‘อนุทิน’ เผยอย่าตกใจ ตัวเลขคลัสเตอร์ตม.บางเขน ป่วย 'โควิด' พุ่ง ยันไม่ใช่ระลอก3
‘อนุทิน’ ระบุอย่าตกใจ ตัวเลขคลัสเตอร์ตม.บางเขนติด 'โควิด' พุ่ง ยืนยันไม่ใช่ระลอก3 แค่คลัสเตอร์เท่านั้น ไม่กระจาย คาดให้อยู่รพ.สนาม 10 วัน
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 23 มี.ค.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการประสานงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการตั้งโรงพยาบาลสนาม ที่สโมสรตำรวจถนนวิภาวดี ว่า ทางพล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) โทรศัพท์พูดคุยกับตนหลายวันแล้ว และได้เตรียมความพร้อมการสร้างโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ที่ติดเชื้อที่ลักลอบเข้าเมืองมา ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุม และเป็นสิ่งที่ได้เตรียมการบริหารจัดการเป็นอย่างดี
โรงพยาบาลสนามสามารถเกิดขึ้นมาได้ด้วยในระยะเวลาอันสั้น เชื่อว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีโรงพยาบาลตำรวจ และมีแพทย์ตำรวจ ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขหากมีการร้องขอสิ่งใดมา เราก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุน เบื้องต้นให้การแนะนำไปในเรื่องของแนวทางต่างๆ ว่า ควรจะปฏิบัติต่อผู้ที่เรานำเขามารักษาในโรงพยาบาลสนามนั้นอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่เมื่อประชาชนทั่วไปเห็นตัวเลขรายวันที่เพิ่มขึ้นแล้วก็รู้สึกตกใจ นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนใหญ่คนเหล่านี้ไม่แสดงอาการ ดังนั้นเมื่อเจอตัวเขาก็ต้องนำมารับการรักษาในโรงพยาบาลสนาม ถือเป็นการควบคุมโรคที่ปลอดภัยที่สุด
บุคคลเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นคนในวัยทำงาน อายุไม่มาก เมื่อไม่แสดงอาการเราก็ต้องใช้เวลาเป็นตัวรักษา เพราะถ้าไม่แสดงอาการเลยก็ไม่ต้องให้ยาฟาวิพิราเวีย แล้ว 10 วันเขาก็จะหายเอง โควิด-19 ก็เป็นอย่างนี้ มีส่วนที่แรง ส่วนที่เมื่อครบ 10 วันแล้วก็จากไปดื้อๆ
เมื่อถามว่า มีการทำความเข้าใจกับประชาชนที่อยู่โดยรอบสโมสรตำรวจอย่างไรหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โรงพยาบาลสนามอยู่ภายในสโมสรตำรวจมีรั้วรอบขอบชิด และรอบข้างก็ไม่ได้มีชุมชนแต่อย่างใด ดังนั้นไม่ต้องกังวล และที่สำคัญบุคคลที่มารับการรักษานั้นไม่แสดงอาการ เพราะถ้ามีอาการเมื่อไหร่ ต่อให้เป็นคนต่างชาติเราก็ต้องส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลัก เพื่อให้ได้รับการรักษาตามขั้นตอนทางการแพทย์ ตามความซับซ้อนของโรค ดังนั้นขอให้สบายใจในเรื่องนี้ได้
กรมควบคุมโรคอยู่กับสิ่งเหล่านี้มานานปีครึ่งแล้ว และคิดถึงความปลอดภัยของประชาชนภายในประเทศเป็นหลัก และหากผ่านไปสองถึงสามสัปดาห์ก็ยิ่งไม่ต้องกังวลใจ เพราะอุปกรณ์ด่านหน้าทางการแพทย์ได้รับวัคซีนอย่างเต็มที่ สามารถเข้าไปให้การดูแลใกล้ชิดในพื้นที่เสี่ยงได้มากเพิ่มยิ่งขึ้น เป็นขั้นตอนเป็นวิธีการที่เมื่อไม่มีวัคซีนก็อีกอย่างนึง แต่เมื่อมีวัคซีนแล้วก็อีกอย่างหนึ่ง รวมถึงความพร้อมในเรื่องยา เรื่องการตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อเก็บโรงพยาบาลหลักเอาไว้ ใช้เมื่อจำเป็น