*ภาพถ่ายโดยนักเขียนใครที่ชอบเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ สนใจชมแหล่งเรียนรู้ที่ฟิลิปปินส์ ต้องมาที่นี่ให้ได้เลย คือ ที่เมือง Intramuros อินทามูรอส เป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่สำคัญและเก่าแก่ที่สุดในมะนิลา ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16ภายในนี้ทุกคนจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ของฟิลิปปินส์ไม่ว่าจะเป็น บุคคลในประวัติศาสตร์ สถานที่ พิพิธภัณฑ์เก่าแก่ รวมไปถึงคุก สถานที่กักขังนักโทษ ภายในกำแพงทางเข้าเมือง ก็พบป้อมปราการ โบสถ์ โรงเรียน วิทยาลัย ต่าง ๆ ที่เก่าแก่ก็อยู่ในเมืองนี้ พอมาในเมืองนี้จะสังเกตได้ว่ามีกำแพงล้อมรอบซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยเจ้าอาณานิคมสเปนราวปลายคริสต์ศตวรรษที่ 16 เมืองนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากอ่าวมะนิลาเท่าไหร่ สถานที่แห่งนี้เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา เก้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น ทุกวันโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ*ภาพถ่ายโดยนักเขียนบริเวณสุดสายตาคืออ่าวมะนิลามาก ๆ แค่เดินไปก็มองเห็นได้เลย การเดินทางง่ายมากคือ นั่งรถ shuttle bus จากสนามบินนานาชาติกรุงมะนิลา มาต่อรถไฟฟ้า มาลงสถานี Central Terminal Station *ภาพถ่ายโดยนักเขียนในสถานที่มีกำแพงล้อมล้อม ตรงจุดในกลางเมืองก็จะมีอนุสาวรีย์รูปปั้นของคนดังที่นี่ เวลาเข้ามาที่นี่เราจะได้เห็นผลงานสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ยังคงความเป็นหิน คงความเก่าแก่อยู่เยอะมาก ๆ*ภาพถ่ายโดยนักเขียนมีอุทยานที่ชื่อว่า The National Parks Development Committee (NPDC) เป็นอุทยานที่มีรูปปั้น อนุสาวรีย์บุคคลสำคัญ ซึ่งภายใต้อนุสาวรีย์เขาก็จะมีประวัติแปะแบบนี้ ทั้งนักบุญและอนุสาวรีย์ต่าง ๆ อย่างภาพด้านบนคือ jose lizal ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญต่อประวัติศาสตร์ประเทศฟิลิปินส์มาก เพราะ เมืองนี้เคยถูกสเปนยึดครอง รีซัล เป็นวีรบุรุษและเป็นนักเขียนคนสำคัญของประเทศฟิลิปปินส์ที่ต่อสู้เรียกร้องเอกราชจากสเปน แต่เขาก็ถูกจับกุมและประหารชีวิตแบบยิงเป้า ซึ่งต่อมาการเสียชีวิตของเขากลายเป็นแรงขับเคลื่อนอย่างรุนแรงที่ทำให้ชาวฟิลิปปินส์ลุกขึ้นมาต่อสู้ขับไล่สเปนได้สำเร็จ แม้ต่อมาที่นี่จะถูกยึดครองโดยอเมริกาในเวลาต่อมา ซึ่งก่อนตายเขาได้เขียนกวีลาตายที่ชื่อ mi último adios ต่อมาก็โด่งดังมากแปลเป็นหลายภาษาอีกด้วย ปัจจุบันนี้กำหนดให้ทุกวันที่ 30 ธันวาคมเป็นวันรีซัล (Rizal Day) และเป็นวันหยุดแห่งชาติของฟิลิปปินส์อีกด้วย*ภาพถ่ายโดยนักเขียนประวัติต่าง ๆ ของ รีซัลถูกติดไว้เป็นอนุสาวรีย์ต่าง ๆ รอบบริเวณกำแพง*ภาพถ่ายโดยนักเขียน อนุสาวรีของ รีซัล วีรบุรุษของฟิลิปปินส์ยังคงมีประชาชนมาถ่ายรูปและเป็นแหล่งท่องเที่ยวแหล่งประวัติศาสตร์ไม่ขาดสาย*ภาพถ่ายโดยนักเขียนซึ่งริเวณใกล้เคียงกับอนุสาวรีย์ก็จะมี พิพิธภัณฑ์ ที่ชื่อว่า Rizal Shrine จะแสดงผลงานสำคัญของ José Rizal วีรบุรษคนสำคัญของฟิลิปปินส์มีรูปภาพคนดัง คนสำคัญต่าง ๆ ของฟิลิปปินส์ที่ได้เกี่ยวข้องในการลุกขึ้นมายึดเมืองคืนจากสเปนของรีซัล อย่างเช่นคนในภาพนี้คือ BAYANI ก็เป็นหนึ่งในฮีโร่ของฟิลิปปินส์เช่นกัน*ภาพถ่ายโดยนักเขียนภายในเมืองเวลามีพิพิธภัณฑ์หรือมีงานหมุนเวียนอะไรก็จะมีป้ายประกาศบอก ตรงนี้ ซึ่งก็เป็นข่าวประสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยว ผู้ที่สนใจเรียนรู้ประวัติศาสตร์ นักวิชาการ ได้มาชมแหล่งเรียนรู้ได้เสมอ คอยมาดูตามประกาศแล้วไปตามสถานที่ที่จัดอีเวนท์ภายในเมือง *ภาพถ่ายโดยนักเขียนและที่นี่ก็คือทางเข้าป้อมปราการ Fort Santiago ป้อมปราการที่เก่าแก่ที่สุดของมะนิลา อดีตก็เคยเป็นป้อมปราการที่ป้องกันการโจมตีจากข้าศึกที่เข้ามาทางอ่าวมะนิลา*ภาพถ่ายโดยนักเขียนภายในเมืองยังคงความเก่าแก่ของสถานที่ ในภาพคือเป็นสถานที่ที่มีเรื่องราวในประวัติศาสตร์ เป็นห้องขังนักโทษต่าง ๆ ยังคงมีป้ายแปะไว้ให้เห็นถึงห้องที่จับข้าศึก*ภาพถ่ายโดยนักเขียน The Dungeons และแน่นอนดันเจี้ยนแห่งนี้ลึกมาก ๆ มองลงไปก็เห็นแต่ความมืด ดันเจี้ยนนี้คือคุกใต้ดินที่เขาไว้กักขังข้าศึกจากสงครามที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ซึ่งจากภาพ อาจจะเห็นได้ว่าเมืองนี้ ไม่ค่อยมีอะไรสวยงามให้เห็นเพราะว่าในสงครามเคยถูกยึดครองมาหลายมือมาก ๆ ทั้งสเปน และมาอเมริกาในปี คศ. 1898 ก่อนที่ญี่ปุ่นจะเข้ามาทำลายและยึดครองอีกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากที่ผ่านมาเมืองนี้เต็มไปด้วยภัยสงคราม ทั้งแผ่นดินไหว พายุ จนทุกอย่างแทบปรักหักพัง ก่อนที่ทางการจะมาบูรณปฏิสังขรณ์ ในปัจจุบันให้มีสภาพดั่งที่เห็น ซึ่งหลาย ๆ ที่ก็ยังปิดซ่อม ไม่ให้คนได้เห็นอีกด้วย*ภาพถ่ายโดยนักเขียนและภาพด้านบนนี้ก็คือ Palacio del Gobernador ซึ่งก็มีเรื่องราวในประวัติศาสตร์อีกเช่นกัน คือ เคยเป็นสำนักงานใหญ่ของผู้ว่าราชการสเปนในช่วงที่สเปนยึดครองกรุงมะนิลาที่นี่*ภาพถ่ายโดยนักเขียนภาพภายในโบสถ์ Manila Cathedral ที่มีพิธีแต่งงานหรูหราอลังการมากมายจริง ๆ*ภาพถ่ายโดยนักเขียนสถานที่สำคัญทางศาสนา คริสต์ มีให้เห็นอยู่หลายแห่งแต่ละแห่งก็จะมีงานพิธีเป็นช่วง ๆ *ภาพถ่ายโดยนักเขียนและที่นี่ก็คือ San Agustin Church เป็นสิ่งก่อสร้างแห่งเดียวในเมืองที่รอดจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายนอกสถาปัตยกรรมที่นี่ยังคงมีสถาปัตยกรรมของตะวันตก อย่างกระจกสี โกธิค Gothic architecture มีรูปปั้นประติมากรรมเกี่ยวกับคริสต์ศาสนา ที่อึ้งมาก ๆ กับความสวยงามของที่แห่งนี้คือ สร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ยูเนสโก*ภาพถ่ายโดยนักเขียนภายในเมืองอินทามูรอส หลาย ๆ แห่งเป็นตึกสวย สร้างด้วยหินอ่อน มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมายที่เที่ยวหรือศึกษาแหล่งความรู้เหล่านี้ใน 1 วันก็ไม่จบมีเยอะจริง ๆ สถาปัตยกรรมผลงานเหมือนประเทศตะวันตกเลยอาจจะเป็นเพราะได้รับวัฒนธรรมจากการถูกยึดครองโดยประเทศตะวันตกด้วย แล้วก็คนที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้ทุกคนนะจ๊ะ ไม่ต้องห่วงเรื่องเดินทางหลงทาง ถามได้ตลอดผู้คนที่นี่มีจิตใจดี คอยให้คำแนะนำช่วยเหลืออยู่เสมอตลอดการเดินทางไปเรียนรู้