รีเซต

ไทยส่งแรงงานตกค้าง 1,163 คน กลับกัมพูชา ด้าน รพ.สระแก้ว ออกมาตรการงดเยี่ยมสกัดโควิด-19

ไทยส่งแรงงานตกค้าง 1,163 คน กลับกัมพูชา ด้าน รพ.สระแก้ว ออกมาตรการงดเยี่ยมสกัดโควิด-19
77ข่าวเด็ด
24 มีนาคม 2563 ( 01:27 )
44
ไทยส่งแรงงานตกค้าง 1,163 คน กลับกัมพูชา ด้าน รพ.สระแก้ว ออกมาตรการงดเยี่ยมสกัดโควิด-19

สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ ตม.สระแก้วและทหาร ร่วมส่งกลับแรงงานชาวกัมพูชาตกค้างหลังปิดด่าน 1,163 คนกลับประเทศ ด้าน รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ออกมาตรการงดเยี่ยมสกัดโควิด-19  ส่วน หน.อุทยานแห่งชาติปางสีดา สั่งเริ่มปิดสถานที่ท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.เป็นต้นไป

เมื่อเวลา 00.01 น.วันที่ 24 มี.ค.63 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1201 ชุด ชค.ทพ.12 กองกำลังบูรพา เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดปัญหามีแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมาก ที่ไม่ทราบข่าวสารการปิดด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึกและช่องทางอื่น ๆ ทุกจุดเดินทางมาเพื่อรอข้ามแดนกลับประเทศ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย โดยนายวรพันธ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ต้องประสานฝ่ายกัมพูชา เพื่อขอให้อนุโลมเปิดด่านชั่วคราวให้เฉพาะชาวกัมพูชาที่ต้องการเดินทางกลับเข้าประเทศและชาวไทยที่ตกค้างอยู่ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา สามารถเดินทางข้ามแดนได้ตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น.วันที่ 23 มี.ค.63 นั้น ทางเจ้าหน้าที่ ชุด ชค.ทพ.1201 ได้สรุปยอดชาวไทยและชาวกัมพูชาที่เดินทางผ่านเข้า-ออก บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,396 คน

ผบ.ร้อย ทพ.1201 ชุด ชค.ทพ.12 กองกำลังบูรพา กล่าวอีกว่า ผู้ที่เดินทางเข้า-ออก ในช่วงที่เจ้าหน้าที่อนุโลมเปิดด่านชั่วคราว โดยแยกประเภทเป็นคนไทยที่มีหนังสือเดินทางพาสปอร์ต และหนังสือผ่านแดน บอเดอร์พาส เดินทางกลับเข้าประเทศไทย จำนวน 233 คน ,ส่วนคนกัมพูชา มีหนังสือเดินทางพาสปอร์ต ,หนังสือผ่านแดน บอเดอร์พาส เดินทางกลับออกไปประเทศกัมพูชา จำนวน 1,163 คน แบ่งเป็น หนังสือเดินทาง 753 คน และ บอร์ดเดอร์พาส 410 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.ไทย ,ทหาร ,ตำรวจ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ตั้งจุดคัดกรองตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวดกระทั่งเวลา 22.00 น. ไม่มีบุคคลชาวไทยและชาวกัมพูชา ตกค้างในการเดินทางกลับเข้า-ออกประเทศ เจ้าหน้าที่จึงปิดประตูพรมแดนบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวรพันธ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว, นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย อาทิ พ.อ.ชิษณุพงศ์​ รอดศิริ รอง​ ผบ.กกล.บูรพา ,พ.อ.เอกพงษ์​ กฤตยาเกียรติชุติ ผบ.ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่​ 12 ,พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ,พ.ต.อ.ฐ​น​พงศ์​ โพธิ์​ทิ ผกก.สภ.คลองลึก, พ.ต.ท.ภูมิ​สิษฐ์​ ตั้ง​วิทย์​เดชา รอง​ ผกก.สภ.คลองลึก และเจ้าหน้าที่ ตม.ปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ได้ร่วมกันดูแลสถานการณ์จนสามารถส่งกลับแรงงานกัมพูชาและคนไทยกลับประเทศได้ทั้งหมด จนกระทั่งปิดด่านผ่านแดนถาวรอย่างเป็นทางการด้วย

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว แถลงพบผู้ติดเชื้อยืนยันในพื้นที่ จ.สระแก้ว จำนวน 2 ราย ส่งผลให้ทางโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ประกาศมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 โดยให้มีการงดเยี่ยมทุกกรณี ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมเป็นต้นไป ยกเว้นผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือผู้ป่วยติดเตียงให้มีญาติที่แข็งแรงเฝ้าได้ 1 คน กรณีห้องพิเศษให้เฝ้าได้ 1 คน โดยไม่เปลี่ยนคนเฝ้า หากมีความจำเป็นต้องเยี่ยม ให้ขออนุญาตจากทางโรงพยาบาลก่อนทุกครั้ง โดยแนะนำให้ญาติผู้ป่วยเยี่ยมทางโทรศัพท์ เพื่อลดความเสี่ยงจากการสัมผัสและรับเชื้อด้วย

ทางด้าน นายบุญเชิด เจริญสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติปางสีดา แจ้งว่าเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคจากไวรัส โควิด-19 เริ่มมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น กรมอุทยานแห่งชาติฯ จึงขอให้หน่วยงานที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหรือสถานที่ประชาชนมาใช้บริการเช่น อุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าฯ สวนพฤกษศาสตร์ สวนรุกขชาติ หน่วยอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำ หน่วยหรือศูนย์ศึกษาการพัฒนาการอนุรักษ์ต้นน้ำ ศูนย์สาธิตการพัฒนาและรณรงค์การใช้หญ้าแฝกด้านป่าไม้ ศูนย์วิจัยต้นน้ำ สถานีวิจัยต้นน้ำ สถานีวิจัยสัตว์ป่าและหน่วยงานที่เป็นแหล่งศึกษาหรือท่องเที่ยว ภายใต้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ปิดให้บริการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และให้ถือเป็นโอกาสในการปรับปรุง ทำความสะอาด ซ่อมแซมและพัฒนาหน่วยงาน โดยหากมีการจ้างงานให้คัดเลือกจากประชาชนในท้องถิ่นเป็นหลัก สำหรับศูนย์ฝึกอบรมและสถาบันประชารัฐฯ ให้ดำเนินการจัดฝึกอบรมตามแผนเท่านั้น และดำเนินการตามมาตรการป้องกันและการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเคร่งครัด ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.63 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

 

—————————–

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง