“คุณอยากเก่งแค่ไหน?” นี่คือคำถามที่หนังสือ It’s Not How Good You Are, It’s How Good You Want To Be โดย Paul Arden ฝากไว้ตั้งแต่แรกเห็นชื่อหนังสือ หนังสือเล่มนี้ท้าทายกรอบความคิดเดิม ๆ ที่เรามักถูกปลูกฝังมาตลอดว่า “เราต้องเก่งขึ้นในทุกด้าน” หรือ “เราต้องทำให้ดีที่สุดในสิ่งที่ทำ” แต่ Paul Arden กลับมองต่างออกไป เขาเชื่อว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ความเก่งในปัจจุบัน แต่เป็นความทะเยอทะยานและแรงผลักดันที่จะเก่งขึ้นในอนาคต พลิกมุมมองความสำเร็จด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่ก้าวข้ามอดีต หนังสือเล่มนี้เน้นให้ผู้อ่านมองไปข้างหน้า เพราะความสำเร็จในอดีตเป็นเพียงประวัติศาสตร์ สิ่งที่สำคัญคือความคิดสร้างสรรค์ที่เราจะนำมาใช้เพื่อสร้างอนาคต "งานที่ดีที่สุดของคุณยังไม่เกิดขึ้น" นี่คือหนึ่งในคำแนะนำสำคัญของ Paul Arden ที่กระตุ้นให้เราก้าวข้ามข้อจำกัดเดิม ๆ หนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยคำแนะนำที่ใช้งานได้จริง โดยเน้นที่การรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง การขอคำวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ และการมองความผิดพลาดเป็นโอกาสในการเติบโต สิ่งเหล่านี้ช่วยเสริมความมั่นใจและสร้างมุมมองใหม่ให้กับชีวิต มุมมองและความคิดใหม่ที่ได้จากหนังสือ การเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นที่ความคิด Paul Arden ชี้ให้เห็นว่าความสำเร็จในอดีตเป็นสิ่งที่ผ่านไปแล้ว แต่สิ่งที่กำหนดอนาคตคือวิธีคิดในปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะเก่งมากแค่ไหนในวันนี้ ความเก่งนั้นก็ไม่มีความหมายหากคุณไม่ใช้มันเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายใหม่ ๆ สร้างความประทับใจที่ยากจะลืม ในยุคที่ทุกคนแข่งขันกันเพื่อความสนใจ การสร้างความแตกต่างคือหัวใจสำคัญ Paul Arden แนะนำว่าในการนำเสนอหรือแสดงตัวเอง เราไม่ควรพูดถึงแค่ความสามารถของเรา แต่ควรพูดถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่นที่เรามีต่อเป้าหมาย การสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นจดจำเราคือสิ่งที่มีพลังมากที่สุด ความผิดพลาดคือเครื่องมือสร้างความสำเร็จ ความผิดพลาดไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ของความล้มเหลว แต่คือกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จในอนาคต Paul Arden เชื่อว่าการกล้าลองผิดลองถูกและการยอมรับว่าตัวเองอาจไม่ถูกเสมอ จะช่วยให้เราพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆ ที่สร้างสรรค์และแตกต่าง อย่ามองหาคำชม แต่จงมองหาคำวิจารณ์ การขอคำวิจารณ์จากผู้อื่นไม่ใช่การแสดงถึงความอ่อนแอ แต่เป็นการเปิดโอกาสให้เราเห็นจุดที่ต้องปรับปรุง คำชมอาจทำให้เรารู้สึกดีในช่วงเวลาหนึ่ง แต่คำวิจารณ์จะผลักดันเราให้เติบโตขึ้นในระยะยาว ความทะเยอทะยานเหนือกว่าความสามารถ สิ่งที่ทำให้คนประสบความสำเร็จไม่ใช่แค่ความเก่งหรือพรสวรรค์ แต่คือความทะเยอทะยานและความกล้าที่จะมองไกลเกินขีดจำกัด จุดเด่นที่ทำให้หนังสือเล่มนี้น่าสนใจ หนึ่งในจุดเด่นของหนังสือเล่มนี้คือการออกแบบหน้าเนื้อหาที่ไม่เหมือนใคร ด้วยฟอนต์ที่หลากหลาย ภาพประกอบที่โดดเด่น และการแบ่งเนื้อหาเป็นส่วนสั้น ๆ ทำให้หนังสือเล่มนี้อ่านง่ายและเหมาะกับคนที่อาจมีเวลาน้อย Paul Arden ยังสอดแทรกกรณีศึกษาจากวงการโฆษณาและความคิดสร้างสรรค์ของเขา ซึ่งช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจมุมมองและแนวคิดได้ชัดเจนขึ้น แม้เนื้อหาหลักจะเกี่ยวข้องกับวงการโฆษณาและการตลาด แต่คำแนะนำเหล่านี้สามารถปรับใช้ได้กับทุกอาชีพและทุกช่วงชีวิต ข้อคิดสำคัญที่ได้จากการอ่าน "การพยายามอย่างเต็มที่ไม่ได้หมายถึงการทำทุกอย่างให้ถูกต้อง แต่คือการทำในสิ่งที่คุณกล้าลองผิดเพื่อสร้างสิ่งใหม่" Paul Arden ชี้ว่าเราควรกล้าที่จะลองและล้มเหลว เพื่อค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่แปลกใหม่และดีกว่าเดิม "อย่าจำกัดความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองด้วยการยึดติดกับความถูกต้อง" เขาแนะนำว่า การยืนยันในสิ่งที่เราเคยคิดว่าถูกต้องอาจเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา ความคิดสร้างสรรค์เกิดจากการมองข้ามสิ่งที่เรารู้อยู่แล้ว "เป้าหมายที่ชัดเจนคือแสงสว่างที่นำทาง" การรู้ว่าเราต้องการอะไรในชีวิตช่วยให้เรามีแรงผลักดันในการพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง หนังสือที่ทุกคนควรลองอ่าน It’s Not How Good You Are, It’s How Good You Want To Be ไม่ใช่แค่หนังสือพัฒนาตนเองทั่วไป แต่เป็นคู่มือที่ช่วยเปลี่ยนมุมมองชีวิตและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ในตัวคุณ ไม่ว่าคุณจะทำงานในสายงานออกแบบหรือสายอาชีพที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์หรือไม่ คำแนะนำและข้อคิดจากหนังสือเล่มนี้สามารถนำไปปรับใช้ได้ในทุกด้านของชีวิต หากคุณกำลังเผชิญกับความสงสัยในตัวเองหรือกำลังมองหาแรงบันดาลใจเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม หนังสือเล่มนี้อาจเป็นตัวช่วยที่คุณต้องการ คำถามสำคัญที่หนังสือเล่มนี้ฝากไว้คือ “คุณอยากเก่งแค่ไหน?” และคำตอบนั้นอยู่ที่ตัวคุณเองเท่านั้น ภาพทั้งหมดโดย ผู้เขียน เขียนโดย ตานิ้ง Facebook Instagram TikTok เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !