สวัสดีค่า วันนี้พรีมตัดสินใจสมัครเรียนนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหงค่ะ ความจริงพรีมคิดอยู่สักพักนึงแล้วว่าจะเรียนหรือไม่เรียนดี เพราะมันคนละสายกับที่ตัวเองเรียนมา ขอแนะนำตัวพรีมก่อนว่า พรีมเรียนจบปริญญาโท คณะวิทยาศาสตร์ สาขาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทางด้านวัสดุศาสตร์ค่ะ ช่วงที่จะจบปริญญาโทตอนนั้น มีความคิดว่าจะต่อเอกเลยเหมือนกัน แต่ก็มีความคิดแว๊บนึงว่าอยากพักเรื่องเรียนก่อน ไฟหมด 😅 พอเรียนจบโท ก็เลยมาช่วยงานที่บ้าน ซึ่งเปิดสำนักทนายความอยู่ และงานของพรีม ก็ทำได้ในส่วนของเอกสาร ตรวจเช็คความเรียบร้อย จัดตารางงานต่างๆ ที่เราสามารถทำได้ ส่วนเรื่องว่าความ หรือเกี่ยวกับกฏหมายโดยตรง พรีมไม่มีความรู้เลย ☺️พอเริ่มทำงานด้านกฏหมาย เริ่มมีการซึมซับ เลยตัดสินใจที่จะไปเรียนเอาปริญญาอีกสักใบ เพื่อเราจะได้ทำงานในส่วนของกฏหมายได้เต็มตัว และทางบ้านก็เห็นด้วยกับเราที่เราจะไปเรียนต่อทางด้านนี้ และแล้วก็ถึงวันที่พรีมตั้งใจแล้วว่าจะเรียนต่อกฏหมาย รอวันรับสมัคร แล้วช่วงนี้ เปิดรับสมัครเรียนภาค2/2563 ช่วงที่เปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ วันที่ 4-7 ธันวาคม 2563 ซึ่งวันที่พรีมไปสมัคร คือวันสุดท้ายเลย (ทางมหาวิทยาลัยฯ ไม่เว้นวันหยุดราชการ) การสมัครเรียนของนักศึกษาใหม่ ต้องไปสมัครเรียนด้วยตัวเองที่มหาวิทยาลัยฯ (ราม1 หัวหมาก) ที่ อาคารหอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช วันนี้พรีมจะมารีวิวการสมัครเรียนรามด้วยตัวเอง📍 เป็นอย่างไร ??📍 ต้องเตรียมตัว เตรียมเอกสาร อย่างไร ?? 📍 ใช้ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ?? 📍 การรีวิวนี้เป็นของชั้นปริญญาตรี ‘แบบส่วนกลาง’ และ ‘แบบโอนหน่วยกิต’ นะคะ 📌📌📌 เวลาที่มหาวิทยาลัยฯ กำหนด คือ 08.30 - 15.30 น. ไม่มีเวลาพักทานข้าวนะคะ พอไปถึง หอประชุมฯ ก็จะมีพนักงานเจ้าหน้าที่มาวัดอุณหภูมิ แปะสติ๊กเกอร์ก่อนเข้าไปสมัคร ส่วนตัวประทับใจเจ้าหน้าที่ คนคอยให้คำแนะนำตลอดการสมัคร มีเป็นจุดๆ ทำตามขั้นตอน เดินตามหมายเลขที่มหาวิทยาลัยฯ จัดไว้ให้ ทำดีมาก ไม่ยุ่งยาก ประทับใจมากค่ะ (ต่อไปเป็นการเล่าถึงการสมัคร พรีมจะแบ่งตามจุดที่พรีมพอจะจำได้นะคะ แต่ครบถ้วน เข้าใจแน่นอน)เริ่มที่จุดที่ 1 ให้ใบสมัครฯ (ม.ร.2) และ แผ่นระบายสีม่วง (ม.ร. 25) : ใบสมัคร ม.ร. 2 สามารถดาวน์โหลดที่ https://drive.google.com/file/d/1TmBf3dLZwAo9xrXlxUnd4fv0rhsPgHJk/view?usp=drivesdk ได้เลย เราสามารถเขียนไปก่อน พอไปถึงได้ลดเวลาไปได้อีกค่ะ แปะรูป 2นิ้วหรือ1นิ้วครึ่งด้วยค่ะ แต่ถ้าใครไม่ได้ทำไปล่วงหน้า ก็มีใบให้เขียนค่ะจุดที่ 2 ตรวจเช็คความเรียบร้อยของเอกสาร : มีเจ้าหน้าที่คอยเช็คเอกสารให้ เอกสารที่ต้องเตรียม ... (ˆ‿ˆԅ)1. ใบสมัครและใบขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา (มร.2)2. แบบแสดงความยินยอมในการเก็บใช้และเปิดเผยข้อมลูส่วนบุคคล3. สำเนาใบทรานสคริปต์ 4 ฉบับ (เทียบโอนหน่วยกิตต้องใช้ 4 ฉบับ)4. สำเนาบัตรประชาชน 1 ฉบับ 5. ใบรับรองแพทย์ 1 ฉบับ6. แผ่นระบายสีม่วง (ใบม.ร. 25) จุดที่ 3 เข้าไปยื่นเอกสาร เดินไปตามเลข (ตรวจเอกสาร และแปะเลขรหัสนักศึกษา) : เดินไปตามเลข 1 2 3 4 5 จนถึงจุดลงทะเบียนเรียนตามหลักสูตร คณะนิติศาสตร์ เรียนทั้งหมด 140 หน่วยกิต พรีมสามารถโอนหน่วยกิต ได้ 33 หน่วยกิต (หน่วยกิตละ 100 บาท)จุดที่ 4 ชำระเงิน : พรีมลง 9 วิชา ทั้งหมด 22 หน่วยกิต เต็มอัตราเลยค่ะ ตอนนั้นทำไรลงไปไม่รู้ 555+ ลองดูค่ะ 💕 9 วิชา 22 หน่วยกิต รวมค่าต่างๆแล้ว จ่ายทั้งหมด 3,850 บาท (รวมค่าจองหน่วยกิตที่โอน 100 บาท พรีมเลือกยังไม่จ่ายค่าโอนหน่วยกิต เพราะมีคนแนะนำว่า ให้จ่ายค่าเทอมไปก่อน ค่าโอนหน่วยกิตค่อยจ่ายที่หลังได้ ; แต่ ต้องจ่ายภายใน 1ปีนะคะ ไม่งั้นจะเสียค่าปรับจ่ายล่าช้า ภาคละ 300 บาท (หรือ600 บาท/ปี ไม่นับภาคฤดูร้อน) )เพราะฉะนั้นสิ้นสุดแล้ว เทอม 2/63 นี้ พรีมจะเสียค่าทั้งหมด เป็นเงิน 7,150 บาทค่ะ จุดที่ 5 จัดเก็บซองประวัตินักศึกษา : สิ้นสุดการสมัครและลงทะเบียนเรียน กลับบ้านได้เลย ค่า 😁 สรุปแล้ว การสมัครเรียนรามฯ ผ่านพ้นได้ด้วยดีค่ะ ประทับใจมากเพราะมีการจัดเป็นระบบ เป็นจุด ให้เราเดินตามไปจนสิ้นสุดจุดสุดท้าย ก่อนกลับ พรีมแวะไหว้ขอพรพ่อขุนรามฯ ขอให้ลูกเรียนจบตามเวลาที่ลูกตั้งใจไว้ ผ่านในแต่ละเทอมไปได้ทุกวิชา ได้ปริญญาบัตรสมความปรารถนา เพี้ยง 🙏🏻💕สุดท้ายนี้ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังจะเริ่มเรียน หรือ อยู่ในช่วงกำลังเรียนอยู่ ให้ผ่านพ้นทุกอย่างไปได้ด้วยดีนะคะ ได้ยินว่า ม.ราม เข้าง่าย ออกยาก พรีมก็ยังไม่รู้ว่าชะตาชีวิตข้างหน้าของพรีมจะเป็นไง แต่ในเมื่อเลือกแล้ว ต้องทำให้สำเร็จค่ะ สู้ค่ะ เย้ 🥰(ภาพโดยผู้เขียน)