รีเซต

ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ โอกาสพบเรือดำน้ำอินโดนีเซีย มีน้อยมาก

ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ โอกาสพบเรือดำน้ำอินโดนีเซีย มีน้อยมาก
TNN ช่อง16
22 เมษายน 2564 ( 16:10 )
170
ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ โอกาสพบเรือดำน้ำอินโดนีเซีย มีน้อยมาก

วันนี้ (22 เม.ย.64) ซิสวันโต รุสดิ (Siswanto Rusdi) ผู้อำนวยการบริหารสถาบันการเดินเรือแห่งชาติของอินโดนีเซีย ระบุว่า  มีโอกาสน้อยมากที่จะพบเรือดำน้ำ “เคอาร์ไอ นังกาลา-40” ของกองทัพเรืออินโดนีเซีย ที่สูญหายไปขณะทำการซ้อมรบบริเวณตอนเหนือของเกาะบาหลีพร้อมกับลูกเรือ 53 คนเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะหากเรือดำลงไปลึกมากๆ พร้อมกับระบุว่าสถานการณ์ที่ดีที่สุดคือลูกเรือได้รับบาดเจ็บรุนแรง เช่น แก้วหูแตกและเส้นเลือดแตก ส่วนสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคือพวกเขาเสียชีวิตแล้ว

ขณะที่มีรายงานว่ามาเลเซียและสิงคโปร์ส่งเรือและเจ้าหน้าที่ไปร่วมปฏิบัติการค้นหาครั้งนี้ โดยคลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดยกองทัพเรือมาเลเซียแสดงให้เห็นเรือกู้ภัย เมกา บากติ (Mega Bakti) พร้อมกับเจ้าหน้าที่กองทัพแล่นออกจากท่าเรือในวันนี้ ขณะที่พลเรือเอก โมห์ด ราซิบ ทาฮีร์ ผู้บัญชาการกองกำลังเรือดำน้ำมาเลเซีย ระบุว่า พร้อมให้ความช่วยเหลือทุกรูปแบบที่สามารถทำได้

ด้าน นาย อึ้ง เอ็ง เฮง รัฐมนตรีกลาโหมสิงโปร์โพสต์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ ว่าได้ส่งเรือกู้ภัยใต้น้ำไปร่วมปฏิบัติการค้นหาเรือดำน้ำอินโดนีเซียตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วเช่นกัน

แถลงการณ์จากกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซีย ระบุว่า เรือดำน้ำลำนี้ขาดการติดต่อระหว่างการซ้อมยิงตอร์ปิโดใต้น้ำ บริเวณช่องแคบบาหลี ที่อยู่ระหว่างเกาะชวาและบาหลี ที่เชื่อมไปสู่มหาสมุทรอินเดียและทะเลบาหลี

จากการสำรวจทางอากาศในเวลา 07.00 น. เมื่อวานนี้ พบว่ามีคราบน้ำมันรั่วไหลอยู่ใกล้กับจุดสุดท้ายที่สามารถติดต่อเรือดำน้ำลำดังกล่าวได้

ด้าน พลเรือเอก จูเลียส วิดโจโจโน โฆษกกองกับเรือระบุว่า คราบน้ำมันดังกล่าว น่าจะมาจากเรือดำน้ำที่สูญหาย ซึ่งมีความสามารถดำน้ำได้ลึกถึง 500 เมตร แต่คาดว่ามันน่าจะดำลงไปลึกกว่านั้น 100-200 เมตร พร้อมกับระบุว่า ขณะนี้ รู้พิกัดพื้นที่ที่เรือสูญหายแล้ว แต่อยู่ในจุดที่ลึกมาก ทางกองทัพเรืออินโดนีเซียได้ส่งเรือรบและเฮลิคอปเตอร์ติดตามค้นหาแล้ว พร้อมกับระบุว่า พวกเขาหวังว่าลูกเรือจะปลอดภัย แต่ยอมรับว่าสถานการณ์อาจถึงแก่ชีวิตได้ในความลึกระดับนั้น

The straits Times รายงานว่า กองทัพเรืออินโดนีเซียเปิดเผยว่า คราบน้ำมันดังกล่าวอาจบ่งบอกถึงความเสียหายของเรือ หรืออาจเป็นการส่งสัญญาณจากลูกเรือก็ได้

มีรายงานว่า ทะเลในบริเวณนั้นตื้นกว่าส่วนอื่น ๆ ของหมู่เกาะ แต่ก็มีบริเวณที่ลึกมากกว่า 1,500 เมตร ขณะที่สื่อของอินโดนีเซียรายงานว่า เรือดำน้ำลำนี้อาจจมลงที่ระดับความลึก 700 เมตรในบริเวณดังกล่าว 

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหาบริเวณจุดที่เชื่อว่าเรือดำน้ำอยู่เป็นจุดสุดท้าย ห่างจากเกาะบาหลีไปทางเหนือ 96 กิโลเมตร และได้ติดต่อไปยังออสเตรเลีย สิงคโปร์และอินเดีย ให้ช่วยปฏิบัติการค้นหาด้วยเช่นกัน 

กระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ได้ส่งเรือรบ 4 ลำไปช่วยค้นหาแล้ว รวมถึง เรือรบ “ไรเจิล” (Rigel) ที่ติดตั้งระบบโซนาร์ สำหรับตรวจหาวัตถุใต้น้ำด้วยคลื่นเสียง ซึ่งสามารถค้นหาตำแหน่งเรือได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเรือรบไรเจิลอยู่ระหว่างการเดินทางจากกรุงจาการ์ตาไปยังช่องแคบบาหลีแล้ว

นอกจากนี้ยังมีเรืออีกสองลำที่ติดตั้งระบบโซนาร์ด้านข้าง สำหรับทำแผนที่ใต้ทะเลไปร่วมค้นหาในพื้นที่ที่เรือดำน้ำสูญหายแล้ว ขณะที่สำนักงานประสานงานการหลบหนีและช่วยเหลือเรือดำน้ำนานาชาติ ซึ่งเป็นองค์กรประสานงานการค้นหาและช่วยเหลือเรือดำน้ำระหว่างประเทศ ก็ได้ตอบรับเข้าร่วมปฏิบัติการค้นหานี้แล้วเช่นกัน

มาริส เพย์น รัฐมนตรีว่าต่างประเทศออสเตรเลีย ระบุว่า ออสเตรเลียจะ ช่วยเหลือทุกวิถีทางที่สามารถทำได้ แม้ว่าปฏิบัติการเรือดำน้ำของออสเตรเลียจะแตกต่างจากเรือลำน้ำที่สูญหายมากก็ตาม

สำหรับเรือดำน้ำ เคอาร์ไอ นังกาลา-402 ( KRI Nanggala-402) ขนาดระวางขับน้ำ 1,395 ตัน สร้างในเยอรมนีตั้งแต่ปี 1977 หรือ 44 ปีมาแล้ว เข้าประจำการในกองทัพเรืออินโดนีเซียเมื่อปี 1981 และผ่านการซ่อมแซมแบบยกเครื่องในเกาหลีใต้เมื่อปี 2012 

ก่อนหน้านี้ กองทัพเรืออินโดนีเซียมีเรือดำน้ำผลิตในสหภาพโซเวียต 12 ลำ คอยประจำการดูแลความปลอดภัยของน่านน้ำ แต่ปัจจุบัน มีเรือดำน้ำประจำการเพียง 5 ลำ เป็นเรือดำน้ำผลิตในเยอรมนี 2 ลำ และผลิตในเกาหลีใต้อีก 3 ลำ

เรือดำน้ำที่สูญหาย เป็นหนึ่งในเรือดำน้ำ 5 ลำที่เหลืออยู่ของอินโดนีเซีย มีลูกเรือทั้งหมด 49 คน พลปืนอีก 3 คน และอาจมีผู้บัญชาการเรืออีก 1 คน ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร


ข่าวที่เกี่ยวข้อง