การเมืองสุจริต คือกุญแจเศรษฐกิจใหม่ “อภิสิทธิ์” ชี้เลือกตั้งต้องไม่เสียโอกาส

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ TNN ว่า ทิศทางเศรษฐกิจของโลกกำลังเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่เงื่อนไขสำคัญที่สุดของประเทศไทย คือ การมีระบบการเมืองที่สุจริต หากยังขาดความโปร่งใส การบังคับใช้กฎหมายไม่เสมอภาค นักลงทุนย่อมไม่เชื่อมั่น แม้จะแก้กติกาหรือออกนโยบายใหม่ก็ตาม

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า หากยังปล่อยให้ทุนสีเทาและเงินผิดกฎหมายเข้ามาแทนที่เงินดี ความไม่ไว้วางใจจะเกิดขึ้นทั้งในสังคมไทยและจากต่างประเทศ พรรคประชาธิปัตย์จึงกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่าน 3 เครื่องยนต์หลัก ได้แก่ เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว และการยกระดับภาคเกษตรควบคู่ภาคบริการ ซึ่งเป็นภาคส่วนที่คนไทยสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้สูง

ในภาคเกษตร พรรคมีแนวคิดผลักดันเกษตรอัจฉริยะ หรือ Smart Farming เพื่อให้เกษตรกรทุกขนาดสามารถปรับตัวเข้าสู่ระบบการผลิตสมัยใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพและรายได้ พร้อมต่อยอดสินค้าเกษตรและผลไม้ไทยให้มีมูลค่าเพิ่มในตลาดโลก ขณะที่ภาคบริการและการท่องเที่ยว พรรคมองไปสู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงภูมิปัญญาท้องถิ่น สอดคล้องกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่

นายอภิสิทธิ์ ยังมองว่าบทบาทของรัฐต้องเปลี่ยนจากผู้ควบคุม มาเป็นผู้อำนวยความสะดวก หนึ่งในเครื่องมือสำคัญคือ “ข้อมูลภาครัฐ” ที่ควรถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างเป็นระบบ พรรคจึงมีแนวคิดผลักดันกฎหมายแม่บท เพื่อเปิดให้ข้อมูลของรัฐสามารถแลกเปลี่ยนและนำไปใช้ได้ โดยไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ การศึกษา และนโยบายสาธารณะ

เมื่อกล่าวถึงบริบทการเมืองปัจจุบัน นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า แม้เวลาจะผ่านมากว่าทศวรรษ แต่หลายปัญหายังวนซ้ำเดิม จึงอยากเชิญชวนประชาชนใช้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญ เลือกอนาคตของประเทศอย่างจริงจัง เพราะประเทศไทยกำลังเผชิญทั้งปัญหาเฉพาะหน้า เช่น ความมั่นคงตามแนวชายแดน และปัญหาเชิงโครงสร้างจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำ ซึ่งทำให้ประเทศถูกแซงและถูกทิ้งห่างมากขึ้น

สำหรับการตัดสินใจกลับมานำพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เกิดจากความผูกพันกับพรรคและความเชื่อว่าพรรคยังเป็นสถาบันทางการเมืองที่สมาชิกมีความเสมอภาค พร้อมยอมรับว่าก่อนกลับมาได้พบประชาชนจำนวนมากที่เหนื่อยและหมดศรัทธากับการเมือง พรรคประชาธิปัตย์จึงตั้งใจฉายภาพอนาคตประเทศให้ชัด และยืนยันการขับเคลื่อนด้วยการเมืองสุจริต

ในส่วนการเตรียมความพร้อมเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ครบ 33 เขตในกรุงเทพมหานครว่า เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย และเป็นพื้นที่ที่สามารถดำเนินการได้รวดเร็ว ขณะที่อีกกว่า 300 เขตทั่วประเทศ จะทยอยแล้วเสร็จตามกรอบเวลา พร้อมย้ำว่าพรรคกำลังอยู่ในช่วงปรับตัว เปิดรับแนวคิดคนรุ่นใหม่ และพัฒนานโยบายจากการรับฟังภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคม