มวลน้ำจากโคราชถึงสุรินทร์แล้ว ต้นข้าวจมน้ำแล้วกว่าพันไร่!

วันนี้( 11 ต.ค.64) มวลน้ำจากจังหวัดนครราชสีมา ถึงจังหวัดสุรินทร์แล้ว ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจผลกระทบจากมวลน้ำที่กำลังไหลเข้าสู่เขตจังหวัดสุรินทร์ โดยเฉพาะพื้นที่เขตเทศบาลตำบลยะวึก และตำบลกระเบื้อง อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับลำน้ำมูล พบว่า นาข้าวของชาวบ้านที่กำลังออกรวงสวยงามถูกน้ำท่วมจมอยู่ใต้น้ำแล้วกว่าพันไร่ นอกจากนั้นยังมีพืชผลทางการเกษตรอื่นๆเช่น มันสำปะหลังก็ถูกน้ำท่วมด้วย 

ขณะที่สะพานมิตรภาพ บุรีรัมย์-สุรินทร์ ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่าง ตำบลกระเบื้องกับบ้านโรงเลื่อย อำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์ ที่ตีนสะพานฝั่งอำเภอสตึก น้ำมูลได้เอ่อท่วมถนนลาดยางเป็นระยะทางยาว เทศบาลสตึกต้องนำแผงกั้นแบริเออร์ มาตั้งเพื่อเตือนผู้ใช้เส้นทางดังกล่าว ขณะที่คนวัยหนุ่มสาวก็ได้พากันมาถ่ายภาพและลงเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานอีกด้วย

จากการสอบถามนางสาย ชาวบ้านงิ้ว ม.8 ต.ยะวึก อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งได้พาหลานๆออกมาเล่นน้ำที่เอ่อล้นท่วมถนนทางไปนา บอกว่า ตนพาหลานๆมาดูน้ำและให้เด็กๆได้เล่นน้ำกัน ซึ่งบริเวณที่ให้เด็กๆเล่น คือบนถนนที่น้ำเอ่อขึ้นมา ไม่ใช่น้ำไหลจึงไม่มีความเสี่ยงและอันตราย ระดับน้ำสูงเพียงแค่เข่า เมื่อวานตรงนี้ระดับน้ำยังไม่ขึ้นสูงขนาดนี้ พอมาดูวันนี้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นไวมาก คาดว่าถ้าระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นแบบนี้อีก 3-4 วัน คงจะถึงหมู่บ้านแน่นอน พื้นที่ตรงนี้เคยถูกน้ำจากลำน้ำมูลเอ่อท่วมหนักมาแล้วเมื่อปี 53 ปีนั้นท่วมเป็นวงกว้างจนถึงในหมู่บ้าน นาข้าวได้รับความเสียหายเยอะมาก

อย่างไรก็ตาม ขณะที่บริเวณสะพานวังทะลุ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีน้ำจากลำน้ำชีไหลมาประจบกับแม่น้ำมูล ที่หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ที่ต้องรับน้ำที่ไหลต่อจากเขตพื้นที่อำเภอชุมพลบุรี ตอนนี้ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นจนล้นตลิ่งมาชนกับคันกั้นน้ำ และบางจุดน้ำไหลทะลักเข้าท่วมนาข้าวชาวบ้านเป็นบริเวณกว้างแล้ว 

นอกจากนั้นที่บริเวณศาลปู่ตา ซึ่งเป็นสถานที่ใช้จัดกิจกรรมในพิธีบวชนาคช้างก็ถูกน้ำท่วมสูงถึงศาลและศาลาพักแล้วและยังคงมีระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง

ข้อมูลจาก ผู้สื่อข่าวจังหวัดสุรินทร์

ภาพจาก ผู้สื่อข่าวจังหวัดสุรินทร์