ปัจจุบันปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เป็นเรื่องที่ชาวโลกได้ให้ความสนใจกันมากยิ่งขึ้น เริ่มตระหนักถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต แต่เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ที่ถือว่าเป็นฝันร้ายสำหรับคนไทยหลายคน ทั้งเกิด PM 2.5, น้ำท่วม, แห้งแล้งหนัก, แผ่นดินไหว, สัตว์ตายด้วยพลาสติก และส่งท้ายปีด้วยเกิดลูกเห็บตก จึงทำให้หลายคน รวมทั้งประกอบการใหญ่ ๆ เริ่มมีการตื่นตัวเกี่ยวกับการจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการจัดการขยะให้ถูกวิธีมากยิ่งขึ้น ภาพประกอบบทความถ่ายโดยผู้เขียน หลาย ๆ องค์กร เน้นนำ 3R มาใช้แก้ปัญหาขยะเบื้องต้น ซึ่งหลักการ 3R ได้แก่ Reduce(ลดการใช้), Reuse(นำกลับมาใช้ซ้ำ) และ Recycle(สามารถแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่) ซึ่ง 3R ถือว่าเป็นหลักการที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง และมีประสิทธิภาพสูงที่จะช่วยลดขยะอย่างได้ผล แต่ก็มีอีกหลายปัจจัยที่แม้จะนำมาใช้ แต่ก็ช่วยลดปัญหาขยะในประเทศไทยไม่ได้มากเท่าที่คาดไว้ สาเหตุหลักเกิดจากมนุษย์ เพราะหลายคนยังคงเคยชินกับการใช้วิถีชีวิตแบบเดิม เช่น เผาฟาง เพื่อเตรียมทำการเกษตรครั้งต่อไป การไม่แยกขยะ ทิ้งขยะไม่ถูกที่ และรวมถึงการเผาขยะ เป็นต้น ภาพประกอบบทความจาก: freepik.com ทุกภาคส่วนของประเทศไทย เริ่มมีการรณรงค์และส่งเสริมการจัดการขยะให้ถูกวิธี แต่ยังคงมีจุดหนึ่งที่ยังคงมีปัญหาด้านขยะมากสุด การให้ความรู้ การร่วมมือในการที่จะดำเนินโครงการยังกระจัดกระจาย ไม่ได้เป็นระบบเท่าที่ควร จุดนี้คือ กรุงเทพฯ อาจจะเพราะจำนวนประชากรที่หนาแน่น หลากหลาย และชีวิตความเป็นอยู่มีแต่ความเร่งรีบ จึงทำให้ขาดการใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ไป แต่ผู้ว่าฯ อัศวิน ขวัญเมือง ท่านได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ โดยเมื่อวันที่ 14 มกราคม มีโพสต์จากเพจ ท่านผู้ว่าฯ อัศวิน ว่าท่านได้ร่วมมือกับโครงการ "วน" รับบริจาคถุงและฟิล์มพลาสติก ที่สะอาดและยืดได้มารีไซเคิล เพียงเก็บรวบรวมใส่กล่องบีบอัดให้แน่น แล้วนำส่งตามจุดรับของโครงการ หรือตามที่อยู่ไปรษณีย์ หรือสามารถดูรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมที่ เฟซบุค: wontogether สิ่งที่รับบริจาค อาทิ ถุงขนมปัง, ถุงน้ำแข็ง, ฟิล์มห่อทิชชู่, ฟิล์มหุ้มกล่องนม, ถุงหูหิ้ว, ถุงน้ำตาลทราย, พลาสติกกันกระแทก, ซองยา, ฟิล์มห่อผ้าอนามัย, ฟิล์มห่อผ้าอ้อม, ฟิล์มหุ้มขวดน้ำ, ซองไปรษณีย์พลาสติก เป็นต้น ภาพประกอบบทความโดยผู้เขียน โครงการดี ๆ ที่กทม.ร่วมกับโครงการวน คุณไม่เพียงเป็นผู้บริจาคเพื่อให้ทางโครงการวนนำไปรีไซเคิลเท่านั้น แต่คุณยังจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ เพราะทุก ๆ 1 กิโลกรัมที่คุณอัดส่งมา นั้นมีค่าเท่ากับ 5 บาท โดยเงินจำนวนดังกล่าวจะนำไปบริจาค ให้กับมูลนิธิสิ่งแวดล้อม รวมถึงจะนำเงินส่วนนี้ร่วมบริจาคช่วยเหลือกับเหตุการณ์ไฟป่าที่ออสเตรเลียด้วย กิจกรรมนี้ไม่ได้จัดให้เฉพาะแต่คนกรุงเทพเท่านั้น แต่ประชาชนทุกภูมิภาคก็สามารถร่วมบริจาคกันได้ อิเวิ่นเชื่อว่า หากเริ่มต้นใส่ใจสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากขึ้น ช่วยกันคนละไม้ละมือ ปัญหาขยะในประเทศไทยก็จะมีแนวโน้มที่จะลดลง เมื่อเกิดการร่วมมือกันทำสิ่งที่ดีต่อเพื่อนร่วมโลก สังคม ประเทศ และโลกของเราก็จะยิ่งน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากเพจ ผู้ว่าฯ อัศวิน หรือ @aswinkwanmuang