ครม.สัญจรนครพนม หนุน ‘นาหว้าโมเดล’ ดันแฟชั่นผ้าไทยสู่ตลาดโลก

วันที่ 28 เมษายน 2568 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมคณะนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในการเยี่ยมชมศูนย์หัตถกรรมวัดธาตุประสิทธิ์ อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ตามแนวพระราชดำริ “Sustainable Fashion: แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” ระหว่างการลงพื้นที่และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ณ จังหวัดนครพนม“นาหว้าโมเดล” เป็นหนึ่งใน “โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก” ตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา  ที่ได้ต่อยอดพระราชปณิธานอันยิ่งใหญ่ใน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการพัฒนาศักยภาพผู้ผลิต และสร้างมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ โดยมี กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนโครงการ เพื่อฟื้นฟูภูมิปัญญาท้องถิ่นและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าทอไทยเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน  ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้จับมือกับกระทรวงมหาดไทย ผ่านการลงนาม mou เพื่อต่อยอดนำผู้ประกอบการท้องถิ่นที่มีศักยภาพ ส่งเสริมและสนับสนุนให้สามารถก้าวสู่ตลาดสากลได้อย่างแข็งแกร่ง ผ่านกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาตลาดทั้งในและต่างประเทศ ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของรัฐบาลเพื่อส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทยไปสู่สากลอย่างแท้จริงศูนย์หัตถกรรมและจำหน่ายสินค้าพื้นบ้าน วัดธาตุประสิทธิ์ เป็นกลุ่มทอผ้าไหมแห่งแรกที่ดำเนินการภายใต้โครงการดังกล่าว โดยมีสมาชิกกว่า 30 คน พร้อมกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่อำเภอนาหว้า อาทิ กลุ่มศิลปาชีพทอผ้าไหมบ้านท่าเรือ กลุ่มทอผ้าพื้นเมืองวัดศรีบุญเรือง และกลุ่มคนรุ่นใหม่หัวใจคือชุมชน เป็นต้น

ในโอกาสนี้ กระทรวงพาณิชย์ โดย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) สำนักงานปลักกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ยังได้ตอกย้ำบทบาทการส่งเสริมศักยภาพชุมชนท้องถิ่น โดยได้ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการภายใต้โครงการดังกล่าว ได้แก่ การนำผู้ประกอบการที่มีศักยภาพเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ งานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ อาทิ งานฯ STYLE Bangkok กิจกรรมส่งเสริมการขายที่ประเทศญี่ปุ่น อาทิ Thai Festival Tokyo ณ สวนสาธารณะโยโยงิ กิจกรรม Instore Promotion ณ ห้าง Muji สาขา Ginza Tokyo และ Happy Winter Thai Festival ณ ห้าง Muji สาขา Ginza และห้าง Daikanyama Tokyo รวมถึงการริเริ่มความร่วมมือพิเศษกับภาคเอกชนญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทย (Soft Power Collaboration) เช่น Thai-Inspired Manga ที่นำนักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่นมาถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยผ่านเรื่องราวการ์ตูน และ Thai-Inspired Kimono ที่พัฒนาผ้าไหมไทยสำหรับตัดเย็บกิโมโนร่วมกับบริษัท OMIYA Co., Ltd. 

สำหรับการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ยังมีโครงการ “OTOP Premium Go Inter” จัดโดย DITP เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการด้านการตลาดเชิงลึก พร้อมนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ยังได้มีการส่งเสริมการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อยกระดับผลงานแฟชั่นและงานหัตถศิลป์ไทยสู่สากลอย่างยั่งยืนอีกด้วย

โดยระหว่างการเยี่ยมชมรมว. พาณิชย์ได้กล่าวทักทายผู้ประกอบการกลุ่มนาหว้า และให้ข้อเสนอแนะในการต่อยอดโครงการ ได้แก่ การให้คำแนะนำการขยายตลาดต่างประเทศ การใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง JTEPA เพื่อส่งผ้าไหมไทยไปตัดเย็บเป็นกิโมโนและโอบิ และการพัฒนาการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพื่อเชิงพาณิชย์อีกด้วย

สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร. 1169