สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ สวัสดีตอนบ่ายค่า เกริ่นก่อนเลยเนอะ...ด้วยปัจจุบันนี้ภาษาจีนถือเป็นอีกหนึ่งภาษาที่ฮอตฮิตติดลมบนกันมายาวนาน บางคนอาจจะเพิ่งเริ่มศึกษาภาษาจีนและอาจจะเกิดคำถามนี้ขึ้นในใจแบบเงียบ ๆ นั่นก็คือ "เรียนจีนไม่เรียนพินอินได้ไหม?" นั่นเอง เป็นคำถามที่เห็นได้บ่อยเลยสำหรับคนที่กำลังจะเริ่มต้นเรียนภาษาจีน ฮ่า วันนี้ในฐานะที่เราเป็นบัณฑิตจบเอกภาษาจีน (มาแบบหมาด ๆ กันเลยทีเดียวล่ะ) เลยถือโอกาสเขียนบทความนี้ขึ้นมาค่ะ :-) เนื้อหาจะเป็นยังไงบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลย( ภาพโดยผู้เขียน )ขออนุญาตเท้าความกันก่อนว่า "พินอิน" (pinyin) มันคืออะไร ? เพื่อน ๆ บางคนอาจจะยังไม่รู้จัก ว่าง่าย ๆ เลยพินอินก็คือตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ยืมมาเพื่อช่วยในการออกเสียงในภาษาจีนค่ะ หรือเรียกง่าย ๆ คืออักษรที่ใช้แทนเสียงนั่นเอง ซึ่งจะมีทั้งส่วนของพยัญชนะและสระ ผู้ที่กำลังเริ่มต้นสนใจภาษาจีนมักเกิดคำถามว่า "เรียนจีนไม่เรียนพินอินได้ไหม?" อยู่เสมอ ซึ่งเราเข้าใจได้นะว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น คนที่ต้องการจะเรียนเพื่อการสื่อสารเลย หรืออยากเรียนเพื่อต้องการที่จะนำไปใช้เลยในทันที ไม่ได้ต้องการเรียนเพื่อปูพื้นฐานไปเรื่อย ๆ โดยเริ่มต้นตั้งแต่ฐานสุดของมัน ก็อาจจะคิดแบบนี้ได้ ซึ่งไม่ผิดค่ะ สารภาพเลยตรงนี้ว่าเราก็เคยเป็นคนหนึ่งที่คิดว่าเรียนจีนไม่เห็นต้องเรียนพินอินก็ได้เหมือนกันนะ( ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay )ความจริงคำตอบของคำถามนี้มีทั้งได้และไม่ได้ ส่วนตัวเราคิดว่าถ้าจะเรียนจีนทั้งทีควรเริ่มตั้งแต่พินอินเลยจะดีกว่า ไม่ว่าคุณจะรีบร้อนนำไปใช้ในการสื่อสารมากแค่ไหนก็ตาม หรือไม่ต้องการเรียนตั้งแต่พื้นฐานล่างสุดเลยก็ตาม เราก็ยังยืนยันคำตอบ (สำหรับความคิดของเรา) ว่า ควรจะเรียนค่ะพินอินเป็นหนึ่งในสิ่งจำเป็นของการออกเสียงภาษาจีน ทำให้ผู้เรียนได้รับผลประโยชน์หลังจากนั้นอย่างไม่รู้จบ เป็นรากฐานต้นแบบในการออกเสียงที่ถูกต้อง และถือเป็นการเริ่มต้นที่มั่นคงมาก ๆ อีกด้วย นอกจากนั้น ส่วนตัวเรารู้สึกว่าพินอินทำให้เราจำคำศัพท์จีนและคำอ่านได้ง่ายขึ้น เหมือนเราใช้พินอินเป็นไกด์ในการออกเสียง ซึ่งถ้าใครที่มองข้ามไป ไม่ได้ศึกษาในส่วนของพินอิน...เวลาจำคำศัพท์หรือจำการออกเสียงแต่ละตัวก็จะยากกว่ามาก ๆ เลยล่ะค่ะ ลองสังเกตดูได้ มันจะไม่มีหลักจำเท่าไหร่( ขอบคุณรูปภาพจาก unsplash )ที่เราบอกไปว่าส่วนตัวก็เคยเป็นคนหนึ่งที่คิดว่าเรียนจีนไม่เห็นต้องเรียนพินอินก็ได้นั้น เรามาเปลี่ยนความคิดตอนเรียนไปได้สักพักแล้วค่ะ เพราะว่าเริ่มเรียนหนักขึ้น เรียนเยอะขึ้นและลึกขึ้นกว่าเดิม ก็เลยเริ่มรู้สึกว่าถ้าไม่มีพินอินช่วยกำกับเสียงที่ถูกต้อง หรือถ้าเราไม่ได้เรียนพินอินมาก่อน อาศัยแค่จำเสียงแล้วเลียนแบบตามเอานี่คงไม่น่าไหว คำศัพท์มันเยอะมาก ๆ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเลียนเสียงตามต้นฉบับได้ถูกต้องโดยที่ไม่มีตัวมากำกับเสียง (นอกเสียจากใครที่ใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมของภาษานั้นมาตั้งแต่เล็ก ก็อาจจะพอไหวค่ะ)เพราะฉะนั้น ถ้าเกิดมีใครมาถามเราว่าไม่เรียนพินอินได้ไหม เพราะจะเรียนแค่ให้พูดได้ ไม่ได้จะเรียนไปสอบหรือเขียนรายงาน แค่จะเรียนเพื่อสื่อสาร เราก็ยังอยากให้เรียนพินอินอยู่ดี เนื่องจากประโยชน์มันเยอะกว่าไม่เรียนเลยมาก ๆ (และมันไม่ได้เสียเวลามากขนาดนั้นที่จะเรียน) ค่อนข้างเข้าใจง่ายและใช้ง่ายด้วยซ้ำไปค่ะหนึ่งเลยคุณจะออกเสียงชัดกว่าคนที่ไม่เรียนแน่นอน สองคุณจะจำคำศัพท์ได้ไวกว่ามากเพราะมีตัวอักษรแทนเสียงกำกับชัดเจน มันจะเชื่อมโยงกันได้ง่าย ทำให้จำง่ายขึ้น สามคือมันต่อยอดได้เยอะเลยค่ะ (ในแง่ของใครที่อยากเรียนไปเรื่อย ๆ นาน ๆ พินอินสำคัญมาก)( ขอบคุณรูปภาพจาก unsplash )แต่ในอีกมุมมองหนึ่ง บางคนก็ตอบว่าไม่เรียนพินอินได้นะ อันนี้เราคิดว่าแล้วแต่สะดวกดีกว่าค่ะ บางคนอาจจะให้ความสำคัญกันคนละจุด เราก็เข้าใจได้ ฮ่า แต่ในมุมมองของเรา (ที่พูดไปหมดแล้วด้านบน) อยากให้เรียนนะคะ ไม่เสียหายเลย ไม่ยากเกินเข้าใจด้วยล่ะ ใครที่กำลังสนใจภาษาจีนแล้วกำลังเกิดคำถามประมาณนี้ในใจ เราให้คำตอบว่าควรเรียนค่ะ ซึ่งเหตุผลมีประกอบเราเขียนไว้ประมาณหนึ่งด้านบนหมดแล้วเช่นเดียวกัน :-D สำหรับบทความ เรียนจีนไม่เรียนพินอินได้ไหม ? ของเราในวันนี้ก็จบลงแค่นี้ หวังว่าทุกคนจะได้รับประโยชน์และชื่นชอบกันนะคะ ไว้เจอกันใหม่บทความหน้า รักษาสุขภาพด้วยนะคะ สวัสดีค่ะ เครดิตภาพปกจาก pixabay