"เฟอร์เรโร" ซื้อกิจการ "เคลล็อก" 3.1 พันล้านดอลลาร์

บริษัท WK Kellogg ผู้ผลิตซีเรียลแบรนด์ดังอย่าง Froot Loops และ Frosted Flakes ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ได้ตกลงขายกิจการให้แก่กลุ่ม Ferrero จากอิตาลี ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Nutella และ Tic Tac ในมูลค่าราว 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 114,000 ล้านบาท โดยคาดว่าการซื้อขายจะเสร็จสมบูรณ์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025

ดีลดังกล่าวนับเป็นการเข้าซื้อกิจการครั้งใหญ่ที่สุดของ Ferrero นับตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามของบริษัทในการขยายธุรกิจนอกเหนือจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีโกโก้เป็นหลัก ไปสู่ตลาดอาหารเช้าสำเร็จรูปที่มีกำไรสูง และมีฐานลูกค้าในสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง

การควบรวมกิจการครั้งนี้จะทำให้แบรนด์สินค้าชั้นนำอย่าง Nutella, Kinder, Tic Tac, Froot Loops, Frosted Flakes และ Special K อยู่ภายใต้กลุ่มเดียวกัน เพิ่มศักยภาพในการจัดจำหน่าย นวัตกรรมสินค้า และพื้นที่บนชั้นวางในซูเปอร์มาร์เก็ตสหรัฐฯ

นักวิเคราะห์มองว่าดีลนี้ให้ความได้เปรียบด้านกลยุทธ์แก่ Ferrero ในการเข้าสู่ตลาดซีเรียลอาหารเช้า โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมอาหารบรรจุแพ็กในสหรัฐฯ กำลังเผชิญแรงกดดันจากผู้บริโภคที่หันไปหาสินค้าเพื่อสุขภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันราคาต้นทุนวัตถุดิบ เช่น โกโก้ ก็พุ่งสูงในปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมช็อกโกแลตทั่วโลก

ราคาหุ้นของ WK Kellogg พุ่งขึ้นกว่าร้อยละ 30 แตะระดับ 22.85 ดอลลาร์ต่อหุ้น หลังจากการประกาศข่าวการซื้อกิจการ ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อมูลค่าและแนวโน้มในอนาคตของบริษัทภายใต้การบริหารของ Ferrero

ขณะเดียวกัน บริษัท Kellanova ซึ่งแยกตัวออกจาก Kellogg Company พร้อมกับ WK Kellogg ก็กำลังอยู่ในกระบวนการขายกิจการให้แก่ Mars บริษัทลูกกวาดยักษ์ใหญ่ ในมูลค่าราว 36 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มแรงกระเพื่อมในอุตสาหกรรมอาหารและของว่างระดับโลก

ด้าน Ferrero เองยังคงเดินหน้ากลยุทธ์เติบโตผ่านการซื้อกิจการ โดยก่อนหน้านี้เคยเข้าซื้อธุรกิจขนมของ Nestlé ในสหรัฐฯ มูลค่า 2.8 พันล้านดอลลาร์ และล่าสุดรายงานยอดขายประจำปีงบประมาณล่าสุดสูงถึง 18.4 พันล้านยูโร (หนึ่งหมื่น แปดพัน สี่ร้อยล้านยูโร) หรือราว 699,868 ล้านบาท พร้อมทั้งประกาศเพิ่มการลงทุนเพื่อเสริมกำลังการผลิตและขยายไลน์สินค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น

การรวมพลังของสองแบรนด์ใหญ่ในครั้งนี้จึงไม่เพียงสะท้อนถึงการปรับตัวท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป แต่ยังสะท้อนแนวโน้มการควบรวมกิจการในอุตสาหกรรมอาหารที่กลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วงหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19