รีเซต

พาณิชย์ฟุ้ง ปี’63 ไทยยังเนื้อหอมต่างชาติหอบเงินลงทุนโครงการรัฐหมื่นล้าน

พาณิชย์ฟุ้ง ปี’63 ไทยยังเนื้อหอมต่างชาติหอบเงินลงทุนโครงการรัฐหมื่นล้าน
ข่าวสด
9 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:39 )
40

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี 2563 ที่ผ่านมา ไทยมีนักลงทุนชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ต่างด้าวฯ) จำนวนทั้งสิ้น 252 ราย มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปี 2562 จำนวน 35 ราย โดยปี 2562 นักลงทุน จำนวน 217 รายหรือเพิ่มขึ้น 16.13% ขณะที่การจ้างงานในปี 2563 มีจำนวน 10,991 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 จำนวน 6,162 ราย หรือเพิ่มขึ้น 127% โดยปี 2562 จ้างงานคนไทย 4,829 คน

 

โดยประเทศญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนสูงสุด จำนวน 92 รายคิดเป็น 36% รองลงมา คือ สิงคโปร์ จำนวน 38 ราย คิดเป็น 15% อันดับ 3 คือเนเธอร์แลนด์และฮ่องกง ที่มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนจำนวนเท่ากัน 17 ราย คิดเป็น 17% อันดับที่ 4 คือ เกาหลีใต้ จำนวน 10 ราย คิดเป็น 4% และอื่นๆ จำนวน 78 ราย คิดเป็น 31% มูลค่าเงินลงทุน 10,653 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 ที่มีการลงทุนประมาณ 23,337 ล้านบาท เป็นการลดลงกว่า 1 หมื่นล้านบาทหรือ 50% เนื่องจากในปี 2562 นักลงทุนสนใจลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ เช่น รถไฟฟ้า โครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่มีเงินลงทุนสูง แต่อย่างไรก็ตามจำนวนของนักลงทุนยังเพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยยังได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติ แม้ทั่วโลกจะมีการรระบาดของโควิด-19 ก็ตาม

 

อย่างไรก็ตาม ในภาพรวม ธุรกิจบริการที่นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนและมีมูลค่าการลงทุนสูงจะเป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดยเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศรวมถึง ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (S-Curve) อย่างอุตสาหกรรมดิจิตอลที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2543-2563 หรือ 21 ปีที่ผ่านมา ไทยมีนักลงทุนชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศ ภายใต้ พ.ร.บ.ต่างด้าวฯ จำนวนทั้งสิ้น 5,824 ราย เงินลงทุนรวมกว่า 323,779 ล้านบาท โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนมากที่สุดคือ ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 2,240 ราย คิดเป็น 38% รองลงมา คือ สิงคโปร์ จำนวน 872 ราย คิดเป็น 15% อันดับ 3 คือ ฮ่องกง จำนวน 311 ราย คิดเป็น 6% อันดับที่ 4 คือ เยอรมนี จำนวน 294 ราย คิดเป็น 5% อันดับที่ 5 คือ เนเธอร์แลนด์ จำนวน 258 ราย คิดเป็น 4% และอื่น ๆ จำนวน 1,846 ราย คิดเป็น 32%

 

สำหรับประเภทธุรกิจที่นักลงทุนชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนมากที่สุด คือ ธุรกิจบริการเป็นสำนักงานผู้แทน/ภูมิภาค จำนวน 1,481 ราย คิดเป็น 26% รองลงมา คือ ธุรกิจนายหน้า/ค้าปลีก/ค้าส่ง จำนวน 650 ราย คิดเป็น 11% อันดับ 3 ธุรกิจบริการเป็นคู่สัญญาภาครัฐ/เอกชน จำนวน 613 ราย คิดเป็น 11% และ บริการอื่นๆ จำนวน 3,080 ราย คิดเป็น 53%

 

อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่า ปี 2564 นี้ ชาวต่างชาติยังคงเดินทางเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความท้าทายและเศรษฐกิจที่ผันผวนทั่วโลก โดยธุรกิจที่นักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาลงทุนและคาดว่าจะเติบโตนั้นจะสอดคล้องกับความต้องการของตลาดและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค ในยุคนิวนอร์มัล ที่ทำให้ธุรกิจด้านดิจิตอล โดยเฉพาะธุรกิจด้านอีคอมเมิร์ซ ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง