เก๋งชนโจ๋ 17 ขี่จยย.ย้อนศร ดับคาที่ คนขับเผยต้องกอดลูกชายไว้ จนเสียหลักอัดเสาไฟ
เมื่อเวลา 21.40 น. วันที่ 24 ก.พ. 2565 พ.ต.ท.พินิจ แก้วศรีทอง สว.สอบสวน สภ.เขาคิชฌกูฏ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี ว่า มีอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบนถนนสาย 3049 บ้านคลองน้ำเป็น หมู่ 7 ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี จึงรุดตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย
ที่เกิดเหตุบริเวณปากซอย บ้านคลองน้ำเป็นซอย 9 พบศพนายดนุนัย ท้องที่ อายุ 17 ปี ชาว ต.โนนเพ็ก อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ เสียชีวิตอยู่ในร่องข้างถนน ตรวจชันสูตรเบื้องต้น พบมีบาดแผลฉกรรจ์ช่วงหน้าท้อง ชิ้นเนื้อหลุดหายไป
ใกล้กันพบแผ่นป้ายทะเบียน ญฒ 5823 กรุงเทพมหานคร ตกอยู่ข้างศพ และพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซูเปอร์คับ สีชมพู ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพถูกชนพังยับเยินเสียหายทั้งคัน ล้มอยู่ข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงถ่ายภาพบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีขาว หมายเลขทะเบียนด้านท้าย ญฒ 5823 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถคู่กรณี พุ่งชนกับเสาสัญญาณจราจรข้างทาง สภาพด้านหน้ามีร่องรอยเฉี่ยวชนพังเสียหาย มีชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ ทั้งโช้คอัพหน้าและล้อรถติดอยู่กับหน้ารถเก๋ง ส่วนกระจกหน้ารถแตกเป็นช่องขนาดใหญ่ พบนายอดิสรณ์ ตั้งใจซื่อ อายุ 39 ปี ชาว ต.ชากไทย อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เป็นคนขับ ยืนรอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบสวนของ พ.ต.ท.พินิจ แก้วศรีทอง สารวัตรเวรเจ้าของคดี เบื้องต้นทราบว่า นายดนุนัย ผู้เสียชีวิต เป็นช่างก่อสร้างเตาเมรุให้กับวัดคลองน้ำเป็น ก่อนเกิดเหตุได้ยืมรถจักรยานยนต์เพื่อนที่ทำงานออกมาซื้อของที่ร้าน ขากลับได้ขี่รถข้ามถนนรีบกลับเข้าซอยในลักษณะย้อนศร เป็นจังหวะเดียวกับที่มีรถเก๋งคู่กรณีขับสวนทางมา จึงพุ่งชนอย่างแรง จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต
นายอดิสรณ์ คนขับรถเก๋งคู่กรณี กล่าวว่า ตนขับรถพาภรรยาและลูกชายกำลังจะเดินทางกลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ จู่ๆ มีรถจักรยานยนต์คู่กรณีขี่ย้อนศรพุ่งเข้ามาในระยะกระชั้นชิด ตนเบรกไม่ทัน จึงชนอย่างแรง จนร่างผู้เสียชีวิตลอยขึ้นมากระแทกกับกระจกหน้ารถแตกละเอียด ทำให้ถุงลมนิรภัยทำงาน พร้อมกับมีควันสีขาวพุ่งออกมา จึงมองไม่เห็นทางข้างหน้า
นายอดิสรณ์ กล่าวต่อว่า รถเกิดความเสียหายหนัก จึงไม่สามารถควบคุมให้อยู่ในทิศทางได้ และตนยังต้องคอยกอดประคองลูกชายไว้ ทำให้รถไหลลงเนินมาเป็นระยะทางไกลหลายร้อยเมตร ก่อนเสียหลักตกข้างทางและพุ่งชนกับเสาป้ายจราจร ยืนยันว่าขับรถมาด้วยความเร็วประมาณ 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น โดยมีภาพจากล้องหน้ารถที่บันทึกภาพเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุไว้ได้ชัดเจน
เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสาเหตุ โดยตรวจสอบร่องรอยหลักฐานในที่เกิดเหตุ และสอบปากคำพยานบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมเชิญตัวคนขับรถเก๋งคู่กรณีมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เขาคิชฌกูฏ และตรวจสอบภาพกล้องหน้ารถ เพื่อสรุปสาเหตุที่แน่ชัดและดำเนินคดีให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่ายต่อไป