'มาเลเซีย' มุ่งหาโอกาสใหม่จากอุตสาหกรรม 'ยางพารา'

กัวลาลัมเปอร์, 25 พ.ค. (ซินหัว) -- นอร์ ฮิซวาน อาหมัด ซีอีโอสภายางมาเลเซีย (MRC) สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมการเพาะปลูกและสินค้าโภคภัณฑ์มาเลเซีย ระบุว่าอุตสาหกรรมยางพาราของมาเลเซียควรหาทางกระจายความเสี่ยงจากผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ซึ่งกลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักระหว่างการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

นอร์ ฮิซวาน กล่าวว่าอุตสาหกรรมยางพารามาเลเซียควรคิดนอกกรอบจากผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน และไม่จำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากการระบาดใหญ่เนื่องจากอุตสาหกรรมดังกล่าวเติบโตระดับทวีคูณตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมาวันพุธ (25 พ.ค.) แถลงการณ์จากสภาฯ ระบุว่าแผนริเริ่มปัจจุบันของสภาฯ มุ่งเน้นด้านการสร้างคุณค่าแก่อุตสาหกรรมยางพาราของประเทศ เพื่อรับรองว่าอุตสาหกรรมยังคงยืดหยุ่น คล่องตัว มีความสามารถแข็งขัน และยั่งยืน ควบคู่กับการแก้ปัญหาคอขวด ระบบการจัดการ และความท้าทายด้านชื่อเสียงขณะเดียวกัน นอร์ ฮิซวาน กล่าวว่าผู้เล่นในอุตสาหกรรมควรเสาะหาหนทางและวิธีทำให้อุตสาหกรรมผลิตถุงมือสร้างกำไรและกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง โดยถุงมือถูกนำไปใช้ในธุรกิจต่างๆ ตั้งแต่ร้านสักไปจนถึงห้องปฏิบัติการ หรือแม้แต่ศูนย์เลี้ยงเด็กนอร์ ฮิซวาน ชี้ว่าอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเคยใช้ประโยชน์จากถุงมืออย่างจำกัด แต่ปัจจุบันมีความต้องการเพิ่มขึ้นเนื่องจากความตระหนักถึงสุขลักษณะที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้เล่นในอุตสาหกรรมและกลุ่มผู้บริโภค พร้อมกล่าวถึงอุตสาหกรรมสารกึ่งตัวนำ ซึ่งใช้ถุงมือเพื่อป้องกันส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์จากการถูกปนเปื้อนนอร์ ฮิซวาน เสริมว่าผลิตภัณฑ์น้ำยางครองสัดส่วนร้อยละ 83.1 ของปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางพาราทั้งหมด ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2022 โดยอุตสาหกรรมผลิตถุงมือยังคงเป็นแหล่งสร้างรายได้จากการส่งออกขนาดใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมยางพารา