ลุยลงทุน "Chanel" เปิด 48 สาขา ไม่หวั่นแม้เศรษฐกิจผันผวน l การตลาดเงินล้าน
ฟิลิปป์ บลอนดิออซ์ หัวหน้าฝ่ายการเงินกลุ่ม กล่าวกับรอยเตอร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าว่า Chanel ยังคงเดินหน้าต่อไปในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน โดยกลุ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกของการรักษาเสถียรภาพในจีนและฮ่องกง แต่กล่าวว่ายังเร็วเกินไปที่จะพูดว่าภูมิภาคนี้ได้พลิกกลับมาถึงจุดเปลี่ยนแล้ว ขณะที่การเจรจาเรื่องภาษีศุลกากรที่กำลังดำเนินอยู่ทำให้เกิดความไม่แน่นอนมากมาย
แม้ว่ายอดขายจะลดลงร้อยละ 4.3 เมื่อปีที่แล้ว แต่แบรนด์ฝรั่งเศสซึ่งโดดเด่นด้วยโลโก้ C ไขว้สองตัว และน้ำหอมรุ่นนัมเบอร์ไฟว์ เผยว่าบริษัทวางแผนที่จะยึดระดับการใช้จ่ายเงินทุนเช่นเดียวกับปีที่แล้วที่ 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 43 จากปี 2023
นอกจากนี้ บริษัทจะลงทุนมูลค่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในห่วงโซ่อุปทาน เนื่องจากจะนำการผลิตเข้าสู่ภายในประเทศ ซึ่งรวมถึงการซื้อหุ้นในซัพพลายเออร์ผ้าไหมในฝรั่งเศสและผู้ผลิตเครื่องประดับในอิตาลี
ยอดขายของ Chanel ในปีที่สิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคมอยู่ที่ 18,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะตกต่ำในประเทศจีน ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานลดลงร้อยละ 30
Chanel วางแผนที่จะเพิ่มร้านค้า 48 แห่งในปีนี้ โดยเกือบครึ่งหนึ่งอยู่ในสหรัฐฯ และจีน รวมถึงในเม็กซิโก อินเดีย และแคนาดาด้วย โดยจะมีร้านค้าใหม่เพียง 6 แห่งเท่านั้นที่เป็นร้านค้าแฟชั่น
ลีน่า แนร์ ซีอีโอทั่วโลกของกลุ่ม กล่าวว่า ความผันผวนทางเศรษฐกิจมหภาคและภูมิรัฐศาสตร์เป็นปัญหาท้าทายสำหรับธุรกิจอย่างไม่ต้องสงสัย และพบว่าเงื่อนไขเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อยอดขายในบางตลาด
แม้ Chanel ซึ่งปรับขึ้นราคาประมาณร้อยละ 3 เมื่อปีที่แล้วเพื่อให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อ อาจปรับขึ้นราคาอีกในปีนี้ตามอัตราเงินเฟ้อ โดยราคาทองคำที่สูงขึ้นอาจส่งผลให้ราคาเครื่องประดับต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้นด้วย
Chanel มีเจ้าของคือพี่น้องมหาเศรษฐีชาวฝรั่งเศส อเลน และ เจอร์ราล์ด เวอร์ไธม์เมอร์ เมื่อปีที่แล้ว ยอดขายของ LVMH ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าหรูหราที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 โดยตลาดสหรัฐฯ และยุโรป ช่วยชดเชยภาวะตกต่ำในเอเชีย ขณะที่ Hermes ซึ่งแซงหน้าคู่แข่ง มีการเติบโตเกือบร้อยละ 15 โดยการเติบโตในทุกภูมิภาค รวมถึงเอเชีย
กลุ่มสินค้าหรูหราต่างหวังว่าตลาดสหรัฐฯ จะช่วยพยุงภาคส่วนนี้ให้พ้นจากภาวะถดถอยในปีนี้ แต่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีศุลกากรได้ทำลายความหวังในการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยบริษัทที่ปรึกษาเบน ได้ปรับลดคาดการณ์ยอดขายของภาคส่วนนี้เหลือระหว่างร้อยละ 2 - 5 ในปีนี้