CH ปี69จ่อขึ้นราคาขาย รุกสินค้าใหม่เสริมพอร์ต

#CH #ทันหุ้น - CH  เปิดแผนรับมือบาทแข็ง เน้น “เฮดจิ้ง-เจรจาลูกค้าขึ้นราคาขาย-ลดต้นทุน”  หวังสามารถกำไรดีขึ้น  เดินหน้าออกสินค้าใหม่ที่คู่แข่งน้อย ดันมาร์จิ้นเพิ่ม ล่าสุดเปิดตัว Super Soft Mango Bite บุกตลาดอเมริกา หวังอนาคตยอดขายแตะ 10% อีกทั้งมองยุโรปเป็นตลาดดาวรุ่งใหม่

นายประวิทย์ ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนต่างประเทศ บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ CH ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลไม้และอาหารแปรรูปมีสัดส่วนการขายสินค้าไปยังต่างประเทศกว่า 80% เปิดกับ “ทันหุ้น” ว่า  ยอมรับว่าในภาพใหญ่ระดับประเทศการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 31 บาทต่อดอลลาร์ย่อมกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการส่งออกโดยเฉพาะในส่วนของยอดขายที่ตกลงล่วงหน้าไว้แล้ว

@ป้องกันความเสี่ยง

อย่างไรก็ตาม CH มีธุรกรรมประกันความเสี่ยงอัตราค่าเงินไว้บางส่วน ปกติจะอยู่ราว 50% ของยอดขายแต่ก็จะยืดหยุ่นแล้วแต่โอกาสประกอบร่วมกับทิศทาง ดังนั้นผลกระทบเชิงลบจริงจึงไม่มากนัก ผนวกกับบริษัทดำเนินนโยบายเพิ่มประสิทธิภาพในโรงงานไปพร้อมกับลดค่าใช้จ่ายซึ่งสะท้อนผลดีชัดเจนไปยังอัตรากำไรสินค้าต่างๆ ซึ่งส่วนหนึ่งการที่ราคาน้ำตาลตลอดปีนี้ถูกลงถือเป็นความได้เปรียบส่งเสริมให้กำไรดีขึ้นกว่าปกติ

อีกทั้งบริษัทได้วางแผนระยะต่อไปด้วยการพยายามเจรจาปรับราคาสินค้าขึ้นสำหรับสัญญาในปีหน้าเนื่องจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาแล้ว 9% จากต้นปี 2568 ขณะที่ในปีหน้าคาดหวังเงินบาทจะกลับมาอ่อนค่าลงแล้ว ซึ่งจังหวะเวลาขึ้นย่อมอยู่กับบทบาทการบริหารจัดการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ด้วย

@รุกสินค้าใหม่

แม้ธุรกิจของบริษัทรายได้หลักมาจากงานรับจากรับจ้างผลิตที่เรียกว่า OEM โดย 9 เดือนของปี 2568 สัดส่วนเท่ากับ 64.39% แต่บริษัทก็กำลังเริ่มให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ของตัวเองมากขึ้นสะท้อนจากสัดส่วนรายได้ Housing Brand รวม 9 เดือนของปี 2568 เท่ากับ 3.64% ขณะที่ช่วงเดียวกันปีก่อนมีเพียง 2.50%

สำหรับกลยุทธ์สร้างแบรนด์ยังสอดรับกับกลยุทธ์สินค้าใหม่เพื่อหนีการแข่งขันในตลาดที่แข่งขันรุนแรง โดย CH เพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ทำจากมะม่วง ลักษณะคล้ายเยลลี่รูปปลาชื่อว่า Super Soft Mango Bite ที่เน้นสัมผัสเคี้ยวนุ่มพอดีคำ ดีต่อสุขภาพจากการไม่แต่งสีและกลิ่น เริ่มทดลองทำตลาดแล้วเป้าหมายหลักคือเจาะตลาดค้าส่งสหรัฐ บริษัทตั้งเป้าให้สินค้าใหม่นี้มีสัดส่วนรายได้ไม่ต่ำกว่า 10% ของรายได้รวม

สำหรับสินค้าใหม่ให้อัตรากำไรที่ดีกว่า แถมยังไม่มีคู่แข่ง และในอีกมุมสินค้าใหม่นี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทดแทนสินค้าเดิมที่โดนผลกระทบจากมาตรการภาษี (Tariff) ในสหรัฐ  ส่วนอีกสินค้าใหม่ที่เพิ่งเริ่มวางตลาดค้าปลีกรายใหญ่ในประเทศไทยแล้วในไตรมาส 4/2568 คือ มะม่วงแบะบ๊วย เน้นจุดเด่นด้านความสดชื่นจากรสเปรี้ยวละมุนเคี๊ยงง่ายหนึบหนับโดยไม่ผสมแป้ง สำหรับสินค้านี้เนื่องจากเน้นขายในประเทศก่อนยอดขายจึงอาจไม่ได้มากอย่างมีนัยในระยะอันใกล้นี้ แต่หากเทียบกลุ่มสินค้าประเภทเดียวกันถือว่ายอดขายเติบโตสูง

อนึ่งบริษัทมีการส่งขายสินค้าต่างๆ แทบทุกทวีปทั่วโลก โดยมีสหรัฐอเมริกาเป็นพอร์ตใหญ่ที่สุดเกิน 50%  สำหรับตลาดดาวรุ่งที่กำลังเร่งเจาะคือโซนยุโรป เช่น สเปน และโปรตุเกส เป็นต้น