"สรรพากร"รีดภาษี10เดือนต่ำเป้า1.1หมื่นล.

นายภาณุวัฒน์ เหลืองวิไล รองอธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร 10 เดือนของปีงบประมาณ 68 (ต.ค.67-ก.ค.68) จัดเก็บได้ 1.824 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปีก่อน แต่ต่ำกว่าเอกสารงบประมาณ 11,729 ล้านบาท 

สำหรับรายได้จัดเก็บได้ มาจากการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรเอง 1.43 ล้านล้านบาท สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 75,771 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 5.6 และสูงกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณร้อยละ 0.9

ทั้งนี้ เป็นผลจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากการบริโภคภายในประเทศ จัดเก็บได้สูงกว่าปีก่อน และสูงกว่าเป้าหมาย โดยกิจการสำคัญที่ชำระภาษีเพิ่มขึ้น 

ได้แก่ กิจการการขายปลีกและขายส่ง ยกเว้นยานยนต์ และจักรยานยนต์ และกิจกรรมบริการทางการเงิน ยกเว้นการประกันภัยและกองทุนบำเหน็จบำนาญ โดยเก็บภาษีได้จริง 817,825 ล้านบาท จากประเมินในเอกสารงบประมาณ 800,465 ล้านบาท

ส่วนภาษีที่หน่วยงานอื่นจัดเก็บแทน 386,121 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 15,253 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 3.8 และต่ำกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณร้อยละ 6 จากภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้า จัดเก็บได้ต่ำกว่าปีก่อนและเป้าหมายเป็นสำคัญ 

นายภาณุวัฒน์ กล่าวว่า สอดคล้องกับอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่า และราคาน้ำมันดิบดูไบที่ลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อน และภาษีจัดเก็บจากการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ภาษีที่กรมที่ดินจัดเก็บแทนให้ จัดเก็บได้ต่ำกว่าปีก่อนและเป้าหมาย เนื่องจากกำลังซื้อที่อยู่อาศัยลดลง 

ตลอดจนความเข้มงวดระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินที่ยังคงมีสูง ต้นทุนราคาอสังหาริมทรัพย์ปรับขึ้น และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ

สำหรับแนวโน้มการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงที่ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้า เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศและการค้าระหว่างประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม

 โดยเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้ามีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องจากแนวโน้มอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าและราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง