‘Safe Zone’ หรือ ‘เซฟโซน’ คือสิ่งที่ทำให้เราสบายใจเวลาที่อยู่ในพื้นที่นั้น เพียงเท่านั้น เพียงเท่านี้ เป็นขอบเขตที่เราสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องตนเอง ซึ่งหากถามว่าการมี Safe Zone นั้นดีไหม ก็ต้องขอตอบว่าดีนะคะ แต่สำหรับบางกรณี มันก็อาจจะเกิดผลเสียได้เช่นกัน เพราะบางคนใช้พื้นที่ตรงนี้ตึงเกินไป ทำให้ตนเองต้องมาเสียโอกาส เนื่องจาก Safe Zone ตรงนั้น คือ ‘การปิดกั้นตนเอง’ ดังนั้น วันนี้ไรท์จึงมาพร้อมกับหัวข้อ ‘Safe Zone’…มีได้ แต่ออกมาบ้างก็ดีนะเครดิต : https://unsplash.comซึ่งบอกก่อนว่า ‘Safe Zone’ หรือ ‘เซฟโซน’ นั้น อาจจะเป็นผลดีกับผู้ที่ฝังใจกับอะไรสักอย่างหนึ่ง จนสร้างกำแพงหนา มาปิดกั้นตนเอง ในหลาย ๆ เรื่อง เช่น เรื่องความรัก ที่เคยผิดหวังมาก ๆ หลังจากนั้นจึงสร้าง Safe Zone เป็นกำแพงสูง ปิดกั้นตนเอง ไม่เปิดใจรักใครจริง ๆ อีก ซึ่งแน่นอนว่ามีผลดี คือ คุณไม่เสียใจ หากเขาคนนั้น เขามาเพื่อทำร้ายจริง ๆ แต่ผลเสียก็คือ คุณสูญเสียโอกาสที่จะได้รับคนดี ๆ เช่นเดียวกัน ดังนั้นเราไปเรียนรู้พร้อม ๆ กับจากบทความนี้กันเถอะค่ะเครดิต : https://unsplash.comแล้วเราจะสามารถออกมาจาก ‘Safe Zone’ ได้อย่างไร?แน่นอนค่ะว่าทุกอย่างมีทางแก้ไข สำหรับคำถามว่า เราจะออกมาจาก ‘Safe Zone’ หรือ ‘กำแพงใจ’ ที่เราสร้างขึ้นมาเองได้อย่างไร คำตอบก็คือ ต้องเปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่ค่ะ ข้อแรกเลย ‘อย่าใช้แต่สมองตลอดเวลา ให้ใช้หัวใจควบคู่ไปด้วย’ เนื่องจากว่า สำหรับหลาย ๆ เรื่องนั้น เราไม่สามารถใช้สมองในการตัดสินใจได้เต็ม ๆ แบบ 100% หรอกนะคะ เช่นเรื่องความรักเอย เรื่องการเลือกงาน เลือกคบเพื่อน เป็นต้น ยกตัวอย่างเช่น ชีวิตคุณเจอแต่คนมาเข้าหา เนื่องจากต้องการผลประโยชน์ ดังนั้น ต่อไปใครเข้ามาหาคุณ คือคุณก็คิดก่อนเลยว่าเขามาเพื่อผลประโยชน์ ซึ่งมันคือผิดเลยค่ะ การตัดสินคน ๆ หนึ่ง ด้วยอีกหลาย ๆ ที่คุณเคยพบมา มันไม่ถูกต้องเลย พูดง่าย ๆ ก็คือ คุณเป็นคนไม่ค่อยยิ้มแย้ม แต่คุณไม่ได้หยิ่ง และมีคน ๆ หนึ่งมาด่าว่าคุณว่าคุณนั้นหยิ่งมาก ๆ คุณจะชอบมันไหมละคะ นั่นแหละเหตุผลเลย อย่าใช้แต่สมอง ใช้หัวใจบ้างเถอะต่อมาคือการ ‘หยุดมองโลกในแง่ร้ายเสียที’ เพราะจริง ๆ แล้วคนเราทุก ๆ คนควรจะเดินทางสายกลางนะคะ อย่าสุดโต่งมากเกินไป เพราะคุณเองนั่นแหละจะไม่มีความสุข เจอคนแบบไหนมาก็อย่าคิดว่าทุก ๆ คนต้องเป็นแบบนั้นไปเสียหมด บางครั้งเขาอาจจะเป็นคนที่ดี และจริงใจกับคุณมาก ๆ คนหนึ่งเลยก็ได้ แต่การที่คุณมองเขาในแง่ลบมาก ๆ คนเราก็เสียกำลังใจนะคะ อย่าปิดกั้นตนเองเกินไป อย่าเอาอดีตมาตัดสินปัจจุบัน เหมือนครั้งหนึ่งตอนเด็ก ๆ เราชอบกินขนม ของหวานมาก ๆ แต่ตอนนี้ยังไม่ชอบ หรือชอบน้อยลงได้เลย เวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยนค่ะ ใจเย็น ๆ อย่าคิดว่าคนทั้งโลกจะแย่เหมือนคน ๆ หนึ่งที่คุณเคยเจอไปเสียหมดสุดท้ายก็คือ ‘เปิดใจบ้าง อย่ากลัวการเสียใจมากเกินไป’ เพราะว่าการผิดหวัง หรือเสียใจ นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย เนื่องจากแน่นอนว่าคนเราเกิดมานั้น ไม่มีทางที่จะเจอแต่คนดี ๆ แต่ต้องเจอทั้งคนที่ดี และไม่ดี ปะปนกันไป และคนเราทุกคนก็ต้องเคยทั้งฉลาด และเคยเป็นคนโง่ ถูกไหมคะ เพราะฉะนั้นบอกเลยว่าไม่แปลก หากคุณเปิดใจให้ใครสักคนแล้วเขาไม่ดี เขาแย่กับคุณ ทำคุณผิดหวัง หรือเสียใจ แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เหนือการควบคุมถูกต้องไหมคะ ล้มได้ก็ต้องลุกได้ เคยชนะก็ต้องมีแพ้บ้าง หากกลัวไปหมด ไม่กล้าไปหมด คุณก็จะได้แค่หยุดอยู่กับที่นะคะ ลองเสี่ยงดูบาง บางครั้งสิ่งที่เราคิดว่าดี อาจจะไม่ได้ดีจริงก็ได้ แล้วสิ่งที่เราคิดไม่ดี อาจจะดีกว่าซะงั้น ก็เป็นไปได้ทั้งนั้นค่ะเครดิต : https://unsplash.comอย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจทำอะไรอยากให้ทุก ๆ คนคิดให้ดี ๆ ก่อนนะคะ เพราะจริง ๆ แล้วการอยู่ใน กำแพง หรือ ‘Safe Zone’ ก็อาจจะเป็นความสุขของคุณจริง ๆ ก็ได้ หากไม่อยากลอง ก็ไม่ต้องลอง แต่หากอยากที่จะลอง อยากออกมาเรียนรู้อะไรนอกกำแพงบ้าง ก็อย่ากล้วที่จะก้าวออกมาค่ะ ล้มได้ก็ลุกได้เช่นกัน จงอย่าทำให้ความกลัว มันมาขวางทาง การเรียนรู้กับชีวิตที่ไม่มีกรอบกำแพงของคุณค่ะ เพราะอย่างน้อยต่อให้คุณไม่ประสบความสำเร็จกับการออกมานอกกำแพง คุณก็ยังได้ประสบการณ์ชีวิตกลับไปนะคะ ไม่ต้องหยุดใช้สมอง และไม่ต้องหยุดใช้ใจ แต่ขอให้ใช้ไปพร้อม ๆ กันนั่นเองค่ะเครดิตภาพหน้าปก : https://unsplash.com