เงินที่เชื่องช้าอย่างการลงทุนในตราสารด้วยคติที่ว่า ซื้อ ถือไว้ระยะยาว อย่าถอนตัวกลางคัน แล้วเวลาผ่านไปดูเหมือนว่าเราต้องแบกรับความเสี่ยงภาวะตลาดตกต่ำ แล้วผลตอบแทนของเราก็ลดต่ำกว่าที่ควรจะเป็น มันอาจจะมีกำไรอยู่บ้าง แต่เวลาที่นานขนาดนั้น เราควรจะได้ผลตอบแทนมากกว่านี้ วิธีการเอาตัวรอดคือการรู้จักใช้เงินให้เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ไม่จอดแช่ด้วยการออมในกองทุนรวมหรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพียงอย่างเดียว สิ่งนี้มักเกิดขึ้นในธุรกิจรูปแบบต่างๆและอสังหาริมทรัพย์ Robert T. Kiyosaki ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าแนวคิดดังกล่าวมันไม่ง่าย แต่ถ้าเริ่มต้นเป็นแล้ว เราจะสนุกกับการลงทุนและได้ผลตอบแทนที่ช่วยให้เราดูแลตัวเองได้จริงๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบประกันสังคมเลย เรียบเรียงโดย นพพล วราไพบูลย์ ความรู้ความประทับใจในมุมมองของครีเอเตอร์ 1.ฟาร์มวัวเนื้อเปรียบเสมือนคนที่ลงทุนเพื่อกำไรจาก ส่วนฟาร์มวัวนมเปรียบเสมือนคนที่ลงทุนเพื่อกระแสเงินสดส่วนต่างของราคา เหตุผลสำคัญที่นักลงทุนส่วนมากขาดทุน หรือคิดว่าการลงทุนนั้นเสี่ยงเป็นเพราะพวกเขาคิดอย่างฟาร์มวัวเนื้อ พวกเขาลงทุนเพื่อพาทรัพย์สินไปเชือด แทนที่จะพาไปรีดนม 2.ในการที่จะทำให้เงินไหลไปยังทรัพย์สินประเภทอื่นได้เร็วยิ่งขึ้น เราจะ ต้องเข้าใจและรู้จักใช้พลังดังต่อไปนี้ • OPM (Other People's Money) - เงินของคนอื่น • การเลือกรูปแบบของนิติบุคคล • กฎหมายภาษี 3.“คนรุ่นลูกและคนรุ่นหลังจากนี้จะต้องมีอย่าง น้อยสองอาชีพ อาชีพหนึ่งสำหรับตัวเราเอง และอีกอาชีพหนึ่งสำหรับเงินของเรา เมื่อเวลาผ่านไป เราต้องทำให้เงินทำงานหนักกว่าตัวเอง อาชีพคือเจ้าของธุรกิจ ส่วนเงินมีอาชีพเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พ่อเก็บเงินไว้และใช้เป็นเครื่องทุ่นแรงได้อย่างปลอดภัย เงินของเราและของธนาคารนั้นปลอดภัยมาก เพราะเราเป็นคนดูแลมันเอง ไม่ใช่ปล่อยให้คนแปลกหน้ามาดูแล” 4.ประกันภัยที่ได้มาด้วยการซื้อ : เมื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า การทำประกันก็ง่ายดายมากเสมือนการทำประกันรถยนต์และประกันชีวิต ไม่ต้องทำอะไรมากนอกจากหาตัวแทนที่ดี และซื้อประกันให้เหมาะสม ประกันภัยที่ได้มาด้วยการเรียนรู้ : การเลือกนิติบุคคลให้ถูกประเภทนั้นมีความสำคัญต่อนักลงทุนมืออาชีพเป็นอย่างมาก เขาจะสอบถามคำแนะนำจากนักกฎหมายหรือที่ปรึกษาด้านภาษีเพื่อให้การลงทุนของเขาได้รับความคุ้มครองสูงสุด ปัญหาของประกันภัยกลุ่มที่สองก็คือ เราต้องใช้เวลาเรียนรู้ และมีสมาชิกในทีมของเราที่มีความชำนาญในเรื่องเหล่านี้ เราได้ใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อเป็นประกันภัยในรูปแบบหนึ่ง มันช่วยคุ้มครองสิ่งที่ Robert เขียน โดยไม่ให้ใครนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต เราใช้ลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้าและสิทธิบัตร เพื่อคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของเราในการลงทุนในหุ้น เราก็ต้องรู้จักใช้ประกันด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ต้องรู้เรื่องการใช้คอลออปชัน (call option) หรือสิทธิในการซื้อ และพุตออปชัน (put option) หรือสิทธิในการขาย ซึ่งออปชันดังกล่าวไม่ได้เป็นแค่การประกันภัยในรูปแบบหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นการใช้เครื่องทุ่นแรงในรูปแบบหนึ่งด้วย 5.เลือกประเภทที่ดินในการถือครองทรัพย์สินให้เหมาะสม เพื่อประหยัดภาษีให้ได้มากที่สุดและได้รับความคุ้มครองสูงสุด - ลดภาษีได้ด้วยการปรึกษาที่ปรึกษาทางภาษีและวางแผนการประหยัดภาษีเป็นประจำ - พูดคุยกับที่ปรึกษาทันทีเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายภาษี เพื่อวางแผนรับมือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับคุณและการลงทุนของคุณ - ลองเริ่มต้นทำธุรกิจนอกเวลา (งานเสริม) ถ้าเรายังไม่มี - ทบทวนรายจ่ายส่วนตัวของคุณ แล้วพิจารณาว่ามีรายการใดบ้างที่สามารถเปลี่ยนไปเป็นค่าใช้จ่ายทางธุรกิจได้ ซึ่งจะสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ - เรียนรู้คำศัพท์ของการลงทุนให้มากขึ้น เพื่อจะได้ขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาได้อย่างเหมาะสม - วางแผนกลยุทธ์ในการลงทุนของคุณอย่างเหมาะสม ทำให้ประหยัดภาษีให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ได้กระแสเงินสดสูงสุด - นำเงินที่ประหยัดได้จากภาษีไปลงทุนเพิ่ม 6.พ่อรวยสอนให้ท่องคาถาวิเศษ "คุณกล้ารับประกันไหม" ใส่คนที่ชอบให้คำแนะนำแบบฟันธง พ่อรวยสอนว่า "เส้นบางๆ ระหว่างการโกหก กับการพูดความจริงไม่หมด นั่นก็คือ ความรับผิดชอบ" ถ้าคุณทำให้เขารับประกันเรื่องที่เขาพูด คุณจะรู้ทันทีว่าเขาอยู่ฝั่งไหน ฝั่งของคุณ หรือฝั่งของพวกเขา 7.วัฏจักร 20-10-5 ของการลงทุน : นักลงทุนจำนวนมากไม่เชื่อว่าแนวโน้ม 20-10-5 นั้นมีอยู่จริง แต่ก็มีนักลงทุนอีกกลุ่มหนึ่งที่ให้ความสนใจกับวัฏจักรนี้ อธิบายง่าย ๆ ว่าทฤษฎีนั้นบอกถึงสถานะของตลาดหุ้นว่าจะรุ่งเรืองเป็นเวลา 20 ปี หลังจากนั้นตลาดจะตกต่ำไปเป็นเวลา 10 ปี ส่วนสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน ทองคำ แร่เงิน อสังหาริมทรัพย์ แก๊สหุงต้ม และถั่วเหลือง จะมีราคาสูงขึ้น ส่วนระยะเวลา 5 ปีสุดท้ายในวัฏจักรหมายถึงวิกฤติร้ายแรง เช่น วิกฤติตลาดหุ้นในปี 1987 หรือโศกนาฏกรรมเมื่อ 11 กันยายน 2001" 8.นักลงทุนมืออาชีพต้องรู้ 3 อย่างนี้ : จังหวะในการเข้าตลาด / จังหวะในการออกจากตลาด / วิธีการถอนเงินของตัวเองออกจากโต๊ะ 9."ถ้าคุณอยากรู้อนาคต ก็ให้ศึกษาลักษณะทางประชากรศาสตร์ คนรุ่นเบบี้บูมเป็นกลุ่มประชากรที่มีสัดส่วนที่ใหญ่มาก ในทศวรรษที่ 1970 พวกเขาจบการศึกษา แล้วเริ่มเข้าสู่ตลาดแรงงาน เริ่มแต่งงาน มีครอบครัว และเริ่มซื้อบ้าน จึงส่งผลให้ราคาบ้านสูงขึ้นมากในช่วงนั้น ส่วนทศวรรษที่ 1990 พวกเขามีอายุอยู่ในช่วง 40-50 ปี เริ่มมีเงินเก็บและได้เริ่มลงทุนในตลาดหุ้น จึงทำให้ฟองสบู่ครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้น จากนั้นในปี 2010 พวกเขาจะเกษียณอายุกัน ด้วยเหตุนี้ก็จะทำให้เกิดการเฟื่องฟูและตกต่ำในหลายๆตลาด 10.ถ้าคุณอยากรวย จงคิดให้ออกว่าสถานที่ใดจะเฟื่องฟู แล้วไปที่นั่น และจงหลีกเลี่ยงสถานที่ที่จะตกต่ำ การศึกษาลักษณะประชากรศาสตร์ก็เหมือนกับการมองลูกแก้ววิเศษ ตอนที่เขียนหนังสือ พ่อรวยพยากรณ์ ก็ทำนายจากการเปลี่ยนแปลงของลักษณะประชากรศาสตร์นี่แหละ แต่บังเอิญว่าเรื่องจริงที่เกิดขึ้นนั้นเลวร้ายกว่าที่คาดคิดไว้มาก มันไม่ใช่แค่เงินบำนาญของคนรุ่นเบบี้บูมเท่านั้นที่ไม่เหลือ เงินทุนในแผนบำนาญของบริษัทก็ไม่เหลือแล้ว และเงินคลังของรัฐบาลกลางก็ไม่เหลือแล้วด้วย อันที่จริงแล้วพวกเขาเป็นหนี้กันหนักมากเลยทีเดียว 11.Other People's Money - เงินของคนอื่น ตัวเร่งตัวแรกในการทำธุรกิจคือ การใช้เงินของคนอื่น ยิ่งคุณประสบความสำเร็จในการเป็นนักธุรกิจมากเท่าไร เราก็จะใช้ตัวเร่งนี้ได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น เพราะนักลงทุนชอบคนเก่ง คนจำนวนมากเริ่มต้นทำธุรกิจด้วยการกู้เงินจากบัตรเครดิตหยิบยืมจากคนในครอบครัว หรือไม่ก็กู้สินเชื่อส่วนบุคคลจากธนาคาร ซึ่งอันที่จริงมันก็อาจจะจำเป็นในช่วงเริ่มต้น แต่ขอให้จำไว้ว่า วิธีการเร่งสร้างธุรกิจให้เกิดขึ้นที่เร็วที่สุดก็คือ การชวนนักลงทุนเข้ามาร่วมลงทุน อย่างไรก็ตาม ขอให้เลือกคนที่จะมาร่วมลงทุนให้ดี เราควรจะมีอำนาจในการบริหารจัดการบริษัท และจำกัดการมีอิทธิพลของเหล่านักลงทุน 12.ตัวเร่งที่ 2 : รูปแบบของนิติบุคคล - การเลือกรูปแบบของนิติบุคคลให้เหมาะสมนั้นสำคัญมาก เราไม่ควร ถือครองธุรกิจในรูปแบบของการเป็นเจ้าของคนเดียว แต่ห้างหุ้นส่วนสามัญ ทบทวนเงื่อนไขและประโยชน์ของการก่อตั้ง บริษัทแบบ C บริษัทแบบ S บริษัทจำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด โดยปรึกษากับนักกฎหมายและที่ปรึกษาด้านภาษีเพื่อวิเคราะห์ว่านิติบุคคลรูปแบบไหนที่จะช่วยคุ้มครองธุรกิจของคุณได้มากที่สุด และได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีมากที่สุด เพื่อส่งผลให้ได้รับกระแสเงินสดสูงสุด 13.ตัวเร่งที่ 3 : OPT (Other People's Time – เวลาของคนอื่น) ถ้าเราเป็นนักธุรกิจที่เก่ง จะสามารถใช้เครื่องทุ่นแรงจากคนอื่น และจากระบบเพื่อทำงานแทนตัวเราได้ หรือพูดอีกอย่างได้ว่า ถ้าเราเก่งในการทำธุรกิจ เราจะมีรายได้โดยแทบไม่ต้องออกแรงทำงาน 14.ตัวเร่งที่ 4 : กฎหมายภาษี ที่ปรึกษาด้านภาษีคือเพื่อนคู่คิดสำหรับนักธุรกิจ ในการศึกษาสิทธิประโยชน์ที่เจ้าของธุรกิจและนักลงทุนได้รับ การทำธุรกิจจะทำให้เราสามารถเปลี่ยนค่าใช้จ่ายบางอย่างให้กลายเป็นค่าใช้จ่ายของธุรกิจเพื่อลดหย่อนภาษีมากขึ้นได้ 15.ตัวเร่งที่ 5 : การบริจาคเพื่อการกุศล “จงให้เขาและท่านจะได้รับด้วย” การเป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ด้วยการตอบแทนสังคมเป็นเรื่องที่จำเป็นในการทำธุรกิจ คุณอาจจะไม่รู้สึกว่าการกุศลที่คุณทำนั้นจะให้ผลตอบแทนกลับมามากแค่ไหน แต่มันมีแน่ ยิ่งคุณช่วยเหลือผู้อื่นมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งรวยมากขึ้นเท่านั้น 16.เนื่องจาก Robert เรียนไม่เก่ง พ่อรวยจึงสอนว่า “แม้จะเรียนไม่เก่ง แต่ลูกก็ต้องค่อยๆ เรียนรู้ และทำไปตลอดชีวิต นี่คือหนทางสู่ชัยชนะของลูก” “ถ้าใช้เหตุผลอย่างเดียวอาจจะไม่เห็นหนทาง แต่ถ้าใช้จิตใจที่มุ่งมั่น ก็จะทำให้ลูกก้าวไปสู่จุดที่ต้องการได้” กว่า Robert จะกลายเป็นผู้เขียนหนังสือขายดีก็อายุตั้ง 50 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ก็สอบตกในโรงเรียนมัธยมเพราะเขียนไม่เก่ง ดังนั้น การที่หนังสือของ Robert ติดอันดับขายดีของ New York Times คงไม่ได้มาด้วยหลักเหตุผลแน่ๆ หลังจากจบการศึกษา ก็เข้าสู่วัยทำงาน เพื่อนๆหาเงินได้มากกว่า Robert ในช่วงนั้น แต่ในปัจจุบัน Robert หาเงินได้มากกว่าเพื่อนที่เรียนเก่งและทำงานที่มีเงินเดือนสูงด้วย เนื่องจากผมเป็นคนเรียนรู้ช้า Robert จึงประสบความสำเร็จทางการเงินช้า Robert ต้องใช้เวลามากกว่าคนอื่นในการศึกษาหาความรู้และประสบการณ์ที่จำเป็น มีหลายครั้งที่อยากยอมแพ้ แต่ก็อดทนสู้ต่อไปด้วยความขยันหมั่นเพียรส่งผลให้ Robert ได้ในสิ่งที่หวัง ดังนั้น ขอให้คุณตั้งใจศึกษาเรื่องการลงทุนโดยไม่ต้องกังวลว่าคุณมีเงินเท่าไร หรือคุณอายุเท่าไรแล้ว ทุกครั้งที่คุณได้รับบทเรียนใหม่ๆ คุณก็จะยิ่งเล่นเกมการเงินได้เก่งขึ้น 17.วัฏจักร 20-10-5 “ตลาดหุ้นจะรุ่งเรืองเป็นเวลา 20 ปี เมื่อครบกำหนดโอกาสที่จะเกิดวิกฤติในตลาดหุ้นก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นเมื่อเกิดวิกฤติตลาดหุ้นก็จะตกต่ำเป็นเวลา 10 ปี ซึ่งในช่วงนั้นตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ แร่เงิน น้ำมัน รวมถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์จะรุ่งเรือง และทุกๆ 5 ปีที่ผ่านไป จะมีหายนะขนาดใหญ่เกิดขึ้นในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง 18.หนึ่งในวิธีการค้นหาการลงทุนที่ดีที่สุดคือ การมีหุ้นส่วนทางธุรกิจที่ทำงานอยู่ในวงการอย่างสม่ำเสมอ Robert ได้เจอการลงทุนที่ดี เพราะเราจ่ายเงินให้นายหน้าในอัตราที่สูงกว่านักลงทุนคนอื่น ยกตัวอย่างเช่น นักลงทุนจำนวนมากอาจจะขอลดค่านายหน้า แต่เราจ่ายเต็มจำนวน แล้วยังแถมให้อีก 10 เปอร์เซ็นต์ของกำไรจากการลงทุนนั้น บางทีอาจเป็นเพราะเราใจกว้าง จึงทำให้เราได้รับการติดต่อเป็นเราได้อสังหาริมทรัพย์หลายแห่งในราคาดี เพราะเรามีเพื่อนรายแรกๆในวงการและต่อมาก็พัฒนาเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ อย่าเข้าใจผิดว่า Robert ต่อต้านการลงทุนในหุ้นหรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แค่เขาต้องการจะบอกว่ามันมีความเสี่ยงอยู่เหมือนกัน และถ้าเป็นไปได้ คนกินเงินเดือนควรจะทักษะการทำธุรกิจ สร้างกระแสเงินสดเลี้ยงดูตัวเองแทนการใช้สิทธิสวัสดิการจะดีกว่า มันไม่ง่าย แต่นี่คือสิ่งที่คนรวยทำสำเร็จและอยากให้คนทั่วไปได้รู้ ได้เข้าใจถึงเงินที่เคลื่อนไหว โดยรู้จักใช้เงินทำงานแทนตัวเราเอง แม้เราจะเกษียณแล้ว แต่เราก็จะสามารถทำธุรกิจต่อไปได้ ซึ่งถ้าสำเร็จจริง รายได้ก็จะเข้ามาเรื่อยๆ..ไม่มีวันหมด เครดิตภาพ ภาพปก โดย jcomp จาก freepik.com ภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียน ภาพที่ 3 โดย jcomp จาก freepik.com ภาพที่ 4 โดย jcomp จาก freepik.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจ รีวิวหนังสือ พ่อรวยสอนลูก รีวิวหนังสือ พ่อรวยสอนลูก เงินสี่ด้าน รีวิวหนังสือ พ่อรวยสอนวัยรุ่น (Rich dad poor dad for teens) รีวิวหนังสือพ่อรวยสอนลูก เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนจะเป็นเจ้าของธุรกิจ (Rich dad's Before you quiz your job) รีวิวหนังสือ พ่อรวยสอนลูก เกษียณเร็ว เกษียณรวย เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !