ทรัมป์ไม่กังวลจีนซ้อมรบรอบไต้หวัน กล่าวจีนทำมานานกว่า 20 ปีแล้ว

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวว่าเขา “ไม่รู้สึกกังวล” เกี่ยวกับการซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่ของจีนรอบไต้หวัน ก่อนช่วงสิ้นปีที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ แม้ว่ารัฐบาลไต้หวันจะออกมาประณามและมองว่าจีนกำลังซักซ้อมเพื่อปิดล้อมรอบเกาะไต้หวันอยู่ก็ตาม

ทรัมป์กล่าวต่อผู้สื่อข่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (29 ธันวาคม) ว่าเขามีความสัมพันธ์อันดีกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีสีก็ไม่ได้บอกเขาเกี่ยวกับแผนการซ้อมรบนี้ แต่ทรัมป์กล่าวว่าเขารับรู้ถึงการมีอยู่ของมันและไม่ได้รู้สึกเป็นกังวลแต่อย่างใด ทรัมป์กล่าวด้วยว่าจีนมีการซ้อมรบทางทะเลมานานกว่า 20 ปีในพื้นที่รอบไต้หวัน ซึ่งทรัมป์กล่าวเพิ่มเติมว่า แต่ในตอนนี้ผู้คนมองเรื่องนี้ไปในมุมที่ต่างออกไปเล็กน้อย

การซ้อมรบของจีนรอบไต้หวันครั้งนี้จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน โดยเริ่มตั้งแต่เมื่อวานนี้ (29 ธันวาคม) เป็นต้นไป และการซ้อมรบนี้ยังเกิดขึ้น 2 สัปดาห์หลังจากสหรัฐฯ ประกาศดีลซื้อขายอาวุธกับไต้หวันด้วยมูลค่าที่มากที่สุดที่เคยมีร่วมกัน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับจีน ที่ยืนยันมาตลอดว่าไต้หวันคือหนึ่งในดินแดนของจีน

ขณะที่ในวันนี้ (30 ธันวาคม) กองทัพจีนจะมีการซักซ้อมยิงด้วยกระสุนจริงเป็นเวลา 10 ชั่วโมง ทั้งในทะเลและน่านฟ้า 5 จุดที่อยู่รอบไต้หวัน โดยกองบัญชาการภาคตะวันออกซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ช่องแคบไต้หวัน กล่าวว่า ได้จัดกำลังเรือพิฆาต เรือฟริเกต และเครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิด เพื่อทดสอบการประสานงานระหว่างทะเลกับอากาศและขีดความสามารถในการปิดล้อมแบบบูรณาการของกองทัพจีน

เป็นเหตุให้เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ กระทรวงกลาโหมไต้หวันออกมายืนยันว่าสามารถตรวจจับเครื่องบินของกองทัพจีนได้กว่า 130 ลำ รอบไต้หวัน โดย 90 ลำในจำนวนนี้ได้ข้ามเส้น “Median line” ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตอย่างไม่เป็นทางการกั้นพรมแดนจีนและไต้หวัน ที่ฝั่งจีนปฏิเสธการมีอยู่ของเส้นนี้มาตลอด นอกจากนี้กระทรวงกลาโหมไต้หวันยังตรวจพบเรือรบของกองทัพจีนหลายสิบลำใกล้ไต้หวัน จึงได้มีการส่งเครื่องบินรบ เรือ และ ระบบขีปนาวุธชายฝั่ง เตรียมความพร้อมเพื่อเป็นการตอบโต้ความเคลื่อนไหวทางทหารจากฝั่งจีน

ด้านทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันวิจารณ์การซ้อมรบของจีน โดยเรียกว่าเป็นการท้าทายต่อบรรทัดฐานระหว่างประเทศ เช่นเดียวกับที่ประธานาธิบดี ไล ชิงเต๋อ ของไต้หวัน ที่กล่าวว่าการที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนยกระดับแรงกดดันทางทหารเป็นสิ่งที่มหาอำนาจที่มีความรับผิดชอบไม่ควรกระทำ เขากล่าวด้วยว่าไต้หวันจะกระทำการที่มีความรับผิดชอบเพื่อไม่ให้ความขัดแย้งยิ่งทวีความรุนแรง แต่กองทัพไต้หวันและหน่วยงานความมั่นคงจะปฏิบัติงานอย่างเต็มที่เพื่อความปลอดภัยของไต้หวัน