รีเซต

หุ้นเทคสหรัฐฯร่วงยกแผง AI จีนพ่นพิษ DELTA ลงอีก 5%

หุ้นเทคสหรัฐฯร่วงยกแผง AI จีนพ่นพิษ DELTA ลงอีก 5%
ทันหุ้น
28 มกราคม 2568 ( 11:30 )
10

 

#DELTA #ทันหุ้น – ราคาหุ้นกลุ่มเทคสหรัฐฯลดลงรุนแรงภายหลังจีนเปิดตัว Deepseek ผลกระทบส่งมาถึงการซื้อขายหุ้น DELTA ราคาหุ้นยังลดลงต่อเนื่องจากวันก่อนมาเคลื่อนไหวในกรอบ 130-134 บาท เมื่อเวลา 11.13 น. ราคาหุ้น DELTA อยู่ที่ 131 บาท ลดลง 7 บาท (-5.07%) มูลค่าการซื้อขายสูงสุดอันดับหนึ่งที่ 1,231 ล้านบาท

 

บทวิเคราะห์ โดย บล.เอเซียพลัสระบุว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงแรง (S&P500 –1.46% และ Nasdaq -3.07%) โดยเกิดแรงขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำโดย Nvidia -16.97%, Broadcom -17.40%, Alphabet -4.20% และ Microsoft -2.14% หลังจาก DeepSeek ซึ่งเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพของจีนได้เปิดตัวโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้ต้นทุนต่ำ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของบริษัทเทคโนโลยี AI ชั้นนำในสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนไม่ได้เทขายหุ้นเป็นวงกว้าง โดยได้หมุนเวียนเงินลงทุน ไปยังหุ้นกลุ่ม Defensive อย่าง Consumer Staples, Healthcare และ Real Estate ส่งผลให้ ดัชนี Dow Jones +0.65% ทั้งนี้ ตลาดจับตาการประชุม Fed ในวันที่ 28-29 ม.ค.

 

DeepSeek ได้เปิดตัว "R1" ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่า Chatbot ระดับโลกอย่าง ChatGPT ของ OpenAI โดยโมเดล AI ของ DeepSeek ใช้เวลาในการพัฒนาเพียง 2 เดือน และ มีต้นทุนต่ำกว่า $6 ล้าน อีกทั้งใช้ชิป H800s ซึ่งเป็นชิปประสิทธิภาพต่ำของ Nvidia

นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน AI Assistant ของ DeepSeek กลายเป็นแอปฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดบน App Store ในสหรัฐฯ ได้แซงหน้า ChatGPT โดยได้สร้างความกังวลต่อธุรกิจ AI ในสหรัฐฯ และ เกิดการตั้งคำถามต่อเรื่องที่บริษัท Big Tech ได้ใช้งบประมาณมากมายในการพัฒนา AI และ ลงทุนใน Data Center ในช่วงที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนนี้ DeepSeek ประกาศว่าบริษัทได้ถูกโจมตีทางไซเบอร์ ทำให้บริษัทไม่สามารถเปิดรับการลงทะเบียนของผู้ที่ต้องการใช้บริการรายใหม่เป็นการชั่วคราว แต่ผู้ที่ผ่านการลงทะเบียนแล้วสามารถใช้ได้ตามปกติ

 

Citi ยังคงแนะนำ "ซื้อ" หุ้น Nvidia พร้อมตั้งเป้าหมายราคาไว้ที่ $175 โดยเน้นย้ำถึงศักยภาพ และความได้เปรียบในตลาด Advanced GPUs แม้จะเผชิญกับความก้าวหน้าของคู่แข่งจากจีนอย่าง DeepSeek ที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีด้าน AI อย่างรวดเร็ว และมองว่า Nvidia ยังคงเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ขั้นสูงสำหรับ AI โดยเฉพาะในตลาดที่การส่งออกเทคโนโลยีถูกควบคุมอย่างเข้มงวด

Citi ระบุว่าบริษัท AI ชั้นนำในสหรัฐฯ ยังคงเลือกใช้ชิปประมวลผลของ NVIDIA เนื่องจากประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและความคุ้มค่าต่อ TFLOPs อีกทั้งการลงทุนด้านโครงสร้าง พื้นฐาน AI ในโครงการสำคัญ เช่น Stargate ยังคงแสดงถึงความต้องการ GPUs ขั้นสูงที่เพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง
ด้านนักวิเคราะห์จาก Wedbush ได้แสดงความมั่นใจว่า แม้ DeepSeek สตาร์ทอัพ AI จากจีน จะ ได้รับความสนใจจากการเปิดตัวโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) แบบ Open Source ล่าสุด แต่ยังไม่สามารถท้าทายความเป็นผู้นำของบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯได้

โดย Wedbush ย้ำว่าการขายหุ้นเทคโนโลยีในช่วงที่ผ่านมาเป็น “โอกาสทองในการซื้อ” โดยเฉพาะในหุ้นของบริษัท AI ชั้นนำ เช่น Nvidia (NVDA US), Microsoft (MSFT US) และ Alphabet (GOOGL US)


ฝ่ายกลยุทธ์ฯ แนะนำกระจายน้ำหนักการลงทุนของพอร์ตไปในหุ้นกลุ่มอื่นๆ อาทิ Financials, Consumer Discretionary และ Healthcare
ซึ่งเป็นกลุ่มที่เราชอบนอกเหนือไปจากหุ้นในกลุ่ม Tech เพื่อลดความผันผวนของพอร์ต โดยแนะนำติดตามการรายงานผลประกอบการของหุ้นใน กลุ่ม Mag-7 ที่จะทยอยประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ (Meta, Tesla, Microsoft, Apple) รวมทั้ง การแสดงความเห็นของผู้บริหารที่อาจเกี่ยวข้องกับประเด็นของ DeepSeek และเม็ดเงินการลงทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Data center ที่จะสะท้อนต่อมุมมองการพัฒนา AI ของผู้เล่นราย ใหญ่ในอนาคต

การประชุม Fed จะเริ่มต้นในวันนี้ (28-29 ม.ค.)โดยเป็นการประชุมครั้งแรกของ Fed ในปีนี้ ซึ่ง ตลาดจับตาถ้อยแถลงของ Fed รวมทั้ง Jerome Powell ประธาน Fed เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของปีนี้ โดย FedWatch Tool ระบุว่าตลาดยังให้น้ำหนักกว่า 97% ที่ Fed จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมครั้งนี้

AT&T (T US) +6.25% หลังเผยผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2024 มีรายได้และกำไรสูงกว่าที่ ตลาดคาด รายได้รวมอยู่ที่ $3.23 หมื่นล้าน +0.9% YoY (สูงกว่าคาด 0.82%) โดยได้รับแรง หนุนจากรายได้ในกลุ่ม Mobility Services ขณะที่ EPS อยู่ที่ $0.54 (สูงกว่าคาด 8.0%)

 

Baidu (9888 HK) +3.92%, Alibaba (9988 HK) +2.95% และ Tencent (700 HK) +1.28% หลังจากที่มีการเปิดตัว "DeepSeek" โดยบริษัทระบุว่า DeepSeek มีความสามารถในการแข่งขันเทียบเท่าเทคโนโลยีของ OpenAI ด้วยต้นทุนที่ถูกกว่าหลายเท่า ส่งผลให้ตลาดคาดว่า Baidu, Alibaba และ Tencent ที่มีการลงทุนในด้าน AI มาอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มที่จะได้ประโยชน์จากการเติบโตของ DeepSeek และอาจมีการ Collaboration ร่วมกันในอนาคต

ธนาคารกลางจีน (PBoC) ได้ประกาศวานนี้ว่าได้ฉีดเงินเข้าสู่ระบบการเงินในปริมาณที่สูงสุดเป็น ประวัติการณ์ผ่านเครื่องมือใหม่ในเดือน ม.ค. เนื่องจากให้ความสำคัญกับการเสถียรภาพของ หยวนเป็นอันดับแรก โดย PBoC ได้ดำเนินการทำข้อตกลงซื้อคืนแบบตรง (Outright Reverse Repurchase Agreements) มูลค่า 1.7 ล้านล้านหยวน ($2.34 แสนล้าน) โดยใช้สัญญา 3 เดือน และ 6 เดือนเพื่อรักษาสภาพคล่องให้เพียงพอ ก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ม.ค. ชะลอลงสู่ระดับ 49.1 จุด (vs ตลาดคาดและเดือนก่อนที่ระดับ 50.1 จุด) และดัชนี PMI ภาคบริการเดือน ม.ค. ขยายตัว ที่ระดับ 50.2 จุด (vs ตลาดคาดและเดือนก่อนที่ระดับ 52.2 จุด) ขณะที่ตัวเลขกำไรของ ภาคอุตสาหกรรม (Industrial Profits) ในเดือน ธ.ค. +11% YoY (สูงกว่าเดือนก่อนที่ -7.3%)

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้: สหรัฐฯ Durable Goods Orders เบื้องต้นเดือน ธ.ค. (ตลาดคาด 0.5% MoM vs. เดือนก่อน -1.2%), Consumer Confidence เดือน ม.ค. (ตลาด คาด 105.6 จุด vs. เดือนก่อน 104.7 จุด)

ติดตามรายงานผลประกอบการฯ ของบริษัทขนาดใหญ่ที่จะออกในวันนี้ อาทิ Boeing (ตลาด คาดรายได้และ EPS -1.2% และ -26.2 YoY ตามลำดับ) และ SAP (ตลาดคาดรายได้ +8.0% YoY ขณะที่ EPS -4.2%)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง