การสื่อสารในปัจจุบันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพบเจอกับภาษาอังกฤษ การเชื่อมต่อที่ง่ายดายทำให้คนทั้งโลกติดต่อกันได้ง่ายขึ้น หลัก ๆ โดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นตัวสื่อสาร และมันจะเสียโอกาสอย่างมากหากคุณไม่สามารถสื่อสารกับคนเหล่านั้นได้ ความได้เปรียบทางภาษามีผลโดยตรงต่อตัวคุณโดยเฉพาะในด้านหน้าที่การงาน วันนี้เราจึงมี 3 เทคนิคที่ง่าย ๆ ที่จะทำให้คุณพัฒนาทักษะฟัง พูด อ่าน เขียนได้อย่างรวดเร็วจนตัวคุณและคนรอบข้างต้องแปลกใจ 1. ทำตัวให้เป็นนกแก้ว ตามสำนวนที่คนไทยชอบพูดกัน “ ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง ” หมายถึงการพูดซ้ำแบบจำมา วิธีนี้จะช่วยฝึกสำเนียงการออกเสียงได้ดีที่สุด เมื่อได้ฟังบ่อย ๆ พูดตามจนเคยชินมันจะจำประโยคหรือคำ ๆ นั้นได้อย่างขึ้นใจและสามารถพูดมันออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ช่องทางที่สะดวกต่อการฝึกฝนที่แนะนำก็คือทางยูทูปเพราะในยูทูปคุณสามารถกดหยุดและเล่นต่อได้ทุกเมื่อ ทั้งยังมีภาพและคำประกอบให้คุณได้อ่านตาม เริ่มจากเลือกเรื่องที่คุณสนใจต้องการเรียนรู้ อาจจะเกี่ยวข้องกับสายอาชีพที่คุณทำอยู่ เพียงแค่คุณเปล่งเสียง พูดตาม อย่ากลัวและกังวลกับความหมายที่คุณอาจจะยังแปลไม่ออกหรือไม่เข้าใจในทันที เพราะความหมายคุณสามารถเรียนรู้มันได้ในภายหลัง 2. ฝึกเดาศัพท์จากบริบทรอบข้าง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กลัวเวลาเห็นภาษาอังกฤษที่เขียนมาเป็นประโยค หรือบทความยาว ๆ ลองนำเทคนิคนี้ไปใช้นะคะ เริ่มจากอ่านให้จบประโยคเสียก่อน อย่าพยายามเปิดหาความหมายของคำศัพท์ทุกคำ เพราะมันจะทำให้เสียเวลาและยิ่งปวดหัว จับประเด็นให้ได้ว่าเรื่องนี้เขียนถึงสิ่งใดเป็นสำคัญ และหากเป็นบทความด้วยแล้ว การอ่านให้จบบทเสียก่อนมันจะช่วยให้คุณเดาศัพท์ที่ไม่รู้ได้ง่ายมากขึ้น ฝึกฝนวิธีนี้ให้บ่อยเท่าที่จะเท่าได้ มันจะช่วยให้คุณเรียนรู้คำศัพท์ได้มากทีเดียว เลือกบทความที่คุณสนใจ อาจเป็นเรื่องใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน รับรองว่าคุณจะสนุกไปกับมันอย่างแน่นอน หนังสือสองภาษาเป็นอีกตัวช่วยที่ดี เพราะคุณจะได้รับคำแปลที่ถูกต้องอยู่ด้วยในหนังสือ ซึ่งสามารถนำมาเทียบเคียงกับความหมายที่คุณได้แปลเอง เป็นการฝึกพิจารณาสำนวนภาษาไปด้วยในตัว หนังสือเหล่านี้ราคาไม่แพงและมีขายอยู่ทั่วไป ลองหามาอ่านกันดูนะคะ 3. เป๊ะไวยากรณ์ ปัญหาเรื่องไวยากรณ์อาจทำให้ใครหลายคนส่ายหัว และหลีกเลี่ยงที่จะสนใจศึกษา แต่รู้หรือไม่ การรู้หลักไวยากรณ์จะส่งผลให้คุณใช้ภาษาได้อย่างถูกต้องแม่นยำ และที่สำคัญมันไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงต้องอาศัยการฝึกฝน อาจเริ่มฝึกสังเกตจากการดูภาพยนตร์ รายการข่าว ว่าในแต่ล่ะประโยคนั้นเค้าเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อใด เช่นเกินขึ้นเมื่อในอดีต กำลังเกิดอยู่ในปัจจุปัน หรือกำลังจะเกิดในอนาคตเป็นต้น และสังเกตคำ และรูปแบบที่เขาใช้ว่ามีการปรับแปลงรูปเป็นอย่างไร ในเทคนิคนี้คุณต้องหมั่นท่องจำและทำความเข้าใจในรูปแบบประโยคทั้ง 12 Tense ซึ่งมีความต่างกันเพียงเล็กน้อย หากคุณเข้าใจในการจัดวางการกระทำของกาลแต่ละเหตุการณ์ เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะสำหรับ 3 เทคนิคที่นำมาฝากกันในครั้งนี้ หากมันยังไม่มากพอ ผู้เขียนขอฝากไว้อีกข้อนั่นคือ การฝึกคิดในหัวให้เป็นภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ถูกผิดไม่สำคัญ คำศัพท์คำใด สิ่งของใดที่จำไม่ได้และมักจะลืม ผู้เขียนขอเเนะนำให้เขียนใส่กระดาษเป็นภาษาอังกฤษแล้วแปะติดไว้ อาจเริ่มจากกิจวัตรประจำวัน งาน การสื่อสารกับผู้คนใกล้ตัว และการฝึกคิดในหัวจะทำให้เรียนรู้ศัพท์ใหม่ได้ไวมากขึ้น ลองนำไปใช้กันดูนะคะ เทคนิคง่าย ๆ สบาย ๆ ไม่กดดันตัวเอง เรียนรู้ด้วยตนเองอย่างเป็นธรรมชาติ และเทคนิคที่เขียนมาทั้งหมดนี้ รวบรวมมาจากประสบการณ์โดยตรงของผู้เขียนที่ใช้แล้วได้ผล จึงหวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกท่านเช่นกันค่ะ ขอบคุณรูปภาพประกอบทั้งหมดจากhttps://pixabay.com/ภาพปก / รูปภาพ 1 / รูปภาพ 2 / รูปภาพ 3 / รูปภาพ 4