ดับเพิ่มอีกศพ! เซ่นโควิดฉะเชิงเทรา หลังปิดบ้านหนี ไม่ยอมให้สอบสวนโรค ก่อนสิ้นใจคาร้าน
โควิด : ดับเพิ่มอีกศพ! เซ่นโควิดฉะเชิงเทรา หลังปิดบ้านหนี ไม่ยอมให้สอบสวนโรค กลับมาจากพื้นที่เสี่ยง ก่อนสิ้นใจคาร้าน หามขึ้นเตารอเผา รอผล ก่อนยืนยันเป็นบวก
วันที่ 9 พ.ค.64 เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรา ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยจุดบางคล้า ให้นำชุดปฏิบัติการ (สก๊อต) ร่วมสนับสนุนเคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ พบประวัติสุ่มเสี่ยงสัมผัสผู้ที่ติดโควิด-19 ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.ปากน้ำ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา
เมื่อไปถึงพบว่าบ้านหลังดังกล่าวเปิดเป็นร้านขายอาหารสัตว์ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านได้ เนื่องจากมีสุนัข 2 ตัว นั่งเฝ้าศพอยู่ข้างๆ ขู่คำรามเมื่อเจ้าหน้าที่จะเดินเข้าไป ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยจุดบางคล้า ต้องประสานปศุสัตว์อำเภอบางคล้า ให้นำวัคซีนผสมยาสลบมายิงสุนัข ก่อนชุดปฏิบัติการที่สวมชุด PPE จะเข้าไปเก็บตัวอย่างผู้เสียชีวิตเพื่อหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนจะแพ็กศพด้วยถุงถึง 3 ชั้นและฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อตามขั้นตอน จากนั้นเคลื่อนย้ายออกมาด้านนอก แล้วน้ำไปฌาปนสถานวัดหัวสวน ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อรอผลการยืนยันตรวจหาเชื้อโควิด-19
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอบางคล้าได้เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตเป็นหญิง อายุ 42 ปี ลักษณะเป็นทอมบอย เป็นเสมียนประจำร้านขายอาหารสัตว์แห่งนี้ และพักอาศัยอยู่ภายในร้าน เจ้าหน้าที่สอบสวนโรคอำเภอได้รับการประสานข้อมูลมาจาก จ.สมุทรปราการ ว่าผู้เสียชีวิตและแฟนมีประวัติสุ่มเสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ หลังเดินทางไปร่วมงานศพพ่อของแฟนสาวที่ จ.สมุทรปราการ ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ พยายามเข้ามาบ้านหลังดังกล่าวเพื่อสอบสวนโรคถึง 2 ครั้ง แต่ผู้เสียชีวิตปิดบ้านเงียบไม่ยอมออกมาพบเจ้าหน้าที่
และจากการสอบถามเพื่อนบ้านก็ทราบว่า ช่วงพักหลังผู้เสียชีวิตจะไม่ออกมาจากบ้านพัก ใช้วิธีการตะโกนสั่งงานลูกน้อง หรือโทรศัพท์สั่งงาน โดยตัวเองจะอยู่แต่ภายในห้องพัก ซึ่งชาวบ้านก็รู้สึกแปลกใจถึงพฤติกรรม จนวันนี้ลูกน้องได้โทรศัพท์หาและเคาะประตูเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ ก็พบว่าเสียชีวิตดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทั่งเวลา 19.30 น. พระนพพร ฐนรโต พระลูกวัดหัวสวน ได้รับโทรศัพท์ยืนยันจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา ว่าผลตรวจเชื้อโควิด-19 ของผู้เสียชีวิตเป็นบวกให้เร่งดำเนินการเผาร่างทันที จึงได้ให้พระลูกวัดพร้อมสัปเหร่อกดไฟเผาศพ เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำร่างมารอไว้บนเชิงตะกอนตั้งแต่ช่วงบ่าย
ขณะที่เพื่อนของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนเพิ่งจะทราบเรื่องว่าเพื่อนเสียชีวิต จึงเดินทางไปทำเรื่องเอกสารการเสียชีวิตที่โรงพยาลบาล และติดต่อประสานงาน พ่อแม่ของเพื่อนที่อยู่ จ.ร้อยเอ็ด ให้เดินทางมารับกระดูกในช่วงเช้า ซึ่งช่วงหลังๆ นี้ไม่ค่อยได้เจอผู้เสียชีวิต เพราะผู้เสียชีวิตจะคลุกตัวอยู่กับแฟนสาว เท่าที่รู้ก็คือสองคนนี้เดินทางไปยัง จ.สมุทรปราการ เพื่อไปงานศพพ่อของแฟนสาว ขณะที่แฟนสาวได้ถูกกักตัว รอผลตรวจแล้ว
ด้าน นายไพโรจน์ บุญหิรัญ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา (ชุดสก๊อต) เปิดเผยว่า ตนได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยจุดบางคล้า ว่าพบศพผู้เสียชีวิตสุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการนี้เข้าไป ดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรค ก่อนจะเคลื่อนย้ายนำศพออกมาไว้ที่เชิงฌาปนสถานวัดหัวสวน
ตนอยากให้มีหน่วยงานที่รับเรื่องประสานงานโดยตรง เมื่อต้องมีการจัดการกับศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพราะวันนี้กว่าจะหาที่นำร่างผู้เสียชีวิตมาไว้ที่วัดได้ ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง เนื่องจากไม่มีหน่วยงานไหนสามารถระบุได้ ว่าต้องดำเนินการกับศพลักษณะนี้อย่างไร ตนและน้องๆ ต้องทนร้อนอยู่ในชุด PPE หลายชั่วโมง เนื่องจากยังไม่เสร็จสิ้นภารกิจ ไม่สามารถถอดออกได้ จึงอยากวอนให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐ เห็นใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ต้องเป็นด่านหน้าในการทำงานกับศพผู้เสียชีวิตเพราะโควิด จึงอยากให้มีการกำหนดทิศทางหรือสถานที่เฉพาะ เพื่อนำศพลักษณะนี้ไปเก็บรักษาไว้ รอผลตรวจยืนยันก่อนดำเนินตามขั้นตอนต่อไป