ปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตนั้นมีด้วยกันอยู่ 4 อย่างคือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค พืชสมุนไพรนั้นสิ่งที่คนสมัยโบราณนำมาใช้เป็นยารักษาโรค นั่นก็หมายความว่าพืชสมุนไพรมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ในสมัยโบราณเป็นอย่างมาก เพราะสมัยก่อนนั้นไม่มียารักษาโรคที่เป็นยาแผนปัจจุบันเหมือนในสมัยนี้ จึงได้มีการศึกษาค้นคว้าจากพรรณไม้ต่าง ๆ ของแต่ละท้องถิ่นที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ ผสมผสานกับภูมิปัญญา จนเกิดมาเป็นตำรายาสมุนไพรที่มีคุณค่าและสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันผู้เขียนได้ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของพืชสมุนไพรเป็นอย่างมาก ซึ่งหากไม่ช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลของพืชสมุนไพรให้เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป ก็จะทำให้คนรุ่นหลังไม่รู้จักและไม่ทราบถึงคุณค่าของพืชสมุนไพรแต่ละชนิด ผู้เขียนจึงมีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่งในการนำข้อมูลลักษณะและสรรพคุณของพืชสมุนไพรแต่ละชนิด มาเผยแพร่ให้ความรู้แก่ผู้สนใจทั่วไป อันหวังว่าพืชสมุนไพรเหล่านี้จะเป็นที่รู้จักมากขึ้น ในบทความนี้ผู้เขียนได้นำข้อมูลของพืชสมุนไพรหนึ่งชนิดที่มีความเก่าแก่และหายาก มาบอกเล่าถึงสรรพคุณที่น่าสนใจ สมุนไพรชนิดนี้มีชื่อว่า “กระดูกไก่เขียว” ที่หลายท่านอาจไม่เคยรู้จักมาก่อน และไม่ทราบว่าสมุนไพรชนิดนี้มีสรรพคุณที่รักษาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีภาพถ่ายโดยผู้เขียนลักษณะของ “กระดูกไก่เขียว” จัดเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นกลมมีสีเขียว มักแตกกิ่งออกเป็นพุ่มเตี้ย ๆ ผิวเปลือกบางและเกลี้ยง ลำต้นเหนียวส่วนกิ่งเปราะหักง่าย ใบเป็นใบเดี่ยวออกซ้อนสลับกันจากโคนกิ่งจนถึงปลายกิ่ง ลักษณะของใบเป็นรูปรีปลายใบเรียวแหลม โคนใบมนขอบใบทั้งสองข้างเรียบโค้งขนานกัน ผิวใบมันเรียบทั้งสองด้าน ดอกมีขนาดเล็กสีขาว กลีบดอกบางออกช่อเป็นกระจุกที่ปลายยอดสรรพคุณของ “กระดูกไก่เขียว” แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย แก้ปวดศีรษะ แก้ปวดตามข้อ แก้อาการกล้ามเนื้ออักเสบ แก้อาการไอและหลอดลมอักเสบ ช่วยขับปัสสาวะ แก้ร้อนใน แก้อาการไข้ แก้อาการอาหารเป็นพิษ ช่วยสมานกระดูกหักกระดูกร้าวภาพถ่ายโดยผู้เขียนปัจจุบันนี้ “กระดูกไก่เขียว” เป็นพืชสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่หายาก ผิดกับเมื่อสมัยที่ผู้เขียนเป็นเด็กมักจะเห็นสมุนไพรชนิดนี้ขึ้นอยู่ทั่วไปตามท้องไร่ท้องสวน ซึ่งตอนนั้นผู้เขียนเองก็ไม่ทราบว่าพืชชนิดนี้คือสมุนไพร จนได้มาทราบจากปู่เมื่อครั้งที่ผู้เขียนตามปู่เข้าไปเก็บของป่า แล้วเกิดโดนตะขามกัดที่นิ้วขณะกับลังขุดหน่อไม้ โชคดีที่มีต้อน “กระดูกไก่เขียว” อยู่ใกล้ ๆ ปู่จึงได้รีบนำใบของ “กระดูกไก่เขียว” มาตำผสมกับเหล้าขาวที่ปู่มักจะพกใส่ขวดเล็ก ๆ ติดย่ามไว้เสมอ เมื่อตำจนแหลกก็นำมาพอกไว้บริเวณปากแผลที่โดนกัด ตอนนั้นผู้เขียนจำอาการเจ็บปวดได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังทำให้มือบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อพอกสมุนไพรที่ปู่ทำให้แล้วไม่กี่นาทีอาการปวดก็ทุเลาลง และอาการบวมก็เริ่มยุบ จากนั้นไม่นานก็หายเป็นปกติ และนอกจากนี้ปู่ยังบอกอีกว่าหากมีอาการเป็นไข้ปวดศีรษะก็สามารถนำใบ “กระดูกไก่ดำ” ไปต้มดื่มก็อาการไข้ได้เป็นอย่างดี และยังช่วยขับปัสสาวะได้อีกด้วยที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงสรรพคุณบางส่วนที่ผู้เขียนเคยมีประสบการณ์มาเมื่อวัยเด็ก อาจจะมีตกหล่นไปบ้างก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่นอกจากนี้ “กระดูกไก่เขียว” ยังสามารถนำไปเข้าเครื่องยาผสมกับสมุนไพรชนิดอื่น เพื่อประกอบเป็นยารักษาโรคได้อีกหลายอาการ และผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความนี้จะทำให้ทุกท่านรู้จักพืชสมุนไพรมากขึ้น และช่วยกันอนุรักษ์พืชสมุนไพรเหล่านี้ให้คงอยู่สืบต่อไปภาพถ่ายโดยผู้เขียน