ทุกคนคงจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า ใบขับขี่ไทยนั้นไม่สามารถนำมาใช้ที่ประเทศเยอรมนีได้ หากต้องการจะขับรถยนต์ในประเทศเยอรมนีจะต้องขอใบขับขี่สากลจากไทยมาก่อน และใบขับขี่สากลนี้สามารถใช้ได้ในช่วง 6 เดือนแรกเมื่อเดินทางมาถึงประเทศเยอรมนีเท่านั้น ไม่ว่าจะมาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว วีซ่าแต่งงาน วีซ่าติดตามสามี วีซ่าติดตามบุตร หรือวีซ่าเรียน เป็นต้นจากประสบการณ์การทำใบขับขี่ในประเทศเยอรมนี ปี 2022 (ในยุคโควิดตอนปลาย) ผู้เขียนได้ขอใช้เทียบใบขับขี่จากไทย (Führerschein Umtausch/Umschreibung beantragen) และเลือกเรียนขับรถยนต์เกียร์ Auto เพียงอย่างเดียว คนส่วนใหญ่ที่นี่จะลงเรียนขับเกียร์ออโต้ และเกียร์กระปุกไปพร้อมๆกัน ซึ่งเราสอบถามครูที่สอนว่าฉันจำเป็นต้องเรียนเกียร์กระปุกด้วยไหม ถ้ามันจำเป็นฉันก็ยินดีเรียนเพิ่มนะ ครูบอกว่ามันไม่จำเป็นหรอก มันขึ้นอยู่กับว่ารถยนต์ที่คุณจะขับประจำเป็นเกียร์อะไร ส่วนค่าใช้จ่ายและขั้นตอนต่างๆ อาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับโรงเรียนและเมืองที่เราอาศัยอยู่ การขอเทียบใบขับขี่จากไทย (Führerschein Umtausch/Umschreibung beantragen) เราสามารถยื่นเรื่องขอเทียบใบขับขี่เยอรมันได้ หากเราเคยทำใบขับขี่ไทยมาจากไทย ก่อนมาอาศัยอยู่ในเยอรมัน โดยเราไม่ต้องไปเข้าเรียนทฤษฎี แต่จะต้องสอบข้อสอบทฤษฎีและปฏิบัติด้วย เมื่อสอบผ่าน เราก็นำใบขับขี่ไทย แลกกับใบขับขี่เยอรมัน และมีผลใช้ได้ทันทีสำหรับคนที่กำลังคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำใบขับขี่เยอรมัน แต่ยังไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ลองอ่านจากประสบการณ์ของผู้เขียน (อ้างอิงจากปี 2022) เผื่อใช้เป็นแนวทาง เพื่อนำไปวางแผนการเงินและเวลาได้ล่วงหน้า ขั้นตอนที่ 1 ⬇️ เดินเข้าไปสอบถามข้อมูลกับทางโรงเรียนสอนขับรถยนต์ที่เราชอบหรือใกล้บ้านได้เลย เขาจะให้ข้อมูลเรามา สำหรับคนที่ยังพูดภาษาเยอรมันยังไม่ได้เช่นเดียวกับผู้เขียน แนะนำให้ไปกับคนที่พูดภาษาเยอรมันได้ เช่น แฟน หรือสามี เป็นต้น สอบถามรายละเอียดให้เรียบร้อย หากตกลงปลงใจว่าจะเรียนกับที่นี้แล้ว ก็จะมีรายจ่ายคร่าวๆ ดังต่อไปนี้ (ราคานี้เป็นประสบการณ์ตรงจากผู้เขียนเอง อ้างอิงจากปี 2022)300 € = ค่าสมัครเรียนกับทางโรงเรียน139 € = ค่าธรรมเนียม ข้อสอบภาคทฤษฎีและปฏิบัติ55 € = แปลใบขับขี่ไทย (ติดต่อแปลกับ ADAC เอง)12 € = ค่ารูปถ่าย (ถ่ายจากร้านถ่ายรูปทั่วไปเอง)75 € = ค่า App ภาษาเยอรมัน75 € = ค่า App ภาษาอังกฤษ (บอกเขาแล้วว่าฉันซื้อไปแล้วรอบนึง แค่ช่วยเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษให้หน่อยเขาบอกให้ซื้อใหม่ อาจเพราะเราไปคนเดียว ไม่ได้ไปกับแฟน ไม่เข้าใจทำไมเก็บเราสองรอบ)55 € = อบรมหลักสูตรปฐมพยาบาลเบื้องต้น และทดสอบสายตา 9:00 am-14:00 pm ในระหว่างการอบรม จะมีการเรียกทดสอบสายตาทีละคน โดยการส่องกล้องจุลทรรศน์ ประหนึ่งตรวจหาเชื้อแบคทีเรีย ให้เราลืมตาดูทีละข้าง เนื่องจากผู้เขียนพูดภาษาเยอรมันยังไม่ได้ คนทดสอบเลยให้ตอบเป็นภาษาอังกฤษ ขอยกตัวอย่างตามภาพประกอบด้านล่าง ⬇️ แถวบนสุด อ่านจากซ้ายสุด ไปขวาสุด3 o’clock 10 o’clock 6 o’clock เป็นต้นส่วนใครที่พูดภาษาเยอรมันได้คล่องแล้ว ใช้คำเหล่านี้ได้เลยค่ะซ้าย: linksขวา: rechtsบน: obenล่าง: untenซ้ายบน: links obenขวาบน: rechts obenซ้ายล่าง: links untenขวาล่าง: rechts untenขั้นตอนที่ 2 ในวันที่เราสมัครเรียน ทางโรงเรียนจะให้ Website ที่เราต้องลงทะเบียนจองคิวยื่นเอกสารกับ TÜV เอง ซึ่งใช้เวลานานมาก (หลายเดือน)ต้องรีบจองตั้งแต่วันที่สมัคร ที่อยู่เราอยู่ที่ไหนก็ต้องทำใบขับขี่ในเขตนั้นเท่านั้น ไม่เหมือนที่ไทยคนกรุงเทพไปทำเชียงใหม่ก็ได้43,90 € = ค่าธรรมเนียมวันยื่นเอกสารที่ TÜV ขั้นตอนที่ 3 นำใบเสร็จจากการจ่ายค่าธรรมเนียมที่ TÜV เข้าไปสอบถามทางโรงเรียน ว่าขั้นตอนต่อไปเราต้องทำอะไรต่อ สำหรับคนที่เริ่มจากศูนย์ ทางโรงเรียนจะให้เราเข้าไปหัดทำแบบทดสอบ theories เมื่อแน่ใจว่าเราทำได้เขาถึงจะนัดวันให้เราเข้าไปสอบ Theorie และแน่นอนว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกแน่นอน ส่วนใครที่ใช้ใบขับขี่ไทยเทียบ ไม่ต้องทำในส่วนนี้ แค่ฝึกทำแบบฝึกหัดจาก App เองที่บ้าน และรอวันที่จะเข้าไปสอบภาคทฤษฎี Theorie ที่ TÜV เท่านั้น 116,93 € = ค่าสอบภาคทฤษฎี Theorie (จ่ายTÜV) ผู้เขียนสอบเป็นภาษาอังกฤษครั้งเดียว ✔️ผ่านขั้นตอนที่ 4 หลังจากสอบผ่านเราต้องแจ้งกับทางโรงเรียน และทางโรงเรียนจะให้ครูสอนขับรถติดต่อนัดหมายเวลาเรียนกับเราเอง หากไม่ได้รับการติดต่อแนะนำให้เข้าไปสอบถามที่โรงเรียนสอนขับรถเพื่อความรวดเร็ว แต่จากประสบการณ์ของผู้เขียนเองนั้นได้ขอเรียนขับ 6 ชั่วโมงก่อนสอบภาคทฤษฎี Theorie หลังจากทราบผลสอบ Theorie ว่าผ่านแล้ว ก็ทักหาครูคนเดิมเพื่อขอนัดเรียนขับเพิ่ม ครูให้เรียนขับเพิ่มอีก 10 ชั่วโมง ดังนี้1.020 € = เรียนขับก่อนและหลังสอบผ่าน Theorie 75 € = ค่าแนวข้อสอบทฤษฎี Theorie (ทางโรงเรียนจะให้เราเข้าไปหัดทำแบบทดสอบ เมื่อแน่ใจว่าเราทำได้เขาถึงจะนัดวันให้เราเข้าไปสอบ Theorie และแน่นอนว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกแน่นอน ส่วนเราที่ใช้ใบขับขี่ไทยเทียบ ไม่ต้องทำในส่วนนี้ แค่ฝึกทำแบบฝึกหัดจากแอพที่บ้าน แต่ทางโรงเรียนก็คิดราคามาเรียบร้อยแอบงง205 € = ค่าแนวข้อสอบปฏิบัติ Driving test (เวลาสอนขับครูจะพาขับไปเส้นทางอื่น แต่พอใกล้จะสอบแบบก่อนสอบ1 วัน หรือก่อนสอบ 1 ชั่วโมง ครูจะพาเราเขาไปในเส้นทางที่คนคุมสอบจะพาไป ซึ่งค่อนข้างเหมือนประมาณ 70% ที่ไม่เหมือนก็จะเป็นออก Autobahn คนละทางกับที่ครูพาไป)ขั้นตอนที่ 5 ครูสอบขับจะประเมินว่าเราพร้อมที่จะสอบขับหรือไม่ หากเห็นว่าเราขับดี และพร้อมที่จะสอบแล้ว ก็จะนัดวันสอบให้เรา 116,93 € = ค่าสอบขับครั้งที่ 1 (จ่าย TÜV)สอบขับรอบที่ 1 : 11 November 2022 11:40 am ❌ ไม่ผ่าน คำถามก่อนขับ : ผู้เขียนบอกคนคุมสอบว่า “ Mein Deutsch ist sehr schlecht. Bitte, Sie langsam sprechen.” (ภาษาเยอรมันของฉันแย่มากๆ คุณช่วยพูดช้าๆนะคะ) ผู้คุมสอบคงจะเอ็นดูเลยไม่ถามคำถามก่อนสอบเลย สำหรับเพื่อนๆที่กังวลเกี่ยวกับคำถามแนะนำให้เข้าไปอ่าน รีวิว 18 คำถาม-คำตอบ สุดฮิต ก่อนสอบขับใบขับขี่เยอรมัน ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้เลยค่ะ ⬇️https://news.trueid.net/detail/gk7vMMQDQYXxข้อผิดพลาดตอนออกจาก Tuv ออกตัวไม่ระวัง มีรถข้างหลังมาทำให้เขาต้องเบรค ต้องมองรอบๆ ให้กว้างๆ และดีกว่านี้ระยะห่างตอนขับตามรถยนตร์ที่มีรถพ่วงท้าย ห่างยังไม่พอ ต้องห่างอย่างน้อง 50 เมตร (ระยะ 1 ช่วงเสาข้างถนน หรือระยะห่าง 2 วินาที)บนทางด่วน ตอนจะแซงรถ LKW (รถสิบล้อ) ต้องทิ้งช่วงห่างมากกว่านี้ก่อนที่จะแซง เราแซงตอนอยู่ใกล้ LKW มากเกินไป (เว้นระยะห่างให้มากกว่านี้)ตอนออกมาจากวงเวียนเข้าถนนหลัก ขับ 50 ช่วงที่เราจะชิดขวา เรารีบเบี่ยงชิดขวามากเกินไป ต้องรอให้ผ่านเส้นทึบก่อน เมื่อขับผ่านเส้นประ ถึงจะทำการเลี้ยวได้ถอยจอดเทียบฟุตบาท ทำได้ยังไม่ดี ล้อรถชิดกับขอบฟุตบาทมากเกินไป เดี๋ยวมันจะทำให้ล้อพังขั้นตอนที่ 6 ครูจะทำนัดสอบขับใหม่ให้อีกรอบรอประมาน 2 สัปดาห์240 € = ครูบอกต้องเรียนขับก่อนสอบอีกสัก 4 ชั่วโมง✅ 28 November 2022 at 09:30 am. (90 minutes/120€)✅ 29 November 2022 at 10:15 am. (45 minutes/60€)✅ 30 November 2022 at 09:00 am. (45 minutes/60€)205 € = ค่าแนวข้อสอบภาคปฏิบัติขั้นตอนที่ 7116,93 € = ค่าสอบขับครั้งที่ 2 (จ่าย TÜV)สอบขับรอบที่ 2 : 30 November 2022 9:50 am ✅ผ่านแล้วจ้า (น้ำตาจะไหล ดีใจที่สุด 9 เดือนเต็มจากการเริ่มต้นจนถึงวันนี้ วันที่ได้ครอบครองใบขับขี่เยอรมัน 🥹คำถามก่อนสอบ : ไม่ถามสำหรับเพื่อนๆที่กังวลเกี่ยวกับคำถามแนะนำให้เข้าไปอ่าน รีวิว 18 คำถาม-คำตอบ สุดฮิต ก่อนสอบขับใบขับขี่เยอรมัน ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้เลยค่ะ ⬇️https://news.trueid.net/detail/gk7vMMQDQYXxข้อผิดพลาด : ในการขับไม่มีแต่ผู้เขียนดันลืมเอาใบขับขี่ไทยไปด้วย ผู้คุมสอบบอกว่าเธอต้องเอาใบขับขี่ไทยมาแลกกับใบขับขี่เยอรมันนะ วันนี้เธอไม่ได้เอามา (เซ็นเอกสารให้ 1 ใบ) เธอต้องทำนัดออนไลน์ และถือเอกสารนี้เข้าไปรับที่ TÜV เองนะสรุปคือ ในวันที่สอบขับ สำหรับคนที่ขอใช้ใบขับขี่ไทยเทียบ เอกสารที่ต้องนำติดตัวไปด้วย (ห้ามลืมเด็ดขาด!) มีดังนี้ Passport (ฉบับจริง)ID card หรือ Residence permit บัตรต่างด้าวสีชมพู (ฉบับจริง)ใบขับขี่ไทย (ฉบับจริง)อ่านไม่ผิดหรอกค่ะใบขับขี่หลักแสนจริงๆ ซึ่งบางคนอาจจะน้อยกว่านี้หรือมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับเขตเมืองที่เราอาศัยอยู่และจำนวนครั้งของการสอบภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ แต่บอกเลยว่าพอได้มาแล้วก็คุ้มค่าแก่การรอคอย สามารถใช้ได้ตลอดชีวิต ไม่มีหมดอายุ ไม่ต้องต่ออายุเหมือนใบขับขี่ไทย ใช้ขับได้ทั่วโลก ยกเว้นประเทศที่ขับคนละฝั่งอย่างเช่น ประเทศไทย เป็นต้นบทความและเนื้อหาเบื้องต้นมาจากประสบการณ์จริงของผู้เขียนในปี 2022 หากผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องขออภัยด้วยใจจริง หากเพื่อนๆ มีความคิดต่าง มีคำถาม-คำตอบ หรือความรู้เพิ่มเติม สามารถคอมเม้นเข้ามากันได้นะคะ สุดท้ายนี้ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่อ่านจนจบ ขออวยพรให้ทุกคนขับรถอย่างมีสติ ไร้ซึ่งอุปสรรคทั้งปวง โชคดีกันทุกคนนะคะ 🙏🏻💕 ที่มาภาพหน้าปก : โดยผู้เขียนที่มาภาพประกอบทุกภาพ : โดยผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !