เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องบอกว่าต้องซีเรียสและต้องปรับตัวกันมากอยู่พอสมควรสำหรับคนไทย เพราะเราคือเจ้าของสถิติอันดับที่ 6 ของโลก ในเรื่องของปริมาณขยะพลาสติกที่มีอยู่ในทะเล ด้วยพฤติกรรมของคนไทยที่เคยชินกับการใช้พลาสติกแบบ Single use เกินความจำเป็น ซึ่งตรงนี้จะโทษผู้บริโภคอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะสังคมไทยใช้พลาสติกเหล่านี้มาจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทยไปแล้ว Photo https://images.app.goo.gl/3WyTASXCCEUkT3y39 แต่ในเมื่อเราตระหนักรู้แล้วถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เราจึงควรเริ่มแก้ไขปัญหาที่เราก่อไว้สักที เป็นเหตุผลที่ว่าพักหลังมานี้ มีแคมเปญรณรงค์เกี่ยวกับการเลิกใช้ถุงพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง แล้วหันมาใช้ถุงผ้าแทน ซึ่งแน่นอนครับว่ามีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งฝ่ายไม่เห็นด้วย เราจะไปต่อว่าเค้าก็ไม่ได้เพราะปัจจัยในชีวิตคนเรานั้นแตกต่างกัน ส่วนคุณที่คลิกเข้ามาอ่านในบทความนี้ผมเชื่อว่าคือฝ่ายที่เห็นด้วย การแก้ปัญหาตรงนี้จึงควรเริ่มที่ตัวเราเอง เพราะเมื่อคนในสังคมส่วนมากมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป สังคมส่วนน้อยก็จำเป็นจะต้องปรับตัวตาม ถุงพลาสติก 1 ใบ ใช้เวลาในการย่อยสลาย 450 ปี ในแต่ละปีมีขยะพลาสติก 2.7 ล้านตัน เฉลี่ย 7000 ตันต่อวัน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าการช็อปปิ้งจากทั่วโลก ก่อให้เกิดขยะถุงพลาสติกถึง 10,000 ล้านใบต่อปี นั่นเท่ากับว่าจะใช้เวลาในการย่อยสลายทั้งหมดถึง 1000 ปีเลยทีเดียว ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 6 ของประเทศที่มีปริมาณขยะพลาสติกในทะเลมากที่สุด ซึ่งขยะพลาสติกเหล่านี้ นอกจากจะทำให้เกิดมลภาวะ ยังส่งผลต่อสัตว์ทะเลที่บริโภคพลาสติกเหล่านี้โดยไม่ตั้งใจ เช่นกรณีที่เป็นข่าวโด่งดังของเจ้าพยูนน้อยมาเรียม การบริโภคพลาสติกไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับสัตว์ทะเล เมื่อพลาสติกเหล่านี้ถูกย่อยสลายจนกลายเป็นไมโครพลาสติกที่ตาเปล่าไม่สามารถมองเห็น ไมโครพลาสติกเหล่านี้จะปนเปื้อนมากับน้ำดื่มที่มนุษย์บริโภคเข้าไป ผลสำรวจอุจจาระจากคนทั่วทุกมุมโลก พบไมโครพลาสติกอยู่ทั้งหมด นี้เป็นเพียงแค่ข้อเสียไม่กี่ข้อของมลภาวะพลาสติกล้นโลก แต่เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอต่อการหันมาจริงจังมากขึ้นในการจัดการกับปัญหานี้แล้ว Photo by https://images.app.goo.gl/AHHyjKVMpkxtrUWMA ล่าสุดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องนี้ ออกมาประกาศขอความร่วมมือในการงดใช้ถุงพลาสติกแบบ Single use จากทุกภาคส่วน โดยคาดว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมไร้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งอย่างแท้จริง โดยจะมีการออกเป็นกฎหมายด้วย และ ได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการเป็นอย่างดี 7-Eleven ร้านสะดวกซื้อที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี ขออาสาเป็นตัวแทนในการนำร่อง เลิกใช้พลาสติกแบบ Single use โดยกำหนดวันฤกษ์งามยามดีวันที่ 1 มกราคม 2563 นี้ เราที่เป็นผู้บริโภคก็จำเป็นต้องปรับตัวกับเรื่องนี้อยู่มากพอสมควร แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสังคมในครั้งนี้ โดยเราจะต้องเตรียมตัว ปรับตัว ยังไงบ้าง ไปดูกันเลย 1.พกถุงผ้า เมื่อไม่มีถุงพลาสติกให้ใช้อีกต่อไป ตัวเลือกที่ดีที่สุดและอาจจะดีกว่าการใช้ถุงพลาสติกแบบ Single Use ด้วยซ้ำ นั่นก็คือ ถุงผ้า โดยในปัจจุบันก็มีถุงผ้าแจกให้ใช้กันฟรีๆอยู่มากมาย รวมไปถึง 7-Eleven แต่ถ้าหากถุงผ้าแจกไม่ถูกใจวัยโจ๋ ร้านค้าต่างๆก็มีถุงผ้าไว้ให้เลือกซื้อ ตามสไตล์ชิคๆคูลๆ ของแต่ละท่าน ที่สำคัญถุงผ้าใบใหญ่ๆหลายๆแบบ สามารถพับจนเหลือขนาดเท่าผ้าเช็ดหน้า เหมาะแก่การพกไปทุกสถานที่อีกด้วย Photo https://images.app.goo.gl/gCVZB6RAN9aM49kL7 2.พกแก้วส่วนตัว/หลอดส่วนตัว ในปัจจุบันมีแก้วที่รักษาอุณหภูมิภายในได้ทั้งเย็นและร้อน นี่คือข้อดีข้อแรกของการพกพาแก้วส่วนตัว ที่แก้วแบบ Single Use ทำไม่ได้ และหากใครคิดว่าการพกพาแก้วนั้นดูจะลำบาก ในสมัยนี้เค้าก็มีแก้วที่สามารพับเก็บได้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการพกพาไปไหนมาไหน และที่สำคัญการซื้อเครื่องดื่มตามร้านค้าชั้นนำต่างๆ เค้าก็มีส่วนลดให้สำหรับผู้ที่นำแก้วมาเอง Photo https://images.app.goo.gl/cbmmjSB1r2v1LdJq9 3.พกกล่องข้าวส่วนตัว/ช้อน-ซ่อม เหตุผลเดียวกันกับแก้วส่วนตัวเลยครับ การพกพากล่องข้าวส่วนตัวจะสามารถลดปริมาณการใช้จานและช้อนซ้อมพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งได้เป็นอย่างดี และ เช่นกันครับ นวัตกรรมกล่องใส่ข้าวพับได้ ก็มีมาให้เลือกซื้อหากันแล้ว Photo https://images.app.goo.gl/UzVnwrer8s31oPXUA 4.ใช้ภาชนะแบบย่อยสลายเองได้ นวัตกรรมภาชนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการย่อยสลายเองเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดีอย่างมากในการลดใช้ถุงพลาสติก โดยวิธีนี้จะพึ่งพาอาศัยกันได้ระหว่างผู้ประกอบการและผู้บริโภค https://images.app.goo.gl/ECuS6u8QCSHBvxqZA เพียงเท่านี้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งก็จะไม่จำเป็นต่อชีวิตเราอีกต่อไป แถมง่าย ประหยัด และช่วยโลกได้อย่างมากอีกด้วย เริ่มทำได้เลยตั้งแต่วันนี้ เมื่อถึงวันที่ 1 มกราคม 2563 เราก็เป็นมือโปรในการไม่ใช้พลาสติก Single Use ไปแล้ว ช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อช่วยโลกของเรากันเถอะ Photo by picsart