กรดผลไม้ คือ มีอะไรบ้าง ประโยชน์ กรดในผลไม้ กรดผลไม้ คือ ความเป็นกรดที่พบในผลไม้ โดยรู้ได้จากการวัดค่าความเป็นกรดและด่าง (pH) ผลไม้ที่มีค่า pH ต่ำ บ่งบอกว่ามีความเป็นกรดสูงกรดผลไม้ มีอยู่ด้วยกัน 3 กลุ่ม คือ1. กรดเอเอชเอ (Alpha Hydroxy Acid; AHA) คือ กรดผลไม้ที่ละลายในน้ำ ซึ่งกรดเอเอชเอนี้มีความสามารถในการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกให้หลุดลอกออกมาได้ กรดเอเอชเอเป็นกรดที่พบมากในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิว 2. กรดบีเอชเอ (Beta Hydroxy Acid; BPA) คือ กรดผลไม้ที่ละลายได้ดีในน้ำมัน ซึ่งกรดบีเอชเอนี้จะเหมาะสมสำหรับคนที่มีผิวมัน เพราะกรดบีเอชเอจะสามารถออกฤทธิ์ได้ดี กรดบีเอชเอช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วเช่นเดียวกันกับกรดเอเอชเอ3. กรดพีเอชเอ ( Poly Hydroxy Acid; PHA) เป็นกรดที่มีคุณสมบัติคล้ายกับกรดเอเอชเอคือช่วยผลัดเซลล์ผิว แต่กรดพีเอชเอไม่สามารถแทรกเข้าไปในชั้นของผิวหนังได้ เนื่องจากมีขนาดของโมเลกุลที่มีขนาดใหญ่ กรดพีเอชเอมีความเป็นกรดน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับกรดเอเอชเอและกรดบีเอชเอ ดังนั้นกรดพีเอชเอจึงเหมาะสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายตัวอย่างของกรดผลไม้ตามธรรมชาติที่พบในผลไม้ชนิดต่างๆ ในชีวิตประจำวันของผู้เขียน เช่นกรดมาร์ลิก พบในแอปเปิ้ล กล้วย เชอรี่ มะนาว ส้ม องุ่น สตรอว์เบอร์รี่ กรดซิตริก พบในเชอรี่ มะนาว สตรอว์เบอร์รี่ แอปเปิ้ล กล้วยกรดทาร์ทาร์ลิก พบในอะโวคาโด กล้วย เชอรี่ องุ่น มะนาวผลไม้ที่ผู้เขียนชอบกินคือ ส้ม องุ่น แอปเปิ้ล และเลือกใช้มะนาวในการประกอบอาหารเป็นส่วนใหญ่ ถ้าพูดถึงกรดผลไม้ในกรณีกินผลไม้ชนิดหนึ่งเข้าไปในร่างกายนั้น กรดผลไม้มีส่วนช่วยเร่งการย่อยอาหารในกระเพาะอาหาร การกินกรดผลไม้มากเกินไปจะมีผลข้างเคียง ได้แก่ กรดผลไม้ทำให้ฟันเกิดการสึกกร่อนได้ กรดผลไม้ยังทำให้เกิดภาวะกรดไหลย้อน ซึ่งจะมีอาการแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ ในด้านความสวยความงามได้มีการนำเอากรดผลไม้มาใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวกันอย่างแพร่หลาย โดยเอาประโยชน์จากที่กรดผลไม้มีส่วนช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จึงพบว่าผิวแลดูกระจ่างใส จุดด่างดำจางลง ผิวหน้าดูเนียนเรียบขึ้นและลดริ้วรอยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ในความเข้มข้นที่สูงหรือใช้ประจำในปริมาณที่มากจนเกินไป จะได้รับผลข้างเคียงต่อผิว กรดผลไม้จะทำให้ผิวบางลงและมีความไวต่อการกระตุ้นจากแสงแดด ส่งผลให้มีการสร้างเม็ดสีผิวมากกว่าปกติ จนนำไปสู่การเป็นฝ้าและมีจุดด่างดำในที่สุด คนที่มีผิวหน้าบางลงพอเจอแสงแดดหน้าจะแดง และแสบร้อนผิวหน้า ถ้าสังเกตที่ผิวหน้าจะมองเห็นเส้นเลือดฝอยการประยุกต์ใช้กรดผลไม้ตามธรรมชาติสามารถทำได้ และดูเหมือนจะมีผลข้างเคียงน้อยและปลอดภัยกว่า แต่ยังต้องเว้นระยะห่างในการใช้ เช่น ใช้มะนาวทำความสะอาดใบหน้า ใช้มะขามเปียกพอกหน้าเป็นต้น ที่เหมาะสมสำหรับการใช้กรดผลไม้ตามธรรมชาติ เพื่อความสวยความงามคือ ประมาณ 1-2 วันต่อสัปดาห์ โดยเว้นระยะห่างกันผู้เขียนมีประสบการณ์ในการใช้กรดผลไม้ตามธรรมชาติเหมือนกันค่ะ เริ่มใช้มานานแล้วน่าจะเมื่อ 10 ปีก่อน จนถึงตอนนี้ก็ยังใช้อยู่ โดยส่วนใหญ่จะเลือกใช้มะขามเปียก และมีบางช่วงเป็นมะนาว ตอนที่ใช้มะนาวเพราะว่ามะนาวเต็มต้นจากสวน ที่ใช้มะขามเปียกเพราะหาง่ายและราคาถูก ตอนนี้ที่มีติดตู้เย็นจะเป็นมะขามเปียกสำหรับพอกหน้า ผู้เขียนจะทำเกลือขัดผิวจากมะขามเปียกด้วย มะขามเปียกใช้ได้ดีค่ะ ใช้งานง่าย และได้ผลดี ทำให้ผิวหน้าเรียบ ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้จริง เพราะที่สังเกตเห็นคือริ้วรอยแทบจะไม่มีค่ะ ผิวหน้าเนียนนุ่มและกระจ่างใสขึ้นในระหว่างใช้ให้ระวังอย่าให้เข้าตา ปกติผู้เขียนจะนำมาพอกหน้าประมาณ 5-10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า ในส่วนผสมประกอบด้วยมะขามเปียก 3 ฝัก นม 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่านิดหน่อย และน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ต้องบอกว่าสูตรนี้ไม่ตายตัวค่ะ แล้วแต่ว่าจะหาอะไรได้ บางครั้งไม่มีนมกับน้ำผึ้งก็ใช้น้ำเปล่าอย่างเดียวสำหรับเกลือขัดผิวนั้น ใช้เกลือ 1 กิโลกรัม ต้องเป็นเกลือที่มีเม็ดขนาดเล็กและกลมเท่านั้น! เช่น เกลือปรุงทิพย์ในเซเว่นและมะขามเปียกละลายน้ำประมาณ 3 ถ้วยตวง เทผสมกัน เกลือขัดผิวไม่ต้องแช่เย็น เพราะเค็มมากแบคทีเรียเกิดไม่ได้จึงไม่เสีย เอานำมาใช้ขัดผิวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง สูตรเกลือขัดผิวก็ให้ผลลัพธ์ไปในทิศทางเดียวกันกับสูตรพอกหน้าค่ะการใช้กรดผลไม้ทั้งจากธรรมชาติโดยตรงและผลิตภัณฑ์ที่มีกรดผลไม้เป็นส่วนผสมมากเกินไป มีผลทำให้ผิวมีความไวต่อการกระตุ้นจากแสงแดดในลักษณะคล้ายกัน เพราะผู้เขียนเคยใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าของยี่ห้อหนึ่งประมาณ 3 ขวด ติดต่อกัน พบว่า ผิวหน้าบางลงและพบเส้นเลือดฝอยที่แก้มทั้งสองข้างจึงเลิกใช้ แล้วหันมาใช้กรดผลไม้จากธรรมชาติแทน และไม่สังเกตเห็นผลข้างเคียงที่รุนแรง ยังไงก็ตามครีมกันแดดถือเป็นสิ่งที่จำเป็นตามมาที่ต้องใช้ทุกวันข้อมูลอ้างอิงที่เกี่ยวข้อง:Fruit acids in skincare - what AHA, BPA, PHA do for your skin.Natural acids of fruits and vegetables.List name of acids present in food, and vegetables.What to know about acidic foods?Good or bad acidic foods.Acidic foods how they can affect your teeth.Tips for limiting acidic foods.ภาพประกอบบทความ: ภาพปก, ภาพที่1-10/ผู้เขียนออกแบบภาพปก: canva&ผู้เขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !