระบุว่าให้โอนรายชื่อเจ้าของสื่อสิ่งพิมพ์มาเป็นบทเฉพาะกาล แต่เมื่อความเป็นเจ้าของของนายพีรพล สิ้นสุดลงตั้งแต่ปี 2539 แล้ว การที่มีรายชื่อของนายพีรพล ปรากฏ ย่อมเชื่อได้ว่าเป็นความบกพร่องของฐานข้อมูลของทางราชการเอง
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ขอให้กกต.ไตร่ตรองทบทวน มิฉะนั้นจะเหมือนกับกรณีของนายสุรพล เกียรติไชยากร อดีตส.ส.เขต 8 เชียงใหม่ ที่กกต.สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 1 ปี (ใบส้ม) จนวันนี้มีความเสียหาย 70 ล้านบาท แล้วจะเอาภาษีของประชาชนไปหรือไม่
วันนี้พรรคก้าวไกล ยืนยันความบริสุทธิ์และความชอบธรรมของนายพีรพล จึงอยากให้กกต.ทบทวนให้ดี เพราะถ้าเกิดความเสียหายขึ้น เราเองก็พร้อมใช้กลไกทั้งทางแพ่ง และอาญาในการปกป้องสิทธิ์ของนายพีรพล และความเสียหายนั้น ต้องมีคนรับผิดชอบ เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยกับกรณีของนายสุรพล
ด้านนายพีรพล กล่าวว่า ตนยืนยันว่าหัวหนังสือท่องธรรมชาติที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ไม่ได้เป็นสื่อที่ส่งผลกับการเลือกตั้ง เพราะตนเป็นส.ก.มา 2 สมัย ก็ไม่เคยใช้สื่อนี้หาเสียงเลย ดังนั้น การตัดสิทธิ์ตนเพียงว่าตนมีหัวหนังสือธรรมชาตินี้ เชื่อว่าไม่เป็นธรรมสำหรับตน อีกทั้งตนไม่ได้ทำมาตั้งแต่ปี 2537 การนำข้อกฎหมายนี้มาใช้ตัดสิน เชื่อว่าเป็นการพิจารณาที่ไม่ถูกต้อง เมื่อเป็นเช่นนี้ตนจะขอใช้สิทธิ์ทางแพ่งในการดำเนินคดี