เครดิตภาพ : พริกเผ็ด(ผู้เขียน)คำว่า เทอราเรียม Terrarium ที่เราเข้าใจกันคือการจำลองระบบนิเวศในขวดแก้วที่มีฝาปิด ซึ่งความจริงแล้วเทอราเรียมนั้นมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ นั่นคือ เทอราเรียมแบบปิด(Closed Terrarium) และ เทอราเรียมแบบเปิด(Open Terrarium)บทความนี้ดิฉันจะมาเล่าเรื่องของเทอราเรียมแบบ'เปิด'กันค่ะคุณเครดิตภาพ : พริกเผ็ด(ผู้เขียน)ขั้นตอนการทำเทอราเรียมแบบเปิดนั้นก็เหมือนกันกับการทำเทอราเรียมแบบปิดนั่นแหละค่ะ เพียงแต่เราจะไม่มีการปิดฝา เป็นการจำลองระบบนิเวศแบบเปิดโล่ง เพราะฉะนั้นค่าความชื้นของระบบนิเวศจะเป็นค่าความชื้นตามความเป็นจริงของพื้นที่ที่เราอยู่ ไม่ได้จำกัดค่าความชื้นเหมือนแบบปิดฝา ทำให้เราสามารถใช้วัสดุและพืชพรรณในการตกแต่งเทอราเรียมได้หลากหลายขึ้น ดูแลง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องคอยเปิดฝาเช็ดไอน้ำที่เกาะรอบขวดเวลาจะถ่ายรูป ไม่ต้องกังวลเรื่องความชื้นภายในขวด คล้ายกับการเลี้ยงพืชแบบปกติ แต่ก็ต้องคำนึงว่านี่คือเทอราเรียมนะ! ไม่ใช่กระถางที่มีรูระบายน้ำ ฉะนั้นเรื่องความชื้นของชั้นดินจึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับเทอราเรียมแบบเปิดค่ะคุณเครดิตภาพ : พริกเผ็ด(ผู้เขียน)ดิฉันได้เขียนเรื่องราวของเทอราเรียมแบบปิดไปก่อนแล้ว ส่วนในเทอราเรียมแบบเปิดนี้ก็จะใช้วิธีการเรียงชั้นดินเหมือนกัน อาจมีแตกต่างบ้างเล็กน้อยเพราะมีตัวเลือกที่สามารถนำมาใช้ได้กว้างกว่าการเรียงชั้นดินในเทอราเรียมแบบเปิดชั้นล่างสุดคือ หินภูเขาไฟ ซึ่งมีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดี มีรูพรุน บางคนก็ใช้กรวด ขนาดของหินในชั้นนี้จะแปรผันไปตามภาชนะที่จะใส่ อย่างเช่น หากเป็นโหลแก้วที่มีความสูงมากก็จะสามารถใส่หินขนาดใหญ่ลงไปได้ แถมยังดีเสียอีกเพราะเทอราเรียมจะได้มีพื้นที่กักเก็บความชื้นได้มากขึ้นกระเถิบขึ้นมาอีกชั้นคือ ถ่าน เราใช้สำหรับดับกลิ่นอับ สามารถทุบจนมีขนาดเล็กหรือใหญ่ตามต้องการสแฟกนั่มมอส(Sphagnum Moss) คือมอสที่เกิดทับซ้อนกันขั้นมาเรื่อย ๆ จนมอสด้านล่างอัดกันแน่น สแฟกนั่มมอสจากนิวซีแลนด์จะมีคุณภาพดีที่สุด สามารถระบายอากาศได้ดี แต่หากเป็นสแฟกนั่มมอสจากเมืองจีนจะสีคล้ำและป่นง่าย วิธีใช้คือนำสแฟกนั่มมอสไปแช่น้ำจนพองตัว จากนั้นบิดหมาดแล้ววางลงทับบนชั้นถ่าน(ข้อ2) เพื่อที่จะแบ่งชั้นดินและชั้นถ่านออกจากกันให้ชัดเจน เอาไว้กันดินร่วงลงใส่ถ่านและหินภูเขาไฟ อีกทั้งเป็นการอุ้มน้ำก่อนถึงชั้นดินในส่วนของชั้นดินสำหรับปลูกจะใช้เป็น พีทมอส(Peat Moss) คือมอสที่ย่อยสลายโดยใช้เวลานานเป็นพันปี เป็นเครื่องปลูกแทนดินปลูกทั่วไปได้ดีเยี่ยม มีธาตุอาหาร เก็บความชื้นได้ดีแต่ไม่ชื้นจนแฉะ ดิฉันขอแนะนำสักนิดสำหรับคนที่จะซื้อพีทมอสมาใช้ เพราะตัวดิฉันเองเคยไปจ๊ะเอ๋กับพีทมอสบางยี่ห้อที่มีเพลี้ยปนมาด้วย... ค่ะคุณ เพลี้ย! สำหรับคนเลี้ยงพืชนั้นต่างก็รู้กันดีว่าเพลี้ยคือศัตรูตัวร้าย เมื่อมาแล้วก็ยากที่จะกำจัดทิ้ง แถมยังกระจายไปยังต้นไม้ต้นอื่นเรื่อย ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งสมัยก่อนนั้นดิฉันต้องเปลี่ยนดินต้นไม้ยกแถบ แต่สมัยนี้มีทางแก้คือการใส่'สตาร์เกิล จี' เป็นสารกำจัดแมลงที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในหมู่คนเลี้ยงไม้อวบน้ำของประเทศไทย วิธีการใช้คือโรยลงก้นหลุมก่อนจะลงไม้ที่จะปลูก อันนี้แนะนำว่าอย่างไรเสียก็ควรใส่กันไว้ก่อนดีกว่าค่ะคุณ แต่อันดับแรกเลยคือสำรวจพีทมอสก่อนใช้นะคะต้นไม้ที่จะปลูก ในเทอราเรียมแบบปิดนับว่าเป็นหัวใจสำคัญ เพราะระดับความชื้นภายในเทอราเรียมนั้นจะมีความแตกต่างกันตามความต้องการน้ำของต้นไม้ชนิดนั้น ๆ แต่สำหรับเทอราเรียมแบบเปิดจะมีความอิสระในการเลือกต้นไม้มากขึ้น อย่างเช่น กระบองเพชร มะพร้าวทะเลทราย ก็สามารถปลูกได้โดยให้ความสำคัญกับความชื้นในดินและสัดส่วนการปรุงดินสำหรับปลูกไม้อวบน้ำเป็นหลัก ซึ่งก็คือหินภูเขาไฟเบอร์เล็ก เพอร์ไลท์(Perlite) หรือไม่ก็ เวอร์มิคูไลท์ (Vermiculite) และพีทมอส มอส หิน ทราย สำหรับปิดหน้าดิน ก้อนหินหรือสิ่งประดับอื่น ๆ สำหรับตกแต่งเรื่องราวให้เทอราเรียมของเราเครดิตภาพ : พริกเผ็ด(ผู้เขียน)ภาพด้านบนคือเรื่องราวของคิงคองแม่ลูกอ่อน ดิฉันได้เจ้าคิงคองมาจากกาชาปองร้านญี่ปุ่นมือสองค่ะคุณ เอ็นดู๊ เอ็นดูเครดิตภาพ : พริกเผ็ด(ผู้เขียน)ภาพด้านบนคือตุ๊กตาโลหะ เป็นกาชาปองจากร้านญี่ปุ่นมือสองเช่นกันค่ะ จัดวางไว้ในลักษณะเหมือนกำลังยืนชมทุ่งซีดัม(ไม้อวบน้ำชนิดหนึ่ง)เครดิตภาพ : พริกเผ็ด(ผู้เขียน)ภาพด้านบน อ้าว! ลุงโยดา! ลุงไปแอบทำไมตรงนั้นล่ะคะ?เครดิตภาพ : พริกเผ็ด(ผู้เขียน)ภาพด้านบน I am Groot! ตัวนี้ดิฉันสั่งมาจากอินเตอร์เนตค่ะคุณเครดิตภาพ : พริกเผ็ด(ผู้เขียน)เทอราเรียมขนาดเล็กเหมาะกับการวางบนโต๊ะทำงานในออฟฟิศมาก แต่ว่าก็ต้องหมั่นให้ต้นไม้ได้รับแสงบ้างนะคะคุณ อย่างต้นไม้บางชนิดมักจะโน้มเอนไปหาแสง เราก็ต้องมาคอยขยับหมุนเทอราเรียมเราบ้างเพื่อที่ต้นไม้จะได้ไม่เสียทรงนะคะ บางคนอาจเลี้ยงไม้ด้วยหลอดไฟ LED ที่เป็นชนิดสำหรับใช้สำหรับการเลี้ยงไม้เท่านั้น ไม่ใช่หลอดไฟตามบ้านปกตินะคะ อันนี้แนะนำว่าควรศึกษาค่าความถี่ของคลื่นแสง ระยะห่างจากต้นไม้ และจุดที่จะติดแผงไฟให้ดีก่อนซื้อ เพราะมันมีรายละเอียดมากกว่าที่คิด แถมราคาก็เอาเรื่องอยู่ทีเดียวเครดิตภาพ : พริกเผ็ด(ผู้เขียน)เครดิตภาพ : พริกเผ็ด(ผู้เขียน)เครดิตภาพ : พริกเผ็ด(ผู้เขียน)ภาพด้านบน การเล่นสีของทรายก็เป็นเทคนิคอย่างหนึ่ง ซึ่งตามปกติแล้วทรายสีเหล่านี้มักไม่เป็นที่นิยมสำหรับใช้ปลูกพืชจริง ๆ เพราะมันไม่เป็นผลดีต่อพืชนั้น ๆ คนส่วนมากจึงมักใช้สำหรับตกแต่งในขวดแก้วเป็นชั้นสีสลับกัน หรือไม่ก็ปลูกใส่ต้นไม้ปลอม แต่กับเทอราเรียมแบบเปิดจะต่างออกไปค่ะ คุณ ดิฉันมีเคล็ดลับสำหรับการรดน้ำมาบอก คุณรู้จักหลอดหยด(Dropper) มั้ยคะ? เราสามารถใช้มันจิ้มลงไปในชั้นดินปลูกแล้วค่อยปล่อยน้ำออกได้โดยไม่กระทบกับผิวทรายด้านบนเลยค่ะคุณ ซึ่งการให้น้ำสำหรับเทอราเรียมแบบเปิดนั้นให้สังเกตสีของชั้นดินปลูกค่ะ ถ้าสีเข้มมากคือดินชื้นมาก แน่นอนว่าต้นไม้แต่ละชนิดก็ต้องการน้ำต่างกัน และอย่าลืมว่าเทอราเรียมไม่มีรูระบายน้ำเหมือนกระถางนะคะ ฉะนั้นการให้น้ำของเราจะไม่ถี่เท่ากับการปลูกในกระถาง อาจเป็นอาทิตย์ละครั้ง หรือสองอาทิตย์ครั้ง ให้น้ำในปริมาณน้อยมากเพราะอย่างไรเสียก็ยังมีการกักเก็บความชื้นของบรรดาชั้นดินต่าง ๆ ที่เราเรียงลงไปในตอนแรก อีกอย่างคือเทอราเรียมเป็นแก้วใส การวางโดนแสงมากอาจทำให้เกิดตะไคร่ที่ผนังดินได้ค่ะคุณขอปิดท้ายกันด้วยเทอราเรียมที่ปลูกไลทอป(Lithops) ค่ะคุณ ไลทอป แปลว่า เหมือนหิน ดิฉันเลยจัดให้เหมือนไลทอปขึ้นแทรกระหว่างหินค่ะคุณ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นไอเดียในการทำเทอราเรียมของคุณผู้อ่านนะคะเครดิตภาพ : พริกเผ็ด(ผู้เขียน)