รีเซต

เก๋งพุ่งชนด่านตรวจ เจอปรับ 4 หมื่น ร้องขอความเป็นธรรม ชี้ไม่มีสัญญาณไฟเตือน-เกิดเหตุบ่อย

เก๋งพุ่งชนด่านตรวจ เจอปรับ 4 หมื่น ร้องขอความเป็นธรรม ชี้ไม่มีสัญญาณไฟเตือน-เกิดเหตุบ่อย
มติชน
3 ตุลาคม 2565 ( 14:29 )
30
เก๋งพุ่งชนด่านตรวจ เจอปรับ 4 หมื่น ร้องขอความเป็นธรรม ชี้ไม่มีสัญญาณไฟเตือน-เกิดเหตุบ่อย

ผู้สื่อข่าวรานงานวันที่ 3 ตุลาคม 2565 จากเหตุการณ์ที่มีรถเก๋งสีขาว ได้ขับรถหักหลบด่านที่ไม่มีไฟสัญญาณเตือนก่อนถึงด่านตรวจ บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านบาตู ม.6 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส จนรถเสียหลักชนเข้ากับหอคอยที่อยู่บริเวณเกาะกลาง และล้มทับรถจนเกิดความเสียหายอย่างหนัก

โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ทางผู้ขับรถดังกล่าวชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นเงินจำนวนประมาณ 4 หมื่นบาท ซึ่งเป็นค่าซ่อมหอคอย และกล้องวงจรปิดที่เสียหาย แต่ทางลูกสาวเห็นว่าไม่ยุติธรรม เพราะด่านไม่มีไฟแจ้งเตือนจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ เหตุเกิดเวลา 19.30 น. วันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา

 

ล่าสุดด้านลูกสาวผู้เสียหายได้เดินทางมาร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว พร้อมของความเห็นใจ และความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ เนื่องจากรถที่ประสบอุบัติเหตุเป็นนรถที่ยืมมา อีกทั้งฐานะที่บ้านไม่ดี แม่ก็จากไป เหลือเพียงพ่อที่อายุมาก และเป็นเสาหลักของบ้าน แต่ก็ไม่มีเงินจ่าย ตอนนี้อาการพ่อเครียด

ด้าน นางสาวซูไฮ ลูกสาวของผู้ขับรถชนด่านตรวจ เปิดเผยว่า วันนั้นทางพ่อได้เดินทางกลับจากงานที่นราธิวาส และกำลังเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดปัตตานี โดยได้ขับรถกลับมาด้วยกันกับญาติอีก 1 คัน ที่ตามหลังมา และเมื่อก่อนที่จะเกิดเหตุ พ่อตนได้ขับรถใกล้ถึงด่าน แต่ที่ด่านตรวจกลับไม่มีไฟให้เห็น จึงทำการหักหลบกะทันหัน จนพุ่งชนเข้ากับหอคอยในบริเวณด่านและเกิดล้มทับรถลงมา โดยที่บนหอคอยมีเจ้าหน้าที่เฝ้าอยู่ 1 นาย

หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้นัดตนเพื่อเจรจาและให้ชดใช้ค่าเสียหายของด่านที่พ่อตนได้ขับรถชน เป็นเงินรวมทั้งสิ้นประมาน 4 หมื่นบาท โดยเจ้าหน้าที่กล่าวว่าพ่อตนได้ขับรถประมาท แต่ตนฐานะยากจนหาเช้ากินค่ำและยังเป็นนักศึกษาอยู่ ซึ่งตอนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ขอค่าเสียหาย 1 หมื่นบาทก่อน และยังมีส่วนที่เหลือ แต่ตนก็ไม่มีจ่าย ไปยืมเพื่อนๆ แต่กลับไม่มีใครให้ยืม

ซึ่งตนที่ได้ร้องสื่อในวันนี้เพราะอยากให้ทางผู้ใหญ่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วย เพราะตนก็มองว่าทางด่านที่ตั้งก็ไม่มีไฟสัญญาณที่ชัดเจนจนทำให้รถที่สัญจรไปมาเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งถ้าตนต้องจ่ายค่าเสียหายของด่าน ตนก็ไม่มีเงินพอที่จะจ่ายไหว เพราะไหนต้องจ่ายค่าเสียหายของรถที่พ่อได้ยืมจากเพื่อนมาด้วยเช่นกัน โดยตอนนี้ตนได้ปรึกษากับทางอาจารย์ และผู้ใหญ่หลายๆท่านว่าจะเอายังไงต่อดี เพราะตนมองว่าจะให้ฝ่ายพ่อของตนผิดไปทั้งหมดก็ไม่ยุติธรรมด้วยเช่นกัน

ส่วน นายรอฮีมี มูซอ ผู้ขับตามหลังมาเปิดเผยว่า ยืนยันว่าตนไม่ได้ขับไล่กันมาแน่นอน เพราะมาด้วยกัน และในรถมีเด็กเล็กและแม่ยายอยู่ในรถด้วย ซึ่งตอนเกิดเหตุเมื่อรถข้างหน้าชน ตนได้เบรคทันทีและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนยืนยันว่าขับมาด้วยความเร็วไม่ถึง 60 กิโมเมตรต่อชั่วโมง เพราะอยู่ในเขตชุมชน และตนได้ขับรถผ่านเส้นดังกล่าวบ่อยมาก และเส้นดังกล่าวก็มืดจริงๆ ซึ่งที่ด่านไม่ค่อยจะมีไฟ และเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วหลายครั้งกับชาวบ้านในพื้นที่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง