รีเซต

“จุลพันธ์”เผย 6 ชม.แรก นับจาก 8.00 น.วันนี้ ยอดลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตพุ่ง 10.5 ล้านคน

“จุลพันธ์”เผย 6 ชม.แรก นับจาก 8.00 น.วันนี้ ยอดลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตพุ่ง 10.5 ล้านคน
ทันหุ้น
1 สิงหาคม 2567 ( 15:38 )
28

“จุลพันธ์”เผย 6 ชม.แรก นับจาก 8.00 น.วันนี้ ยอดลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตพุ่ง 10.5 ล้านคน ถือว่า เกินเป้าหมายที่คาดไว้ แต่ต้องรอการตรวจสอบสิทธิ์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะประกาศผลพร้อมกันในวันที่ 22 ก.ย.นี้ ขณะที่ สถาบันการเงินตอบรับเข้าร่วมโครงการแล้ว 14 ราย

 

#ทันหุ้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลเปิดลงทะเบียนโครงการดิจิทัล วอลเล็ตผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ ในวันแรก(1 ส.ค.) ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ในระยะเวลาเพียง 6 ชั่วโมง มีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 10.5ล้านคน หรือคิดเป็น 20%ของยอดลงทะเบียนทั้งหมดที่คาดไว้ 45 ล้านคน ซึ่งถือว่าดำเนินการได้เกินเป้าหมายที่วางไว้ และนับเป็นก้าวแรกที่ดีของโครงการ

 

“ในช่วง 5 นาทีแรกที่เราเปิดให้ลงทะเบียน มียอดลงทะเบียนเข้ามาเป็นล้านคน และใน 1 ชั่วโมงแรกมียอดลงทะเบียนเข้ามากว่า 2 ล้านคน ถือว่า เข้ามาจำนวนมาก ก็ยอมรับว่า มีปัญหาเรื่องความล่าช้าบ้าง แต่ยืนยันระบบเราไม่ล่ม ทั้งนี้ การลงทะเบียนดังกล่าวจะมีถึงวันที่ 15กันยายน 2567 จึงขอให้ประชาชนทยอยมาลงทะเบียน เพราะไม่ได้หมายความว่า ใครลงก่อนได้ก่อน แต่รัฐบาลจะให้ทุกคนที่ได้รับสิทธิ์”

 

ทั้งนี้ รัฐบาลได้ตั้งวอรูมขึ้นมาเพื่อรองรับกรณีเกิดปัญหาการลงทะเบียน ขณะที่ ระบบการลงทะเบียนที่เราใช้นั้น ถือว่า มีระบป้องกันการโจมตี สามารถรักษาความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี โดยเรามีทีมดูแลที่มาจากต่างประเทศ เพื่อช่วยเฝ้าระวังกรณีที่จะเกิดปัญหาด้วย

 

นอกจากนี้ รัฐบาลได้เปิดช่องทางบริการให้สอบถามเรื่องการลงทะเบียนทั้งทางสถาบันการเงินของรัฐ เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)ซึ่งมีคนเข้าไปรับคำปรึกษาให้ช่วยลงทะเบียนจำนวนมาก รวมถึง สายด่วนเบอร์ 111 ที่มี 400-500 คู่สายรองรับไม่ต่ำกว่า 20,000 สายในแต่ละวัน

 

สำหรับขั้นตอนหลังจากการลงทะเบียนของประชาชน แอปฯทางรัฐจะส่งข้อมูลของผู้ลงทะเบียนไปยังเจ้าของข้อมูล เพื่อให้ตรวจสอบคุณสมบัติว่าได้สิทธิหรือไม่ ซึ่งจะประกาศผลผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐในวันที่ 22 กันยายน 2567 โดยหากว่า มีผู้ได้รับสิทธิ์เกินกว่า 45 ล้านคน รัฐบาลก็พร้อมจัดสรรงบประมาณเข้าไปรองรับ

 

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า จะมีประชาชนขอย้ายทะเบียนบ้านจากต่างจังหวัดเข้ามาอยู่ในเขตเมือง โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร จะทำให้ไม่บรรลุวัตถุประสงค์โครงการที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค เขากล่าวว่า หากใครตัดสินใจย้ายทะเบียนบ้านสามารถทำได้ แต่ในเบื้องต้นไม่อยากให้ใครย้ายทะเบียนบ้าน เพราะจะกระทบรายได้ในพื้นที่นั้น ซึ่งเชื่อว่า จะเกิดการโยกย้ายทะเบียนบ้านในหลักหมื่นคนเท่านั้น

 

“ยอมรับว่า ถ้ามีการย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาในเขตเมืองกันจำนวนมาก การใช้จ่ายก็จะไม่ตอบโจทย์ที่เราวางไว้ แต่เราก็ไม่เชื่อว่า คนจะย้ายทะเบียนบ้านกันจำนวนมาก ซึ่งถ้าย้ายในหลักหมื่นคน คงไม่ถึง 10-20 ล้านคน ดังนั้น ก็ไม่มีนัยยะต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น”

 

ทั้งนี้ รัฐบาลกำหนดระยะเวลาการใช้จ่ายสำหรับประชาชนว่า จะต้องใช้จ่ายครั้งแรกภายใน 6เดือน ดังนั้น จะคลอบคลุมระยะเวลาการใช้จ่ายถึง 2 เทศกาลใหญ่ คือ เทศกาลปีใหม่ และเทศกาลสงกรานต์ปี 2568ซึ่งมีโอกาสที่ประชาชนจะกลับไปบ้านเพื่อไปใช้จ่ายเงิน

 

เขากล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ รัฐบาลจะแถลงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการนี้อีกจำนวน 2ครั้ง คือ 1.การลงทะเบียนในกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน จะมีการแถลงอย่างเป็นทางการวันที่ 10-15 ก.ย.นี้ และจะมีการระบุว่าหน่วยงานไหนบ้างที่รับลงทะเบียน และ 2.จะแถลงประกาศวันที่จะมีการใช้จ่าย ซึ่งเหตุที่เรายังไม่กำหนด เพราะอาจจะมีการปรับระยะเวลาช้าหรือเร็วขึ้น โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการทดสองระบบการใช้จ่าย

 

 

ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่ากากระทรวงการคลัง กล่าวว่า วันนี้กระทรวงการคลังได้นัดผู้ประกอบการธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ รวมถึงกลุ่มนอนแบงก์ ผู้ให้บริหารวอลเล็ตต่างๆ มาหารือเกี่ยวกับการเชื่อมระบบการใช้จ่าย (Open Loop) ในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต โดยก่อนหน้าทางอนุกรรมการกำกับโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ได้ส่งหนังสือเชิญผู้ประกอบการธนาคาร และนอนแบงก์ เข้าร่วมเชื่อระบบจ่ายเงินดิจิทัลไปแล้ว ซึ่งล่าสุดผู้ประกอบการตอบรับให้ความสนใจเข้าร่วมแล้ว 14ราย

 

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ ธนาคารและนอนแบงก์ ยังมีเวลาพิจารณาและตอบรับการเชื่อมระบบใช้จ่ายโครงการดิจิทัล วอลเล็ตได้ถึง วันที่ 15 สิงหาคมนี้ ดังนั้น หลังจากวันที่ 15 สิงหาคม จึงทราบได้ว่ามีผู้ประกอบการรายใดเข้าร่วมเชื่อมระบบบ้าง

 

ขณะเดียวกัน หากผู้ประกอบรายใด แสดงความสนใจเข้าร่วมแล้ว จะต้องทำหนังสือถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อให้สอบทานการเชื่อมระบบการใช้จ่ายของสถาบันการเงินกับโครงการดิจิทัลด้วย

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง